Thailand Web Stat

ไพบูลย์ อวย บิ๊กตู่ เรื่องจงรักภักดี หนุนให้อยู่ในตำแหน่งต่อ อย่าสนใจเสียงคนแค่ไม่กี่หมื่น

          ไพบูลย์ นิติตะวัน อภิปรายชื่นชม พล.อ. ประยุทธ์ เป็นเลิศเรื่องจงรักภักดีต่อสถาบัน ติงผู้ชุมนุมที่จาบจ้วง พร้อมหนุนนายกฯ อยู่ในตำแหน่งต่อไป อย่าสนใจเสียงไม่กี่หมื่นคน มากกว่า 8.4 ล้านคนที่เลือกท่านมา


          วันที่ 26 ตุลาคม 2563 สำนักข่าว INN รายงานว่า ที่รัฐสภา นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวอภิปรายตอนหนึ่งว่า การชุมนุมที่มีการจาบจ้วงสถาบันกษัตริย์มีมาอย่างต่อเนื่อง และเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม ที่ผ่านมา มีการกระทำการขัดขวางรุมล้อมตะโกนด้วยถ้อยคำหยาบคาย การกระทำของผู้ชุมนุมถือเป็นปฏิปักษ์ต่อสถาบัน มีเป้าหมายหลักต้องการปฏิรูปสถาบัน แต่ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นบุคคลที่เป็นเลิศในเรื่องความจงรักภักดีต่อสถาบันกษัตริย์ เป็นผู้ที่มีความเข้มแข็งในการปกป้องสถาบัน แกนนำผู้ชุมนุมจึงเรียกร้องให้ พล.อ. ประยุทธ์ ลาออก เพื่อให้การปกป้องประเทศอ่อนแอลงจนนำไปสู่การปฏิรูป

          ตนจึงขอเรียกร้องให้ พล.อ. ประยุทธ์ อยู่ในตำแหน่งทำหน้าที่ปกป้องสถาบันต่อไป ขอให้บริหารประเทศด้วยความมั่นคง และเพื่อแก้ปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจ อย่าลาออกตามฝ่ายที่เรียกร้อง ซึ่งมีเพียงไม่กี่หมื่นคน ท่านต้องคำนึงถึงเสียงประชาชน 8.4 ล้านคน ที่เลือกท่านมาเป็นนายกฯ

          นายไพบูลย์ กล่าวอีกว่า รัฐธรรมนูญ 2560 มีบทบัญญัติที่คุ้มครองสถาบันหลายมาตรา และที่ชัดเจนคือการเสนอให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือ ส.ส.ร. ที่ไม่ได้กำหนดห้ามผู้เคยถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง เพื่อเปิดช่องให้แกนนำเครือข่ายผู้ชุมนุม อดีตผู้บริหารพรรคอนาคตใหม่ ได้รับเลือกเป็น ส.ส.ร.

          การเรียกร้องให้นายกฯ ลาออก เพื่อนำไปสู่การสร้างรัฐธรรมนูญที่มุ่งไปสู่การปฏิรูปสถาบัน ซึ่งหากปรากฏว่าพรรคการเมืองใด ผู้บริหารพรรคการเมืองใด หรือ ส.ส. ของพรรคการเมืองใด ไปเข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มที่ต้องการปฏิรูปสถาบัน หรือเสนอตั้งคณะกรรมาธิการ ปฏิรูปสถาบัน จะเข้าข่ายสนับสนุนการเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งเป็นคดีอาญา

          อีกทั้งในการชุมนุมครั้งนี้ นักการเมืองได้ใช้เยาวชนเป็นเครื่องมือในการแย่งชิงอำนาจ ตนขอประณามนักการเมืองที่แอบข้างหลังเยาวชนของชาติ

          ส่วนข้อเรียกร้องให้ยุบสภา หากนายกฯ กระทำแบบนั้นจะมีผลเสียหายโดยรวม ตนจึงเสนอให้ใช้การออกเสียงประชามติ ให้ประชาชนทั้งประเทศออกเสียงเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยต่อการจัดการชุมนุมในปัจจุบัน การออกเสียงประชามติทำได้ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 166 และอาจตราเป็นพระราชกำหนด หรือ พ.ร.ก.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ เพื่อให้ทันต่อสถานการณ์

          หากการออกเสียงประชามติเกิดขึ้นจะเท่ากับเสียงคนทั้งประเทศได้มีส่วนร่วมในการออกเสียงว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับการชุมนุม และจะได้ข้อยุติซึ่งเป็นหลักการประชาธิปไตยทางตรง ไม่ใช่คนหลักหมื่นมาอ้างเสียงของประชาชนทั้งประเทศ

          อย่างไรก็ตาม ตนมั่นใจว่าประชาชนเสียงข้างมากกว่า 90% จะไม่เห็นด้วยกับการชุมนุมที่จาบจ้วงสถาบันที่เกิดขึ้นอยู่ในปัจจุบัน แต่ไม่ว่าจะมีการออกเสียงประชามติหรือไม่ แกนนำที่เป็นปฏิปักษ์ต่อสถาบันในขณะนี้ ย่อมไม่ได้รับการยอมรับจากประชาชนทั้งประเทศอยู่แล้ว ในที่สุดจะพ่ายแพ้ไปเอง ตนขอให้ประชาชนอีกกว่า 60 ล้านคน ออกมาพิทักษ์ รักษาชาติ ศาสนา และสถาบันให้จงได้

ขอบคุณข้อมูลจาก สำนักข่าว INN

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ไพบูลย์ อวย บิ๊กตู่ เรื่องจงรักภักดี หนุนให้อยู่ในตำแหน่งต่อ อย่าสนใจเสียงคนแค่ไม่กี่หมื่น อัปเดตล่าสุด 26 ตุลาคม 2563 เวลา 22:29:18 3,641 อ่าน
TOP
x close