ปารีณา ขู่คนเบื้องหลังม็อบปลดแอก ระวังจะไม่มีแผ่นดินอยู่ ยืนยันปฏิรูปสถาบันไม่ได้

           นางสาวปารีนา กล่าวว่า วันนี้อยากขอบคุณคณะรัฐมนตรี ที่เสนอให้เปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญในรูปแบบที่มีความเป็นไปได้ พร้อมย้ำว่าจุดเริ่มต้นของการแตกแยกไม่ได้เกิดจากเยาวชน หรือ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม หรือสถาบันใด ๆ แต่เกิดจากการใช้โซเชียลมีเดีย ซึ่งถือเป็นสื่อที่ทรงพลังที่สุด และบุคคลที่อยู่เบื้องหลังของความแตกแยกได้ใช้โซเชียลมีเดียในการปลุกปั่น สร้างความเกลียดชัง สร้างความแตกแยก แชร์ภาพข้อมูลอันเป็นเท็จ สร้างข่าวปลอม ซึ่งเยาวชนควรติดตามข่าวสารที่แท้จริง
           นอกจากนี้ การชุมนุมยังมีความรุนแรง ก้าวร้าว จาบจ้วง หลังประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน มีข้อเรียกร้องให้รัฐบาลหยุดคุกคามประชาชน หยุดใช้กฎหมายจับกุมและปิดปากประชาชนที่เห็นต่าง เพราะมีสิทธิเสรีภาพ ตนมองว่าเป็นการพูดเพียงครึ่งเดียว เพราะการประกาศหลัง 14 ตุลาคม 2563 สถาบันต่างหากที่ถูกคุกคามเสรีภาพ ถูกกีดขวางเส้นทางเสด็จอย่างชัดเจน และไม่ใช่ขบวนเสด็จที่มุ่งเข้าไปที่ม็อบ ซึ่งเยาวชนยังดูหมิ่นสถาบันซึ่งหน้า พูดจาก้าวร้าวหยาบคาย จึงเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องควบคุมเยาวชน
           นางสาวปารีณา กล่าวทิ้งท้าย ถึงประเด็นการปฏิรูปสถาบัน ที่มักได้ยินว่าปฏิรูปไม่ได้แปลว่าล้มล้าง ปฏิรูปแปลว่าทำให้ดีขึ้น ซึ่งเป็นความเข้าใจของคนกลุ่มน้อยที่หลงเชื่อโซเชียลมีเดียว่าสถาบันมีปัญหา ข้อเท็จจริงเราไม่จำเป็นต้องปฏิรูปสถาบัน และเราปฏิรูปสถาบันไม่ได้อยู่แล้ว ประเทศไทยปกครองโดยระบอบประชาธิปไตยโดยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

           ดังนั้นจึงเป็นข้อเสนอที่บังอาจไปแตะต้องสถาบัน ตนจึงขอเรียกร้องให้ฝ่ายการเมืองและผู้ที่ให้การสนับสนุนอยู่เบื้องหลังม็อบเยาวชนหยุดใช้เยาวชนให้เป็นเครื่องมือ หยุดการกระทำทุกอย่างที่มิบังควร เพราะเวลาใกล้จะหมดแล้ว และอาจต้องจบด้วยไม่มีแผ่นดินอยู่

ขอบคุณข้อมูลจาก สำนักข่าว INN