เลือกตั้งสหรัฐฯ 2020 ล่าสุด โจ ไบเดน พลิกกลับมาอีกครั้ง พร้อมประกาศเป็น ประธานาธิบดี

อัปเดตผลการเลือกตั้ง สหรัฐอเมริกา โจ ไบเดน จากที่ถูกทรัมป์หายใจรดต้นคอ ผลสามารถพลิกคว้าชัยในรัฐมิชิแกน วิสคอนซิน แอริโซนา และผลกำลังนำในรัฐเนวาดา เข้าใกล้ชัยชนะมากขึ้นทุกขณะ

ภาพจาก lev radin / Shutterstock.com

           ยังคงเกาะติดกันต่อ กับผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา ที่มีนายโจ ไบเดน ตัวแทนจากพรรคเดโมแครต ลงชิงชัยกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนจากพรรครับรีพับลิกัน ซึ่งผลล่าสุดปรากฏว่า นายโจ ไบเดน สามารถพลิกเกมได้อีกครั้ง และคว้าชัยในรัฐสำคัญ ๆ อย่าง วิสคอนซินและมิชิแกน

-เข้าใจกติกา

        ชาวอเมริกันทุกคน ทุกรัฐ เมื่อออกไปเลือกตั้ง จะเป็นการเลือกตั้งเพื่อสรรหาประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดี และหากตัวแทนพรรคใด ได้รับคะแนนเสียงส่วนมากจากคนในรัฐนั้น ๆ ตัวแทนพรรคนั้น ก็จะได้คะแนนคณะผู้เลือกตั้ง และรับชัยชนะในรัฐนั้น ๆ ไป (Electoral Vote)

       แต่ละรัฐ มีจำนวนคณะผู้เลือกตั้ง (Electoral Vote) ประธานาธิบดี เท่ากับจำนวนตัวแทนของรัฐในสภาคองเกรส ผู้เลือกตั้งทั้งหมดมีจำนวน 535 เสียง แบ่งเป็นวุฒิสมาชิก 100 เสียง และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 435 เสียง ผู้เลือกตั้งประธานาธิบดีแต่ละคน จะลงคะแนนเสียง 1 เสียงหลังการเลือกตั้งทั่วไป และผู้สมัครที่ได้รับคะแนนเสียงเกินกึ่งหนึ่ง (270 เสียง) จะชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดี

ภาพจาก Evan El-Amin / Shutterstock.com

-โจ ไบเดน พลิกเกมคว้าชัยใน 2 รัฐสำคัญ

สิ่งสำคัญที่ทำให้นายโจ ไบเดน เข้าใกล้เส้นชัยของการเป็นประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา คือการที่เขาชนะใน 2 รัฐสำคัญ คือ วิสคอนซินและมิชิแกน โดยในปี 2016 นั้น นายทรัมป์เป็นผู้ชนะทั้งในรัฐมิชิแกนและวิสคอนซิน

ก่อนหน้านี้ รัฐมิชิแกนมักจะเลือกผู้แทนจากพรรคเดโมแครตมาโดยตลอด จนกระทั่งปี 2016 ที่นายทรัมป์ชนะการเลือกตั้งในรัฐนี้ ด้วยคะแนนเสียงที่เฉือนนางฮิลลารี่ คลินตัน เพียงแค่ 10,704 เท่านั้น

ในตอนนี้มีการนับคะแนนในรัฐมิชิแกนไปแล้วกว่า 98% ในช่วงแรกของการนับคะแนน นายโดนัลด์ ทรัมป์ ก็มีคะแนนนำมาโดยตลอด แต่สุดท้าย นายโจ ไบเดน ก็มาพลิกแซง ชนะคะแนนนายทรัมป์ที่ 119,755 เสียงเท่านั้น

ภาพจาก Evan El-Amin / Shutterstock.com

ในส่วนของรัฐวิสคอนซิน ในปี 2016 วิสคอนซินเป็นอีกรัฐที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ สามาถคว้าชัยมาครองได้สำเร็จ และถือเป็นครั้งแรกที่ตัวแทนจากพรรครีพับลิกัน สามารถเอาชนะในรัฐวิสคอนซินได้ตั้งแต่ปี 1984 ด้วยชัยชนะของนายทรัมป์ต่อนางฮิลลารี่ คลินตัน เพียง 23,000 คะแนนเท่านั้น

ส่วนในตอนนี้ มีการนับคะแนนในวิสคอนซินไปแล้วกว่า 98% ซึ่งนายโจ ไบเดน เฉือนชนะนายทรัมป์เพียง 20,510 เสียงเท่านั้น

ผลสรุปภาพรวมทั้งหมด พบว่า นายไบเดนคว้าเสียงไปจากผู้เลือกตั้งไปแล้ว 253 เสียง และนายทรัมป์คว้าเสียงจากผู้เลือกตั้ง 214 เสียง ซึ่งใครได้ 270 เสียงก่อน จะคว้าตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาไปครอง

-ยังเหลือการนับคะแนนในอีก 6 รัฐสำคัญ ที่ยังต้องลุ้นต่อ

แม้นายไบเดน จะขยับเข้าใกล้เส้นชัย แต่ก็ถือว่าไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะยังมีรัฐสำคัญที่ยังนับคะแนนไม่เสร็จ คือ จอร์เจีย นอร์ทแคโรไลนา เพนซิลเวเนีย แอริโซนา เนวาดา อะแลสกา

อย่างไรก็ตาม ใน 2 รัฐสำคัญอย่าง เนวาดา ที่นายไบเดนนำมาตลอด ก็ถูกคะแนนเสียงนายทรัมป์ตีตื้นขึ้นมาเรื่อย ๆ ห่างกันเล็กน้อยเพียง 8,000 กว่าคะแนน รวมไปถึงรัฐแอริโซนา ที่ยังนับไม่เสร็จ แต่ตอนนี้ นายไบเดนกำลังนำอยู่ โดยที่ในรัฐแอริโซนานี้ นายทรัมป์ได้คาดหวังมากเป็นพิเศษด้วยการทำแคมเปญอย่างหนักหน่วง เพื่อช่วงชิงพื้นที่แห่งนี้ที่นายทรัมป์เคยชนะการเลือกตั้งมาแล้วในปี 2016 และคาดว่าแอริโซนาและเนวาดา จะกลายมาเป็นรัฐที่ตัดสินว่า ใครจะได้เป็นประธานาธิบดีของอเมริกา

ภาพจาก Evan El-Amin / Shutterstock.com

ทรัมป์จะกลับมาพลิกเกมชนะได้ไหม ? โอกาสยังไม่ปิดเสียทีเดียว

        แม้ว่านายไบเดน ดูท่าว่าจะเข้าเส้นชัยคว้า 270 เสียงได้ก่อน ทว่า หนทางการกลับมาสู่การเป็นประธานาธิบดีสมัยที่ 2 ของนายทรัมป์ ก็ยังไม่หมดไปเสียทีเดียว ซึ่งเส้นทางที่นายทรัมป์จะไปถึงจุดนั้นได้ คือ ต้องชนะการเลือกตั้ง 20 เสียงจากคณะผู้เลือกตั้งในรัฐเพนซิลเวเนีย (นายทรัมป์นำอยู่) รวมไปถึงชนะการเลือกตั้งในรัฐจอร์เจีย แอริโซนา รวมถึงการพยายามพลิกกลับมาชนะในรัฐเนวาดา ซึ่งถือว่าเป็นรัฐตัดสินผลแพ้ชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้ก็ว่าได้

ส่วนเส้นทางในการชนะอย่างหมดจดของนายไบเดนนั้น คือ

        1. เขาจะต้องชนะในรัฐเพนซิลเวเนีย ซึ่งเพิ่งเริ่มให้มีการนับคะแนนจากการเลือกตั้งล่วงหน้าทางไปรษณีย์ โดยวิธีการเลือกตั้งแบบนี้ เป็นวิธีการเลือกตั้งที่นายไบเดนรณรงค์หาเสียงมาตลอด เพื่อป้องกันโควิด 19 จึงมีการคาดการณ์ว่า หากเปิดคะแนนเสียงจากไปรษณีย์แล้ว อาจจะพบว่ามีฐานเสียงของนายไบเดนลงคะแนนแบบนี้เยอะ และส่งผลให้คะแนนของนายไบเดนกลับมาตีตื้นอีกครั้งในรัฐนี้

        2. หากนายไบเดนยังคงรักษาคะแนนนำในรัฐเนวาดาได้ นายไบเดนก็อาจจะได้คะแนนรัฐแอริโซนาไปด้วย ซึ่งมีสำนักข่าวบางแห่งประกาศชัยชนะของนายไบเดนในพื้นที่รัฐแอริโซนาไปแล้ว แม้ว่าจะยังคงมีบัตรเลือกตั้งอีกนับพันใบที่ต้องนับอยู่

3. นายไบเดนจะต้องชนะในรัฐเนวาดาและจอร์เจียพร้อมกัน หรือไม่ก็รัฐแอริโซนาหรือจอร์เจีย พร้อมกับคว้าชัยในรัฐเนวาดา จากนั้นก็ไม่จำเป็นต้องพึ่งคะแนนจากรัฐเพนซิลเวเนียอีก

ไบเดน มั่นใจจะเป็นฝ่ายคว้าชัย เมื่อการนับคะแนนสิ้นสุด

ขณะที่ซีบีเอสนิวส์ มีรายงานถึงสุนทรพจน์จาก โจ ไบเดน ที่ได้กล่าวแสดงความมั่นใจในโค้งสุดท้ายของการนับคะแนน ซึ่งยังเหลืออีก 6 รัฐ โดยในตอนหนึ่งเขากล่าวย้ำว่า "ทุกเสียงโหวตต้องถูกนับ ไม่มีใครจะพรากประชาธิปไตยไปจากเราได้ ไม่ใช่ทั้งในขณะนี้และตลอดไป"

"อเมริกาก้าวมาไกลแล้ว อเมริกาต่อสู้มามาเกินไป อเมริกาอดทนมามากเกินไปต่อสิ่งที่เกิดขึ้น พวกเราประชาชนจะไม่เงียบเสียงอีก เราประชาชนจะไม่ถูกกลั่นแกล้ง เราประชาชนจะไม่ยอมจำนน"

ไบเดน ยังระบุว่า อำนาจไม่ใช่สิ่งที่จะครอบครองได้ แต่มันมาจากประชาชน เป็นเจตจำนงของพวกเขาว่าใครจะได้เป็นประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา ซึ่งในตอนนี้่หลังค่ำคืนในการนับคะแนนอันยาวนาน มันชัดเจนว่าเราชนะในรัฐมากพอที่จะได้รับคะแนน 270 เสียง ที่จำเป็นเพื่อจะได้เป็นประธานาธิบดี

"ผมไม่ได้อยู่ที่นี่เพื่อประกาศว่าเราชนะ แต่ผมอยู่ที่นี่เพื่อรายงานว่า เมื่อการนับคะแนนสิ้นสุดลง เราเชื่อว่าเราจะเป็นฝ่ายคว้าชัย"

https://twitter.com/JoeBiden/status/1324172079025934336

อีกเพียงไม่กี่ก้าว สำหรับ โจ ไบเดน

โจ ไบเดน มีคะแนนขึ้นนำ โดนัลด์ ทรัมป์ 264 - 214 เสียง หลังคว้าชัยชนะเพิ่มในรัฐแอริโซนา ซึ่งเขายังต้องการอีก 6 เสียง เพื่อให้ได้คะแนนเกินกึ่งหนึ่งใน Electoral Vote หรือ 270 เสียง สู่การเป็นประธานาธิบดี และหากเขาได้รับชัยชนะในรัฐเนวาดา ที่ขณะนี้ยังมีคะแนนนำอยู่ ก็จะได้รับเสียงถึง 270 เสียงทันที

อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าจับตาว่า ทรัมป์ กำลังทำคะแนนไล่จี้ ไบเดน ในรัฐเนวาดา ขณะที่ในรัฐจอร์เจีย ไบเดน ก็มีคะแนนไล่ตาม ทรัมป์ มาติด ๆ เช่นกัน

อัปเดตเลือกตั้งสหรัฐฯ 2020 โจ ไบเดน พลิกเกมอีกครั้ง พร้อมก้าวสู่การเป็นประธานาธิบดี