เบื้องลึก รักสามเส้า ฉุดเมียชาวบ้าน รักต้องห้ามที่ห้ามใจไม่ได้ สู่คำถาม ผู้หญิงจะเลือกใคร

          เปิดเบื้องลึกข่าว หนุ่มบุกไปฉุดภรรยาคนอื่นกลางร้านของชำขึ้นรถบิ๊กไบค์ ก่อนคดีพลิกว่าฝ่ายหญิงระบายว่าโดนสามีทำร้าย อยู่กันเพื่อลูก จนฝ่ายหญิงต้องเลือก จะไปอยู่กับชายคนใหม่ หรือกลับไปอยู่กับสามี

- จุดเริ่มต้นจากการฉุดขึ้นรถ ร้องให้คนช่วยแต่มาช่วยไม่ทัน

          จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้ เริ่มเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา จากการที่มีรถบิ๊กไบค์คันหนึ่งมาจอดที่หน้าร้านของชำ ในย่านชุมชนบ้านท่อ ต.ป่าตัน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ จากนั้น นายอ่องยุ่น ชายที่มากับรถบิ๊กไบค์ ก็เดินเข้าไปในร้านของชำ เพื่อพูดคุยกับนางหยก ผ่านไป 10 นาที นายอ่องยุ่นก็กึ่งดึงกึ่งลากนางหยกให้ขึ้นบิ๊กไบค์ไปด้วยกัน แต่นางหยกไม่ยอมและตะโกนให้คนช่วย แต่คนมาช่วยไม่สำเร็จทำให้นางหยกต้องไป

- สามียอมรับ แต่งงานอยู่กินกันแต่ไม่จดทะเบียน รู้ว่ามีชู้ เมียก็รับปากจะเลิกกับชู้

          ด้าน นายวิรัตน์ สามีของนางหยก เผยภายหลังจากที่เข้าแจ้งความกับตำรวจว่า ตนและนางหยกเป็นสามีภรรยากัน อยู่กินกันมา 10 ปี แต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส ต่างฝ่ายต่างมีลูกติด ก่อนเกิดเหตุ ตนเห็นว่านางหยกแอบคุยกับนายอ่องยุ่น ชายที่มาฉุดนางหยกไป พร้อมกับมีภาพถ่ายทั้งคู่ที่สนิทชิดเชื้อ นางหยกยอมรับกับตนว่ารู้จักนายอ่องยุ่นผ่านเฟซบุ๊ก ตนบอกให้เลิกกัน นางหยกก็รับปากไปตามนั้น

          อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุการณ์ฉุดนางหยก ตนก็ติดต่อไปหานายอ่องยุ่น นายอ่องยุ่นก็ส่งข้อความเสียงมาข่มขู่ตนทางเฟซบุ๊ก แล้วก็บล็อกเฟซบุ๊กไป ทำให้ตนกินไม่ได้ นอนไม่หลับ

          สิ่งที่ตนต้องการคือ อยากให้นางหยกมาคุยกันดี ๆ หากนางหยกอยากไป ตนก็พร้อมปล่อยให้ไป เพราะตนเป็นลูกผู้ชายพอ

- ตำรวจตามตัวจนพบนายอ่องยุ่น สารภาพ เป็นชู้กับคนมีลูกมีผัว มาฉุดเพราะไม่ไปลอยกระทงด้วยกัน

          ด้าน พ.ต.อ. วชิรศักดิ์ ศรีประสม ผู้กำกับการสืบสวน 3 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 5 พร้อมชุดสืบสวน ได้ตามตัวจนพบกับนายอ่องยุ่นและนางหยก อยู่ที่ อ.หางดง จ.เชียงใหม่ ซึ่ง นายอ่องยุ่น เผยว่า ตนรู้จักกับนางหยกทางเฟซบุ๊ก และตกหลุมรักตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกัน แม้จะรู้ว่านางหยกมีลูกมีสามีแล้ว แต่ตนก็ยอมรับสถานะชู้กว่า 8 เดือน เวลาคุยโทรศัพท์หรือส่งข้อความก็ต้องแอบ

          นางหยกเคยบ่นให้ตนฟังว่า นางหยกไม่มีความสุขในชีวิตแต่งงาน สามีชอบทำร้ายร่างกาย แต่ที่ทนอยู่ก็เพราะลูกและแม่ ก่อนที่ตนจะไปฉุดนัดกันว่าจะไปลอยกระทงด้วยกัน แต่พอถึงเวลานัด นางหยกกลับไม่มา ตนก็โทรศัพท์ไปหา และจบลงที่การทะเลาะกัน นางหยกบอกว่าสามีจับได้แล้วว่าคุยกัน ตนจึงต้องมาหานางหยกเพื่อตกลงและเคลียร์กันให้รู้เรื่อง

- ถึงจุดตัดสินใจ จะอยู่กับคนที่มาก่อน หรือคนที่มาทีหลัง

          นายอ่องยุ่นได้พานางหยกไปที่หอพักของเพื่อนใน อ.หางดง เพื่อตกลงกันว่าจะเอายังไง นายอ่องยุ่น ยืนยันว่า ไม่มีการทำร้ายนางหยกแต่อย่างใด

          ทั้งนี้ นายอ่องยุ่น ถามว่า นางหยกจะเลือกใคร นางหยก บอกว่า จะเลือกนายอ่องยุ่น ซึ่งนายอ่องยุ่นก็บอกว่าจะไปเจรจากับนายวิรัตน์ สามีของนางหยก พร้อมกับรับแม่ของนางหยก ลูกของนางหยก และรับนางหยกมาดูแล แม้ตอนนี้จะตกงาน แต่ก็พร้อมขายรถจักรยานยนต์ กลับเมียนมาเพื่อไปตั้งตัว

          ส่วนข้อความที่ส่งไปขู่นายวิรัตน์นั้น นายอ่องยุ่น บอกว่า ตนส่งไปจริง เพราะตนไม่อยากให้นางหยกเจ็บตัวอีกต่อไป ตนขอเป็นฝ่ายเจ็บแทน

- นางหยกบอกกับนายอ่องยุ่นแบบหนึ่ง บอกกับนักข่าวอีกแบบ งงไปหมด

          แม้นางหยกจะบอกกับนายอ่องยุ่นว่าจะเลือกนายอ่องยุ่น แต่เมื่อผู้สื่อข่าวถาม นางหยก กลับบอกว่า ตอนนี้ยังไม่ตัดสินใจ แต่ที่ผ่านมายอมรับว่านายวิรัตน์ชอบตบตีจริง ๆ

ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวช่องวัน, ข่าวช่องวัน