โจ ไบเดน ประกาศชัย หลังชนะการเลือกตั้ง ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาคนใหม่ ประเดิมศึกแรก เตรียมแผนสู้ COVID-19 พร้อมเปิดคำมั่นสัญญาที่จะทำหลังขึ้นนั่งเก้าอี้ผู้นำ
![โจ ไบเดน]( "โจ ไบเดน")
"ผมรู้สึกเป็นเกียรติและเจียมตัว จากความไว้วางใจที่คนอเมริกันมอบให้ผม และแฮร์ริส รองประธานาธิบดีที่ได้รับการเลือก ท่ามกลางอุปสรรคที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ชาวอเมริกันจำนวนมากเป็นประวัติการณ์ พิสูจน์ให้เห็นอีกครั้งว่า ประชาธิปไตยเต้นอยู่ลึกลงไปในใจกลางของอเมริกา เมื่อการหาเสียงสิ้นสุดลง ถึงเวลาที่เราจะนำความโกรธและวาทศิลป์ที่รุนแรงไว้ข้างหลังแล้วมารวมกันเป็นชาติ ถึงเวลาที่อเมริกาจะรวมกันเป็นหนึ่งเดียว และช่วยกันเยียวยารักษา เราคือสหรัฐอเมริกา และไม่มีอะไรที่เราทำไม่ได้ ถ้าเราร่วมมือกัน"
![โจ ไบเดน]( "โจ ไบเดน")
ไบเดน ระบุอีกว่า เขาจะเปิดเผยกลุ่มนักวิทยาศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญที่จะช่วยเขาจัดทำแผนรับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัส ในวันจันทร์นี้ (9 พฤศจิกายน 2563) ซึ่งการแก้ไขปัญหาโควิด 19 เป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญ ที่เขาให้คำมั่นสัญญาไว้ในตอนหาเสียง รวมไปถึงแผนอื่น ๆ อาทิ
- ปัญหาเศรษฐกิจ
ขึ้นภาษีคนรวย หรือกลุ่มผู้มีรายได้สูง ที่มีรายได้มากกว่าปีละ 400,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 12.5 ล้านบาท เพื่อนำมาใช้ลงทุนในกิจการสาธารณะ รวมทั้งขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ
![โจ ไบเดน]( "โจ ไบเดน")
- เรื่องสิ่งแวดล้อม
กลับเข้าสู่ข้อตกลงปารีส ที่ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ยุติโครงการการขุดเจาะน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในพื้นที่สาธารณะ เน้นพลังงานสีเขียว หรือพลังงานสะอาด
ความขัดแย้งทางสังคมโดยเฉพาะปัญหาเหยียดสีผิวและเชื้อชาติ แก้กฎหมายด้านสีผิว รวมทั้งในกระบวนการยุติธรรม ลดอัตราการจำคุก และจำกัดการซื้อปืน ยกเลิกนโยบายต้านผู้อพยพ
- ระบบสาธารณสุข
สานต่อโครงการ Medicare พัฒนาปรับปรุงระบบสวัสดิการรัฐที่ช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาลคนชรา และให้ชาวอเมริกันทุกคนมีสิทธิ์เข้าถึงโครงการประกันสุขภาพของรัฐ
โดยแผนเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งที่จะกลายไปเป็นร่างนโยบายในแบบพิมพ์เขียว ที่ประธานาธิบดีจะประกาศใช้ เมื่อเขาและคณะบริหารเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการในเดือนมกราคม ปีหน้า ซึ่งมีกำหนดเริ่มในวันที่ 20 มกราคม 2564
ขอบคุณข้อมูลจาก abcnews, apnews, reuters
ภาพจาก Andrew Harnik / POOL / AFP
โจ ไบเดน (Joe Biden) คว้าชัยชนะเหนือ โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ได้รับการเลือกให้เป็นประธานาธิบดีคนใหม่คนที่ 46 ของสหรัฐอเมริกา โดย ไบเดน ได้กล่าวคำแถลงการณ์ เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2563 หลังจากมีการประกาศผลอย่างไม่เป็นทางการ ระบุว่า"ผมรู้สึกเป็นเกียรติและเจียมตัว จากความไว้วางใจที่คนอเมริกันมอบให้ผม และแฮร์ริส รองประธานาธิบดีที่ได้รับการเลือก ท่ามกลางอุปสรรคที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ชาวอเมริกันจำนวนมากเป็นประวัติการณ์ พิสูจน์ให้เห็นอีกครั้งว่า ประชาธิปไตยเต้นอยู่ลึกลงไปในใจกลางของอเมริกา เมื่อการหาเสียงสิ้นสุดลง ถึงเวลาที่เราจะนำความโกรธและวาทศิลป์ที่รุนแรงไว้ข้างหลังแล้วมารวมกันเป็นชาติ ถึงเวลาที่อเมริกาจะรวมกันเป็นหนึ่งเดียว และช่วยกันเยียวยารักษา เราคือสหรัฐอเมริกา และไม่มีอะไรที่เราทำไม่ได้ ถ้าเราร่วมมือกัน"
ภาพจาก JIM WATSON / AFP
ทั้งนี้ ไบเดนได้พูดถึงปัญหาเร่งด่วนที่เป็นวาระแห่งชาติ ต้องการแก้ไขอย่างรวดเร็วในขณะนี้และรอไม่ได้ คือ เรื่องวิกฤตการแพร่ระบาดของโควิด 19 ซึ่ง ไบเดน ระบุว่า การควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสเป็นสิ่งแรกที่ต้องทำ มิเช่นนั้นชาวอเมริกันจะไม่สามารถซ่อมแซมและฟื้นฟูเศรษฐกิจ หรือเพลิดเพลินกับช่วงเวลาที่มีค่าที่สุดในชีวิตได้ไบเดน ระบุอีกว่า เขาจะเปิดเผยกลุ่มนักวิทยาศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญที่จะช่วยเขาจัดทำแผนรับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัส ในวันจันทร์นี้ (9 พฤศจิกายน 2563) ซึ่งการแก้ไขปัญหาโควิด 19 เป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญ ที่เขาให้คำมั่นสัญญาไว้ในตอนหาเสียง รวมไปถึงแผนอื่น ๆ อาทิ
- ปัญหาเศรษฐกิจ
ขึ้นภาษีคนรวย หรือกลุ่มผู้มีรายได้สูง ที่มีรายได้มากกว่าปีละ 400,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 12.5 ล้านบาท เพื่อนำมาใช้ลงทุนในกิจการสาธารณะ รวมทั้งขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ
ภาพจาก JIM WATSON / AFP
- เรื่องสิ่งแวดล้อม
กลับเข้าสู่ข้อตกลงปารีส ที่ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ยุติโครงการการขุดเจาะน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในพื้นที่สาธารณะ เน้นพลังงานสีเขียว หรือพลังงานสะอาด
ความขัดแย้งทางสังคมโดยเฉพาะปัญหาเหยียดสีผิวและเชื้อชาติ แก้กฎหมายด้านสีผิว รวมทั้งในกระบวนการยุติธรรม ลดอัตราการจำคุก และจำกัดการซื้อปืน ยกเลิกนโยบายต้านผู้อพยพ
- ระบบสาธารณสุข
สานต่อโครงการ Medicare พัฒนาปรับปรุงระบบสวัสดิการรัฐที่ช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาลคนชรา และให้ชาวอเมริกันทุกคนมีสิทธิ์เข้าถึงโครงการประกันสุขภาพของรัฐ
โดยแผนเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งที่จะกลายไปเป็นร่างนโยบายในแบบพิมพ์เขียว ที่ประธานาธิบดีจะประกาศใช้ เมื่อเขาและคณะบริหารเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการในเดือนมกราคม ปีหน้า ซึ่งมีกำหนดเริ่มในวันที่ 20 มกราคม 2564
