ไอติม พริษฐ์ ลั่นเมื่อไรจะยกเลิกเกณฑ์ทหาร แค่สัปดาห์เดียวพลทหารตายในค่าย 3 นาย ชี้ควรเปลี่ยนไปใช้ระบบสมัครใจ พร้อมเผยประสบการณ์ส่วนตัวเมื่อครั้งเป็นพลทหาร
วันที่ 12 พฤศจิกายน 2563 นายพริษฐ์ วัชรสินธุ หรือ ไอติม อดีตผู้สมัคร
ส.ส.กทม. และอดีตสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์
ได้โพสต์ข้อความภายหลังจากที่มีข่าวพลทหารเสียชีวิตในค่ายทหาร 3 นาย
ในช่วงเวลา 1 สัปดาห์ ว่า "[อีกกี่ชีวิตต้องสูญเสีย
อีกนานแค่ไหนกว่ากองทัพจะเปิดทาง #ยกเลิกเกณฑ์ทหาร]
ลำพังการสูญเสียบุคลากรของประเทศ แม้เพียงคนเดียว
ก็เป็นเรื่องที่น่าเสียใจพอแล้ว แต่การเสียชีวิตภายในค่ายทหารของพลทหารถึง 3
นาย ที่มีอายุเพียง 21-22 ปี ซึ่งปรากฏเป็นข่าวภายในสัปดาห์เดียว
เป็นเรื่องที่สะเทือนจิตใจของคนในสังคมอย่างถึงที่สุด
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเพียงไม่กี่วัน
ภายหลังมีข่าวว่า พล.อ. ประยุทธ์
ไม่รับรองร่างพระราชบัญญัติยกเลิกการบังคับเกณฑ์ทหาร
ทำให้ร่างกฎหมายนี้ไม่มีโอกาสได้รับการพิจารณาในสภา
ผมติดตามเรื่องนี้พร้อมกับคำถามที่ว่า
จะมีประชาชนอีกกี่คนที่ต้องสูญเสียอนาคตของเขาหลังจากถูกบังคับเข้าไปเป็นทหาร
ประเทศนี้จะพัฒนาได้อีกมากแค่ไหน
หากพลทหารเหล่านี้ได้มีโอกาสเลือกทำงานที่เขารัก
และกองทัพบกในฐานะหน่วยงานต้นสังกัด
จะปล่อยให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีกกี่ครั้ง
จึงจะเริ่มแก้ไขปัญหาที่ต้นตอ อย่างจริงจังและจริงใจเสียที
ข้อเสนอหนึ่งที่ผมพูดมาตลอด คือการยกเลิกการเกณฑ์ทหาร และเปลี่ยนไปใช้ระบบสมัครใจทั้งหมดอย่างเดียว โดยมี 3 เหตุผลรองรับ
1. การเกณฑ์ทหาร ไม่จำเป็น ไม่เท่ากับทหารไม่จำเป็น การยกเลิกการเกณฑ์ทหาร ก็ไม่เท่ากับการที่ประเทศจะไม่มีกองทัพ ทหารเป็นอาชีพที่มีคุณค่าและสำคัญต่อประเทศ หากทหารได้ทำหน้าที่ของทหารจริง ๆ ไม่จำเป็นต้องเกณฑ์หรือบังคับ แต่ให้รับเฉพาะคนที่สมัครใจ เมื่อเปรียบเทียบขนาดของกองทัพและยอดกำลังพลต่อประชากรกับต่างประเทศ จะพบว่าประเทศไทยน่าจะสามารถลดยอดพลทหารได้ถึง 30-40%
นอกจากนั้นจากประสบการณ์ส่วนตัวเมื่อครั้งเป็นพลทหาร และจากการพูดคุยกับพลทหารและนายทหารจากค่ายอื่น ๆ ผมได้เห็นว่าในจำนวน 100,000 คนนั้น หลายคนไม่ได้ทำงานที่จำเป็นต่อความมั่นคง บางคนเป็นยอดผี บางคนทำหน้าที่เป็นทหารรับใช้ประจำบ้านของนายทหาร เพื่อทำหน้าที่ซักผ้า ตัดหญ้า ขับรถ บางคนทำงานที่ดูผิวเผินเหมือนจะยุ่ง แต่ในความเป็นจริง อาจเป็นการสร้างงานปลอมที่ไม่ได้สร้างประโยชน์ทางเศรษฐกิจในวงกว้าง เช่น การใช้เวลาทั้งวันทำความสะอาดกองร้อย
สิ่งที่เป็นรูปธรรมของความไม่มั่นใจว่าการเป็นพลทหารจะมาพร้อมกับคุณภาพชีวิตที่ดี คือภาพความผิดหวัง-เสียใจของชายไทยหลายคนที่ปรากฏอยู่ทุกปี เมื่อรู้ว่าตัวเองจับได้ใบแดง ผมเชื่อว่าความรู้สึกนั้นไม่ได้เกิดจากความไม่กล้าหาญ หรือไม่ต้องการรับใช้ชาติ แต่เพราะเขารู้ว่าเวลาที่ต้องอยู่ในกองทัพ คือค่าเสียโอกาสที่ประเมินไม่ได้ บางคนสูญเสียรายได้ บางคนต้องออกจากงานที่กำลังไปได้ดี บางคนต้องแยกจากครอบครัว ภรรยา และลูกที่ยังเล็ก
1. การเกณฑ์ทหาร ไม่จำเป็น ไม่เท่ากับทหารไม่จำเป็น การยกเลิกการเกณฑ์ทหาร ก็ไม่เท่ากับการที่ประเทศจะไม่มีกองทัพ ทหารเป็นอาชีพที่มีคุณค่าและสำคัญต่อประเทศ หากทหารได้ทำหน้าที่ของทหารจริง ๆ ไม่จำเป็นต้องเกณฑ์หรือบังคับ แต่ให้รับเฉพาะคนที่สมัครใจ เมื่อเปรียบเทียบขนาดของกองทัพและยอดกำลังพลต่อประชากรกับต่างประเทศ จะพบว่าประเทศไทยน่าจะสามารถลดยอดพลทหารได้ถึง 30-40%
นอกจากนั้นจากประสบการณ์ส่วนตัวเมื่อครั้งเป็นพลทหาร และจากการพูดคุยกับพลทหารและนายทหารจากค่ายอื่น ๆ ผมได้เห็นว่าในจำนวน 100,000 คนนั้น หลายคนไม่ได้ทำงานที่จำเป็นต่อความมั่นคง บางคนเป็นยอดผี บางคนทำหน้าที่เป็นทหารรับใช้ประจำบ้านของนายทหาร เพื่อทำหน้าที่ซักผ้า ตัดหญ้า ขับรถ บางคนทำงานที่ดูผิวเผินเหมือนจะยุ่ง แต่ในความเป็นจริง อาจเป็นการสร้างงานปลอมที่ไม่ได้สร้างประโยชน์ทางเศรษฐกิจในวงกว้าง เช่น การใช้เวลาทั้งวันทำความสะอาดกองร้อย
สิ่งที่เป็นรูปธรรมของความไม่มั่นใจว่าการเป็นพลทหารจะมาพร้อมกับคุณภาพชีวิตที่ดี คือภาพความผิดหวัง-เสียใจของชายไทยหลายคนที่ปรากฏอยู่ทุกปี เมื่อรู้ว่าตัวเองจับได้ใบแดง ผมเชื่อว่าความรู้สึกนั้นไม่ได้เกิดจากความไม่กล้าหาญ หรือไม่ต้องการรับใช้ชาติ แต่เพราะเขารู้ว่าเวลาที่ต้องอยู่ในกองทัพ คือค่าเสียโอกาสที่ประเมินไม่ได้ บางคนสูญเสียรายได้ บางคนต้องออกจากงานที่กำลังไปได้ดี บางคนต้องแยกจากครอบครัว ภรรยา และลูกที่ยังเล็ก
3. การเกณฑ์ทหาร ทำให้กองทัพไม่เอาจริงกับเรื่องความรุนแรง และการละเมิดสิทธิมนุษยชน ในค่าย
การยกเลิกการเกณฑ์ทหารยังคงเป็นอีกกลไกสำคัญในการแก้ปัญหานี้ ตราบใดที่ยังมีการเกณฑ์อยู่ กองทัพก็อาจปล่อยให้ปัญหาคงอยู่ต่อไปได้ (เช่นเดียวกับที่เราเห็นในวันนี้) เพราะหากจำนวนคนสมัครมีน้อย ก็สามารถใช้อำนาจตามกฎหมายมาบังคับให้ตัวเองมีคนเข้ามาทำงานตามยอดที่เรียกได้ แต่ถ้าไม่มีการเกณฑ์ และยอดสมัครไม่ถึงจำนวนที่ตั้งไว้ กองทัพก็จะมีคนไม่เพียงพอ และจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงและปฏิรูปตัวเองจากภายใน เพื่อให้มียอดสมัครที่สูงขึ้น ด้วยการทำให้การเป็นทหารมิใช่เพียงหน้าที่ของชายไทย แต่ต้องเป็นอาชีพที่น่าดึงดูดและปราศจากความรุนแรงจากภายในค่ายเอง
ไม่มีใครพอใจที่ต้องพูดถึงเรื่องนี้แบบปีต่อปี หากชาติคือประชาชน ผมหวังว่ากองทัพบกในฐานะหน่วยงานหนึ่งที่ใช้เงินภาษี จะได้แสดงความรักชาตินั้น ผ่านการแก้ไขปัญหาที่ประชาชนเรียกร้องโดยเร็วที่สุด ผมเชื่อว่าการ #ยกเลิกเกณฑ์ทหาร จะเป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่าย"
โดยมีรายละเอียดทั้งหมด ดังนี้
ภาพจาก เฟซบุ๊ก พริษฐ์ วัชรสินธุ - ไอติม - Parit Wacharasindhu
ภาพจาก เฟซบุ๊ก พริษฐ์ วัชรสินธุ - ไอติม - Parit Wacharasindhu