พล.อ. ประยุทธ์ พอใจผลตอบรับโครงการ คนละครึ่ง เล็งขยายเฟส 2 เป็นของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน เตรียมพิจารณาเพิ่มวงเงิน
วันที่ 14 พฤศจิกายน 2563 ข่าวช่องวัน รายงานว่า นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พอใจผลตอบรับจากประชาชนในโครงการ คนละครึ่ง ซึ่งเป็นมาตรการกระตุ้นการบริโภค ที่บรรลุเป้าหมายตามที่รัฐบาลตั้งใจไว้ เพื่อเพิ่มกำลังซื้อให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โรคโควิด 19 พยุงเศรษฐกิจไทยผ่านการกระตุ้นการใช้จ่ายภายในประเทศ ช่วยเหลือกลุ่มผู้ค้ารายย่อย โดยเฉพาะหาบเร่แผงลอย ร้านโชห่วย ร้านขายอาหารและเครื่องดื่ม พ่อค้าแม่ค้าในตลาดสดหรือตลาดนัด เป็นต้น
โดยข้อมูลจากกระทรวงการคลัง ณ วันที่ 13 พฤศจิกายน พบว่า มีจำนวนร้านค้าเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 648,372 ร้าน มียอดการใช้จ่ายสะสม 13,481 ล้านบาท แยกเป็นส่วนที่ประชาชนจ่ายเอง 6,869 ล้านบาท และส่วนที่รัฐช่วยจ่าย 6,612 ล้านบาท
นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้กระทรวงการคลังศึกษาข้อมูล เพื่อพิจารณาความเป็นไปได้ในการเตรียมจัดทำโครงการ คนละครึ่ง เฟส 2 เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชน กระตุ้นการใช้จ่าย และช่วยเหลือกลุ่มผู้ค้ารายย่อยอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการพิจารณาความเป็นไปได้ในการเพิ่มจำนวนผู้ได้รับสิทธิ์ และการเพิ่มวงเงินใช้จ่ายอีกด้วย
นายอนุชา กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการ คนละครึ่ง นอกจากจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจแล้ว ยังมีความสำคัญอย่างยิ่งที่จะช่วยให้ประชาชนได้เรียนรู้การใช้แอปพลิเคชันทางการเงิน ทั้งในฝั่งของผู้ซื้อและผู้ขาย ซึ่งจะเป็นก้าวสำคัญในการเดินหน้าสู่สังคมไร้เงินสดของไทยในอนาคต อีกทั้งเป็นแนวทางสำคัญในการนำข้อมูลไปพัฒนาระบบ National E-Commerce Platform ของประเทศไทยได้อีกด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวช่องวัน
วันที่ 14 พฤศจิกายน 2563 ข่าวช่องวัน รายงานว่า นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พอใจผลตอบรับจากประชาชนในโครงการ คนละครึ่ง ซึ่งเป็นมาตรการกระตุ้นการบริโภค ที่บรรลุเป้าหมายตามที่รัฐบาลตั้งใจไว้ เพื่อเพิ่มกำลังซื้อให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โรคโควิด 19 พยุงเศรษฐกิจไทยผ่านการกระตุ้นการใช้จ่ายภายในประเทศ ช่วยเหลือกลุ่มผู้ค้ารายย่อย โดยเฉพาะหาบเร่แผงลอย ร้านโชห่วย ร้านขายอาหารและเครื่องดื่ม พ่อค้าแม่ค้าในตลาดสดหรือตลาดนัด เป็นต้น
โดยข้อมูลจากกระทรวงการคลัง ณ วันที่ 13 พฤศจิกายน พบว่า มีจำนวนร้านค้าเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 648,372 ร้าน มียอดการใช้จ่ายสะสม 13,481 ล้านบาท แยกเป็นส่วนที่ประชาชนจ่ายเอง 6,869 ล้านบาท และส่วนที่รัฐช่วยจ่าย 6,612 ล้านบาท
นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้กระทรวงการคลังศึกษาข้อมูล เพื่อพิจารณาความเป็นไปได้ในการเตรียมจัดทำโครงการ คนละครึ่ง เฟส 2 เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชน กระตุ้นการใช้จ่าย และช่วยเหลือกลุ่มผู้ค้ารายย่อยอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการพิจารณาความเป็นไปได้ในการเพิ่มจำนวนผู้ได้รับสิทธิ์ และการเพิ่มวงเงินใช้จ่ายอีกด้วย
นายอนุชา กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการ คนละครึ่ง นอกจากจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจแล้ว ยังมีความสำคัญอย่างยิ่งที่จะช่วยให้ประชาชนได้เรียนรู้การใช้แอปพลิเคชันทางการเงิน ทั้งในฝั่งของผู้ซื้อและผู้ขาย ซึ่งจะเป็นก้าวสำคัญในการเดินหน้าสู่สังคมไร้เงินสดของไทยในอนาคต อีกทั้งเป็นแนวทางสำคัญในการนำข้อมูลไปพัฒนาระบบ National E-Commerce Platform ของประเทศไทยได้อีกด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวช่องวัน
