สุดสงสาร.. สุนัขทหาร ด่านหน้าเผชิญระเบิด เสี่ยงชีวิต แต่ไม่ได้เงินค่าเสี่ยงอันตรายสักบาท

          เพจดังเปิดเรื่องราวสุนัขทหาร ชายแดนใต้ ฮีโร่ผู้ปิดทองหลังพระ ด่านหน้าเผชิญระเบิด เสี่ยงชีวิต แต่ไม่ได้เงินค่าเสี่ยงอันตรายจากกองทัพสักบาท


          วันที่ 15 พฤศจิกายน 2563 เพจเฟซบุ๊ก ร่วมด้วยช่วย 3 จว.ชายแดนใต้ ได้เผยเรื่องราวของสุนัขทหาร โดยระบุว่า "วีรบุรุษผู้กล้าทั้งทหารและสุนัขทหารที่ทางเพจจะขอเป็นตัวแทนเรียกร้องสิทธิให้กับพวกเค้า สิทธิอันพึงจะต้องได้และสมควรจะได้แต่กองทัพกลับไม่ให้พวกเค้า กองร้อยสุนัขทหาร ฉก.อโณทัย ที่ จ.ปัตตานี เปลี่ยน ผบ.ร้อย มากี่คน ทุกคนพยายามต่อสู้เพื่อเรียกร้องสิทธิ แต่จนแล้วจนรอดเสียงของพวกเค้าก็ไม่มีใครได้ยิน เพราะว่าดังไม่พอ ทั้ง ๆ ที่ชุดสุนัขทหารก็เสี่ยงและเสียสละไม่น้อยไปกว่าใคร    

          ทุกครั้งที่มีการพบเจอวัตถุต้องสงสัยที่คาดว่าน่าจะเป็นระเบิด ชุดแรกที่ต้องเข้าไปก็คือชุดสุนัขทหาร ครูฝึกสุนัขทหารพร้อมกับบัดดี้คู่ใจ ซึ่งก็คือน้องสุนัขทหารที่มีหน้าที่ดมหาวัตถุต้องสงสัย ครูฝึกสุนัขทหารจะยืนห่างจากสุนัขทหารของตัวเองประมาณ 100-150 เมตร เมื่อมีการปล่อยสายจูง สุนัขทหารจะทำหน้าที่อันอาจหาญของเค้าทันที โดยเดินเข้าไปใกล้วัตถุต้องสงสัย หากไม่ใช่วัตถุระเบิด สุนัขทหารจะไม่นั่งลง



          หากเป็นวัตถุระเบิด น้องสุนัขทหารจะนั่งลงทันทีและจะหันมามองหน้าครูฝึก เพื่อส่งสัญญาณให้ทราบว่าที่อยู่ตรงหน้าคือวัตถุระเบิด เพราะสุนัขทหารที่ผ่านการฝึกในเรื่องของการดมกลิ่นระเบิด ผ่านการฝึกมาอย่างช่ำชองและชำนาญ ถ้าเป็นนักบินก็คือมีแต้มสะสมจนนับไม่ถ้วน เพราะฉะนั้นโอกาสที่จะพลาดแทบจะไม่มีเลย  

          เวลาที่ออกทำงานกับภารกิจที่เสี่ยงเช่นนี้ จะไม่ได้มีเพียงแค่ชุดสุนัขทหารเท่านั้น แต่จะมีชุดอีโอดีและชุด ช.ตรวจค้น ทั้ง 3 ชุดนี้คือชุดที่ปิดทองหลังพระ แต่ชุดที่ต้องเข้าไปพลีชีพก่อนใครทั้งหมดก็คือชุดสุนัขทหาร สุนัขทหารจึงมีความสำคัญเป็นอย่างมาก เสี่ยงมาก ๆ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นหรือผู้ก่อการร้ายกดระเบิดช่วงจังหวะที่น้องสุนัขทหารและครูฝึกอยู่ใกล้วัตถุระเบิด ผู้กล้าสี่ขาจะพลีชีพคนแรก และอาจจะตามมาด้วยครูฝึก


          ชุดสุนัขทหารไปทำงานร่วมกับอีโอดี และชุด ช.ตรวจค้น (ชุดทหารช่างตรวจค้น) ซึ่งทั้งสองหน่วยนี้ได้ค่าเสี่ยงอันตรายต่อคนต่อเดือนเดือนละ 7,000-10,000 บาท แต่ชุดสุนัขทหารซึ่งเป็นกลุ่มแรกที่เข้าไปพิสูจน์ทราบวัตถุต้องสงสัย ไม่ได้เงินค่าเสี่ยงอันตรายเลย ไม่ได้แม้แต่บาทเดียว ใช้งานพวกเค้าให้ไปเดินเข้าหาความเสี่ยงและความตาย แต่กลับไม่ให้พวกเค้า เงินค่าเสี่ยงอันตรายอาจจะไม่ใช่เงินก้อนโตแต่มันก็คือค่าตอบแทนในความเสี่ยง มันก็คือขวัญและกำลังใจที่ดีแต่กลับไม่ให้พวกเค้า ไม่มีเหตุผลอันใดเลยที่ชุดสุนัขทหารไม่มีสิทธิ์และไม่มีคุณสมบัติที่จะได้รับเงินค่าเสี่ยงภัยตัวนี้  

          อยากจะขอร้องให้ผู้มีอำนาจแก้ไขเรื่องนี้ด้วยนะคะ ชีวิตของเจ้าหน้าที่ทุกคนมีค่า มีราคาค่างวด มีความเสียสละที่ยิ่งใหญ่ หากขาดชุดใดชุดนึงไปทุก ๆ ภารกิจไม่มีทางสำเร็จ ภาพแรกนี้คือภารกิจเมื่อปี 58 ชุดสุนัขทหารไปเดินลาดตระเวนแล้วไปเจอวัตถุต้องสงสัยและตรวจพบว่าเป็นระเบิดที่ผู้ก่อการร้ายนำไปซุกไว้ตรงข้ามโรงเรียนแห่งนึง เหตุการณ์ในครั้งนั้นชุดสุนัขทหารสามารถเซฟชีวิตผู้บริสุทธิ์ได้มากมายเลยทีเดียว และไม่ใช่เคสนี้เคสเดียว แต่ยังมีอีกหลายเคสที่คนภายนอกไม่ทราบ นี่คือที่มาของคำว่าผู้กล้าที่ปิดทองหลังพระอย่างแท้จริง #เรียกร้องเงินค่าเสี่ยงอันตรายให้กับชุดสุนัขทหารทุกๆชุด"