สรุปเหตุการณ์ ม็อบ 17 พฤศจิกา จากการกดดันรับร่างฯ สู่การปะทะ และกระสุนจริง

- คณะราษฎรนัดชุมนุม - กลุ่มคนเสื้อเหลืองนัดเหมือนกัน

          เมื่อมีการกำหนดวันอภิปรายเพื่อรับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 7 ฉบับ กลุ่มคณะราษฎรได้ประกาศนัดรวมพลกันทั้งทางบก ทางเรือ ทางอากาศ ส่วนกลุ่มเสื้อเหลือง นำโดยกลุ่มไทยภักดี ก็ได้มีการนัดชุมนุมเพื่อคัดค้านการรับร่างฯ เช่นกัน

          อย่างไรก็ตาม กลุ่มคนเสื้อเหลืองนั้นได้มีการนัดชุมนุมกันตั้งแต่เช้า มีการอภิปรายบนรถที่มีเครื่องขยายเสียง แต่ก็มีความชุลมุนเล็กน้อยเมื่อมีเยาวชนที่สวมเสื้อเหลืองเช่นกัน ขึ้นปราศรัยโจมตี พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ จนโดนโห่และถูกพาตัวออกไป แต่ไม่มีความรุนแรงใด ๆ เกิดขึ้น

- ม็อบพยายามฝ่าแนวกั้น บริเวณหน้าบริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ - แยกเกียกกาย

          ทั้งนี้ ผู้ชุมนุมคณะราษฎรได้มีการนัดชุมนุมที่รัฐสภา เวลา 15.00 น. แต่ช่วงเวลาประมาณ 14.00 น. มีผู้ชุมนุมบางส่วน นำโดยกลุ่ม We volunteer ได้มาเคลียร์แบริเออร์ของตำรวจและรั้วลวดหนาม เพื่อให้ผู้ชุมนุมผ่านเข้าไปได้ ทั้งที่บริเวณหน้าบริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ - แยกเกียกกาย ซึ่งบริเวณหน้าบริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ เมื่อสามารถเคลียร์จนผ่านแบริเออร์ชั้นสุดท้าย เจ้าหน้าที่ได้ประกาศเตือนผู้ชุมนุมว่าให้ล่าถอย มิเช่นนั้นจะมีการใช้รถฉีดน้ำความดันสูง แต่ทางผู้ชุมนุมก็ไม่ถอย จึงทำให้มีการใช้รถฉีดน้ำ
- ม็อบสู้รถฉีดน้ำ เจ้าหน้าที่ผสมสารแก๊สน้ำตา

          หลังจากที่ใช้น้ำเปล่าเพื่อผลักดันกลุ่มผู้ชุมนุมแล้ว แต่ผู้ชุมนุมก็ไม่ล่าถอย เจ้าหน้าที่จึงมีการใช้น้ำผสมแก๊สน้ำตา และมีการขู่ว่าจะมีการใช้กระสุนยาง จนกระทั่งเมื่อฉีดน้ำจบ เจ้าหน้าที่จึงบอกว่าขอเจรจากับแกนนำของกลุ่มผู้ชุมนุม ทว่าการเจรจาไม่สำเร็จ เจ้าหน้าที่จึงมีการใช้รถฉีดน้ำความดันสูงอีกหลายระลอก เพื่อให้ผู้ชุมนุมอยู่ห่างจากตำรวจอย่างน้อย 30 เมตร

- ด้านแยกเกียกกาย ม็อบรุกคืบ ใช้เป็ดยางเป็นโล่ - ตำรวจฉีดน้ำสีม่วง

          ในขณะที่สถานการณ์บริเวณแยกเกียกกายก็รุนแรงไม่แพ้กัน เจ้าหน้าที่พยายามผลักดันผู้ชุมนุม ด้วยการนำรถเมล์มาจอดขวาง วางแนวแบริเออร์และรั้วลวดหนาม พร้อมกับใช้รถฉีดน้ำฉีดสกัดผู้ชุมนุม ด้านผู้ชุมนุมบางส่วนได้นำเป็ดยางมาเป็นโล่ และพบว่าน้ำที่ฉีดนั้นเป็นสีม่วง มีการผสมแก๊สน้ำตาเข้าไปด้วย ซึ่งพบว่าท้ายที่สุดตำรวจได้ล่าถอยไป

- ตำรวจถอย ม็อบปะทะม็อบ ขว้างปาสิ่งของใส่กัน

          อย่างไรก็ตาม แม้ตำรวจจะล่าถอยไปบ้างบางส่วน แต่กลับเกิดเหตุการณ์ม็อบปะทะม็อบ ระหว่างคณะราษฎรและกลุ่มคนเสื้อเหลืองที่แยกเกียกกาย มีการขว้างปาข้าวของใส่กัน ทั้งก้อนหิน ไม้ ระเบิดปิงปอง ประทัดยักษ์ จนกลายเป็นการชุลมุนระหว่างคนทั้ง 2 ฝ่าย

- เริ่มใช้ความรุนแรงระหว่างม็อบ นศ. อาชีวะ ทำลายแนวกั้น ตามหาคนปาประทัดยักษ์ สุดท้ายถูกกระสุนจริง

          เหตุการณ์รุนแรงจนถึงขั้นสูงสุด เมื่อฝั่งนักศึกษาอาชีวะของคณะราษฎรและฝั่งกลุ่มคนเสื้อเหลือง ซึ่งเผชิญหน้ากันกลางแยกเกียกกาย ได้มีเสียงคล้ายประทัดยักษ์โยนเข้ามา ทำให้ผู้ชุมนุมฝั่งคณะราษฎรส่วนหนึ่งที่เป็นการ์ด กรูเข้าไปเพื่อที่จะไปตามหาคนปาระเบิดปิงปอง-ประทัดยักษ์ จนฝ่าแนวกั้นเข้าไปได้ และมีบางส่วนที่พยายามเข้าไปห้าม แต่จังหวะนั้นมีเสียงปืนดังขึ้น มีคนถูกยิงที่ท้องและแขน

- แกนนำประกาศยุติการชุมนุม - ตำรวจชี้ ทำไมไม่ห้ามม็อบปะทะม็อบ

          เวลาประมาณ 21.00 น. แกนนำคณะราษฎรได้ประกาศยุติการชุมนุม และนัดชุมนุมใหม่เวลา 16.00 น. วันที่ 18 พฤศจิกายน 2563 ที่บริเวณแยกราชประสงค์

          เมื่อถามว่าเหตุใดตำรวจไม่สกัดกั้นการปะทะระหว่างผู้ชุมนุมทั้ง 2 ฝ่าย พล.ต.ต. ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. กล่าวว่า ตำรวจพยายามหลีกเลี่ยงการปะทะเนื่องจากเป็นคนกลาง พร้อมพยายามจัดผู้ชุมนุม 3 ฝ่ายอยู่ที่ถนนทหาร ส่วนคณะราษฎรอยู่ที่ถนนประชาราษฎร์สาย 1 ยืนยันว่ายึดหลักนิติศาสตร์และยุทธศาสตร์ควบคู่กันไป โดยตำรวจได้นำแผงเหล็กมากั้นระหว่างมวลชน 2 ฝ่ายที่ถนนทหารตามที่ปรากฏตามสื่อไปแล้ว ส่วนคนที่บาดเจ็บนั้น หากใครมีพยานหลักฐานว่าถูกใครทำร้ายให้นำมามอบกับตำรวจเพื่อไปประกอบสำนวนได้