หนุ่มขาดรายได้เพราะโรคโควิด 19 ตัดสินใจละสมบัติชิ้นสุดท้าย ขี่รถจักรยานยนต์จะไปกู้สินเชื่อ เคราะห์กรรมซ้ำซ้อน ไฟไหม้รถไม่เหลือซาก แต่ในโชคร้ายยังมีโชคดี
จากการรายงานของเว็บไซต์เวิลด์ออฟบัซ เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2563 รายงานว่า อัมรานประกอบอาชีพเป็นชาวประมงและช่วยพ่อเพาะหอยแมลงภู่ขาย เขามีรายได้เดือนละประมาณ 1,000 ริงกิต หรือประมาณ 7,432 บาท เขากล่าวว่า แม้ว่ามันจะเป็นเงินไม่มาก แต่ก็พอเลี้ยงดูครอบครัวได้
ทว่า หลังจากที่มีมาตรล็อกดาวน์ รายได้ของอัมรานก็เหลืออยู่แค่เพียงเดือนละ 300 - 600 ริงกิต หรือประมาณ 2,230 - 4,460 บาท เท่านั้น ซึ่งน้อยมาก ลำพังตัวคนเดียวก็แย่แล้ว ไหนจะต้องเลี้ยงดูปากท้องทั้งบ้าน รวมทั้งลูกชายวัยกำลังโตอีก 2 คน แม้ประหยัดแค่ไหน ก็ไม่พอใช้จ่ายในครัวเรือน
แต่พอขี่มาถึงบริเวณย่านเซไนโทลพลาซา ในเมืองกูไน อยู่ดี ๆ รถจักรยานยนต์ของอัมรานก็เกิดไฟลุกพรึ่บขึ้น และไม่นานก็ไฟไหม้ทั้งคัน
เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรที่ปฏิบัติหน้าที่ในบริเวณดังกล่าวพบเห็นเหตุการณ์ จึงได้รีบนำถังดับเพลิงไปดับไฟเอาไว้ได้ แต่รถจักรยานยนต์ของอัมรานเสียหายทั้งคัน
ต่อมา ตำรวจเมืองกูไนได้แชร์ภาพรถไฟไหม้และเรื่องราวของอัมรานลงบนสังคมออนไลน์ ซึ่งก็กลายเป็นกระแสไวรัลที่คนแชร์เป็นจำนวนมาก
กระทั่งเวลาต่อมา กองทุนมุสลิมเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจแห่งมาเลเซีย รับทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้น ทางเจ้าหน้าที่จึงลงพื้นที่ไปยังบ้านของนายอัมราน มอบถุงยังชีพและเงินสนับสนุนช่วยเหลือ เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับครอบครัว ซึ่งอัมรานซาบซึ้งเป็นอย่างยิ่ง
อัมราน ยังได้ขอบคุณกระแสโซเชียลที่ได้ช่วยกันแชร์เรื่องราวของเขา จนได้รับความช่วยเหลือให้พ้นทุกข์ เปลี่ยนจากความเคราะห์ร้ายและสิ้นหวัง ให้กลายเป็นความโชคดี รวมทั้งมอบโอกาสให้เขาได้ต่อสู้ชีวิตต่อไปอีกครั้ง
