โฆษก บช.น. เผยจ่อเอาผิดผู้ชุมนุม ราษฎร 31 คน ส่วน 2 เยาวชน นักเรียนเลว ถูกแจ้งข้อหาชุมนุม ยันยังไม่แจ้ง ม.112 รอชัดเจน 23 พ.ย. นี้
ภาพจาก สำนักข่าว INN
วันที่ 20 พฤศจิกายน 2563 พล.ต.ต. ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) ในฐานะโฆษก บช.น. กล่าวถึงการดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุมคณะราษฎร ที่หน้ารัฐสภา และหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่า สามารถระบุตัวบุคคล 31 คน แบ่งเป็นในพื้นที่ สน.บางโพ 14 คน และในพื้นที่ สน.ปทุมวัน 17 คน มีข้อหา เช่น
- ทำลายทรัพย์สินของทางราชการ
- ชุมนุมโดยไม่ได้รับอนุญาต
- ความผิดตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ
- กฎหมายอาญา ข้อหาสมคบกัน 10 คน เพื่อก่อความวุ่นวาย
- ทำให้เสียทรัพย์
- ทำร้ายร่างกายสาหัส
- พยายามฆ่า
- ความผิดตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาดฯ
- พ.ร.บ.จราจรทางบก
คาดว่าในสัปดาห์หน้าจะเริ่มดำเนินการออกหมายเรียกได้
ภาพจาก เยาวชนปลดแอก - Free YOUTH
เกี่ยวกับประเด็นเรื่องการปะทะกันที่บริเวณหน้ารัฐสภา โฆษก บช.น. กล่าวว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้เรียกตัวผู้ได้รับบาดเจ็บมาให้ปากคำแล้วรวม 3 คน โดยเป็นผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากกระสุนปืนที่แยกบางโพ 1 คน และแยกเกียกกาย 2 คน ซึ่งมีทั้งผู้ชุมนุมของกลุ่มคณะราษฎร และผู้ชุมนุมกลุ่มปกป้องสถาบัน ส่วนลักษณะการก่อเหตุจะเป็นการจงใจก่อเหตุเพื่อหวังเอาชีวิตหรือเป็นการปกป้องคุ้มกันกลุ่มหรือไม่ ยังไม่สามารถเจาะจงประเด็นแรงจูงใจต่าง ๆ ได้ ต้องอยู่ระหว่างการตรวจสอบแนววิถีกระสุน และพยานหลักฐานอื่น ๆ เพิ่มเติม
ส่วนการจับกุมผู้ต้องหาจากกลุ่มปกป้องสถาบัน ที่พกพาอาวุธปืนเข้ามาร่วมชุมนุมด้วยนั้น พล.ต.ต. ปิยะ กล่าวว่า ขณะนี้ได้นำอาวุธปืนดังกล่าวไปตรวจสอบที่กองพิสูจน์หลักฐาน เพื่อหาเอกลักษณ์เฉพาะของเกลียวกระบอกปืนและเข็มแทงชนวนแล้ว เพื่อนำไปเปรียบเทียบกับหัวกระสุน และบาดแผลของผู้ได้รับบาดเจ็บทุกคน แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้
ภาพจาก เยาวชนปลดแอก - Free YOUTH
โฆษก บช.น. กล่าวอีกว่า สำหรับการชุมนุมของกลุ่มนักเรียนเลว ในวันพรุ่งนี้ (21 พฤศจิกายน) ยังไม่พบว่า มีการแจ้งขอชุมนุมมาที่ตำรวจ ซึ่งจะมีการประชุมเพื่อจัดเตรียมกำลังและวางแนวทางการป้องกันอีกครั้ง เบื้องต้นจะเพิ่มกำลังของกองร้อยควบคุมฝูงชนที่เป็นตำรวจหญิงมากขึ้น เนื่องจากผู้ชุมนุมส่วนใหญ่เป็นเด็กนักเรียนและเยาวชน นอกจากนี้จะมีผู้พิพากษาสมทบของศาลเยาวชน เจ้าหน้าที่สงเคราะห์เด็ก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเด็กและเยาวชน มาร่วมสังเกตการณ์ด้วย เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย