อาจารย์อ๊อด เผยผลตรวจน้ำที่ตำรวจฉีดสลายม็อบราษฎร แยกเกียกกาย พบ 5 สารเคมีสุดอันตราย ทำให้ผิวไหม้ หายใจลำบาก แสบตา
วันที่ 20 พฤศจิกายน 2563 รศ. ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า "ผลการวิเคราะห์น้ำที่เก็บได้จากแนวปะทะที่เกียกกาย ไม่รู้น้ำใครนะ #อนุญาตให้เผยแพร่ข้อมูลทางวิชาการนี้ทั้งภาพและคลิป
น้ำที่เก็บมามีสีฟ้าออกน้ำเงินนะครับ เนื่องจากว่าปนเปื้อนกับสีที่ผู้ชุมนุมใช้สีน้ำเงิน จึงปนกันกับน้ำสีม่วง แต่อาจารย์อ๊อดนำมาสกัดด้วย DCM จนได้สารละลายสีม่วงพร้อมกับสารที่อยู่ในนั้นออกมาแยกชั้นตามภาพที่ 1-3
อาจารย์อ๊อดเอาสารละลายสีม่วงที่ได้มาวิเคราะห์ด้วยเทคนิค gc-ms (Gas chromatography-mass spectrometry
(GC-MS)) พบว่าสีม่วงคือ Methyl violet 2b (เมทิลไวโอเลททูบี)
ซึ่งเป็นสีม่วงธรรมดา ไม่มีพิษภัยอะไร และเจอสารสำคัญ 5 ตัว
ในสารละลายสีม่วงนั้น คือ
(1) Dimethyl sulfoxide, DMSO (ไดเมททิลซัลฟอกไซด์)
เป็นสารประกอบอินทรีย์ซัลไฟด์ มีลักษณะเป็นของเหลวไม่มีสี จุดเดือดสูง นิยมใช้เป็นตัวทำละลายและใช้เป็นสารทำความสะอาดส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์ อาจทำให้เกิดการระคายเคืองถ้าได้รับในปริมาณมาก
(2) 2-Chlorobenzaldehyde (2-คลอโรเบนซัลดีไฮด์)
(3) 2-Chlorobenzyl alcohol (2-คลอโรเบนซิลแอลกอฮอล์) มีลักษณะเป็นผงสีขาว โดยสารตัวนี้ก่อให้เกิดการระคายเคืองได้ทั้งต่อดวงตา ผิวหนัง แม้แต่การสูดดมเข้าไป
(4) 2-chlorobenzalmalononitrile (2-คลอโรเบนซัลมาโลโนไนไตร) หรือ o-Chlorobenzalmalononitrile (CS gas) 2-chlorobenzalmalononitrile หรือ o-Chlorobenzylmalononitrile ทางทหารเรียกสั้น ๆ ว่า CS จัดเป็นอาวุธเคมี (chemical weapon) ที่ใช้คุมฝูงชน แต่ไม่ทำให้ถึงตาย (non-lethal chemical weapon) โดยปกติในอุณหภูมิห้อง ไม่ได้อยู่ในสถานะก๊าซ เป็นของแข็ง แต่ทำเป็นละอองได้ เหมือนสเปย์พริกไทย
(5) o-Chlorobenzylmalononitrile เป็นสารก่อการระเคืองเหมือนกันที่อยู่ใน CS gas เหมือนกัน เป็นอนุพันธ์ของสารหมายเลข (4)
สารหมายเลข
1 เป็นตัวทำละลาย เพื่อทำให้สารอีก 4
ตัวละลายรวมเป็นเนื้อเดียวกันเป็นหัวเชื้อ ส่วนสารหมายเลข 2 3 4 5
เป็นกลุ่มแก๊สน้ำตา ซึ่งใส่ตัวเดียวก็เกินพอแล้วครับ แต่ใส่ไปทั้งหมด 4 ตัว
(1) = 10.39% V/V
(2) = 10.87% V/V
(3) = 8.56% V/V
(4) = 63.93% V/V
(5) = 6.25% V/V
งานวิชาการที่เกี่ยวข้อง
ไม่มีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่ยืนยันได้แน่นอนว่า ความเข้มข้น 1% เทียบกับ 5% แก๊สน้ำตา (CS) อันไหนอันตรายกว่ากัน เนื่องจากความเสียหายส่วนใหญ่มาจากระยะในการยิง ผลกระทบในคนได้มีการศึกษาผลของ CS smoke or aerosol and exposure via inhalation พบว่า aerosol เมื่อทำการผลิตโดยวิธี thermal dispersion ที่มีขนาด 0.5um ในตัวทำละลาย methylene chloride ทำการศึกษากับอาสาสมัครเป็นเวลา 90 นาที ในพื้นที่ขนาด 0.5-1 mg/m3 พบว่าอาสาสมัครมีอาการผิวไหม้บริเวณปาก หายใจแล้วแสบ รวมถึงแน่นหน้าอก"