นักล่าถูกล่า... พบซาก ฉลามขาว สภาพเละเทะ ท้องขาดรุ่งริ่ง ตับหายไป นักวิทย์ฯ เผย ตัวการคือ วาฬเพชฌฆาต
เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2563 เว็บไซต์เดลี่เมล รายงานว่า ฉลามขาว (Great White Shark) ยอดนักล่าแห่งท้องทะเล ได้ตกเป็นผู้ถูกล่าเสียเอง โดยพวกมันถูก วาฬเพชฌฆาต (Orca หรือ Killing Whale) โจมตี ซึ่งไม่ใช่เป็นการต่อสู้ แต่เป็นการโจมตีเพื่อฆ่าเป็นอาหาร
ในช่วงปี 2553 - 2559 ประชากรฉลามขาวในทะเล นอกอ่าวฟอลซ์เบย์ ในพื้นที่เมืองเคปทาวน์ ประเทศแอฟริกาใต้ มีอยู่ค่อนข้างมาก และถูกพบเห็นมากกว่า 200 ครั้ง แต่ในปี 2561 พวกมันกลับถูกพบเห็นแค่เพียง 50 ตัวเท่านั้น และในปี 2562 ก็ไม่มีฉลามขาวปรากฏให้เห็นอีกเลย
กระทรวงการสิ่งแวดล้อมประเทศแอฟริกาใต้ เปิดเผยว่า จำนวนประชากรฉลามขาวในพื้นที่ลดลงอย่างฮวบฮาบและน่าตกใจ ซึ่งจากการวิเคราะห์และหลักฐาน พบว่าไม่ได้เกิดจากฝีมือของมนุษย์ แต่เป็นเพราะว่าพวกมันตกเป็นเหยื่อของ วาฬเพชฌฆาต
ในปี 2558 วาฬเพชฌฆาต 2 ตัว ชื่อ พอร์ต กับ สตาร์บอร์ด ถูกพบเห็นเป็นครั้งแรกอยู่นอกอ่าวฟอลซ์เบย์ และ ตั้งแต่ปี 2560 นักวิทยาศาสตร์พบซากฉลามขาว 7 ตัว ถูกซัดมาเกยตื้นริมทะเล
ทุกตัวมีร่องรอยการถูกทำร้ายอย่างสาหัส และสิ่งที่เหมือนกันก็คือ ตับถูกฉีกกระชากออกไป โดยรอยเขี้ยวและเศษเขี้ยวที่พบ บ่งบอกว่าเป็นฝีมือของ วาฬเพชฌฆาต ทั้งสิ้น
ในสายตาคนทั่วไป ฉลามขาวนั้นน่าสะพรึงกลัวและถูกมองว่าเป็นราชาแห่งห้วงสมุทร แต่ในทะเลไม่ได้มีผู้ล่าแค่เพียงสายพันธุ์เดียวเท่านั้น โดย วาฬเพชฌฆาต คือหนึ่งในนักล่าที่อันตรายที่สุด และพวกมันมีขนาดลำตัวใหญ่กว่าฉลามขาวมาก ความรวดเร็วก็พอ ๆ กัน
ดังนั้นการที่ฉลามขาวจะตกเป็นเหยื่อก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ และวาฬเพชฌฆาตก็ออกล่าฉลามขาวอยู่ในท้องทะเลทั่วโลก รายงานยังระบุอีกว่า หากฉลามขาวพบเจอวาฬเพชฌฆาตโผล่มาในแหล่งที่อยู่อาศัยของมัน พวกมันจะหนีไปและแทบจะไม่ย้อนกลับมาอีก
ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า ตัวการที่ออกล่าฉลามขาวในพื้นที่อ่าวฟอลซ์เบย์คือ พอร์ต และ สตาร์บอร์ด ซึ่งหลังจากที่มันล่าครั้งแรก วาฬเพชฌฆาตคู่นี้ก็ติดใจในรสชาติน้ำมันตับปลาฉลาม และพากันออกฆ่าฉลามขาวกันอย่างต่อเนื่อง จนฉลามขาวหายไปเรื่อย ๆ
เรื่องนี้เป็นปัญหาใหญ่ที่เจ้าหน้าที่และทางการต้องหาวิธีแก้ไขต่อไป ก่อนที่จะฉลามขาวจะหายไปจนหมดอ่าว
ขอบคุณข้อมูลจาก Daily Mail
