เปิดคลิปทึ่ง สาวออฟฟิศเช่าหอใกล้ที่ทำงาน เพราะเลี่ยงรถติด แต่ดันตื่นสาย ต้องวิ่งไปทำงานทุกวัน ห้อมาไวปานสายฟ้า โอ้โห เร็วมากแม่ !!
ในชีวิตคนเป็นมนุษย์เงินเดือนนั้น มันเบื่อใช่ไหมที่ต้องรีบตื่นแต่เช้าทุกวัน เพื่อไปเจอรถติดบนท้องถนน มันเบื่อใช้ไหม ที่ต้องรีบไปเบียดเสียดยัดเยียดกับผู้คนบนรถไฟฟ้า ยิ่งบ้านไกลจากที่ทำงานแค่ไหน ก็ยิ่งต้องรีบมากขึ้นไป ยิ่งเป็นผู้หญิงยิ่งแล้วใหญ่ ต้องเผื่อเวลาแต่งหน้าแต่งตัวไว้อีกด้วย
ด้วยเหตุนี้ หลาย ๆ คนจึงตัดสินใจหาที่พักใกล้กับที่ทำงาน เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเดินทางไกล และไม่ต้องทนฝ่าฟันกับการจราจรบนท้องถนน เช่นเดียวกับหญิงสาวชาวจีนคนนี้ ที่เช่าบ้านใกล้ออฟฟิศ ใช้เวลาเดิน 10 นาทีก็ถึง เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาเหล่านั้น
อย่างไรก็ตาม การอยู่ใกล้ที่ทำงานก็มีข้อเสีย มันทำให้ไม่รีบร้อนและตื่นสาย กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็ใกล้จะเลยเวลาตอกบัตรทำงานแล้ว แทนที่จะประหยัดค่ารถ กลับต้องเสียค่าวินไปอีก แต่สำหรับเธอคนนี้ เธอไม่เคยไปทำงานสายแม้แต่วันเดียว เพราะเธอคือเจ้าแห่งความเร็ว .....
จากการรายงานของเว็บไซต์ RedChilli21 เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2563 ระบุว่า เหตุการณ์วิ่งสู้ฟัดนี้เกิดขึ้นที่เมืองอุรุมชี หรือ อูหลู่มู่ฉี เขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศจีน
พนักงานบริษัทสาวคนดังกล่าว เป็นคนตื่นสายเป็นกิจวัตร และแก้ไม่หาย การมาอยู่ใกล้ออฟฟิศมันยิ่งทำให้เธอตื่นสายมากกว่าเดิม แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา
ในทุก ๆ เช้า เธอผู้นี้จะรีบอาบน้ำ แต่งหน้า แต่งตัว ด้วยความเร็วแสง ก่อนจะคว้ากระเป๋าแล้วโกย ห้อสุดชีวิต วิ่งไปที่ทำงานด้วยความเร็วอย่างเหลือเชื่อ ราวกับว่าเป็นญาติห่าง ๆ ของ ยูเซน โบลต์ (Usain Bolt)
หลังจากเวลาผ่านไปสักพัก เพื่อนร่วมงานและเจ้านายของเธอก็พบเห็นว่ามันเกิดอะไรขึ้น พวกเขาทุกคนต่างก็ทึ่ง และถ่ายคลิปวิดีโอเอาไว้
จากในคลิปที่ถ่ายมาจากตึกสำนักงาน จะเห็นได้ว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งวิ่งด้วยความเร็วสูง วิ่งแบบลืมตาย วิ่งแบบไม่คิดชีวิต วิ่งแบบเหมือนว่าตัวเองคือนักกีฬาโอลิมปิก
เธอวิ่งตัดผ่านลานจอดรถ ก่อนจะข้ามถนน แล้วหักมุมมาตามทางเท้า และพุ่งเข้าสู่ตึก เจ้านายและเพื่อนร่วมงานต่างขนานนามให้กับเธอว่า แม่สาวโซนิค (Sonic) เพราะความไวปานสายฟ้า
ตื่นสายไม่สำคัญ ถ้าวิ่งไปทัน ก็ไม่สาย และรายงานก็ระบุว่า เธอเข้างานทันเวลาทุกวันแบบเป๊ะ ๆ
เจ้านายและเพื่อนร่วมงานได้รวบคลิปที่เธอวิ่งในทุก ๆ วันแล้วโพสต์ลงบนอินเทอร์เน็ต ซึ่งก็กลายเป็นคลิปไวรัลไปทั่วสังคมออนไลน์เลยทีเดียว
ขอบคุณข้อมูลจาก RedChilli21
