สพฐ. เผยสถิติครูล่วงละเมิดเด็ก มัธยมต้นวัยอันตรายสุด เชื่อหญิงชูป้ายไม่โกหก

 
          ธีร์ : ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะเดี๋ยวนี้โซเชียลสื่อสารได้ไวขึ้น แล้วทำให้เกิดการรับรู้ในวงกว้างขึ้น

          ธีร์ : ถ้าจากประสบการณ์เคสที่ทำ คิดว่าน่ามีส่วนสูง เพราะโดยธรรมชาติน้อง ๆ คงไม่ลุกขึ้นมาพูดเรื่องแบบนี้อยู่แล้ว เป็นเรื่องที่สังคมเราโดยเฉพาะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องลุกขึ้นมาช่วยกัน

          ธีร์ : ส่วนใหญ่จะขาดสติ

          ธีร์ : เราแบ่งเป็น 4 กลุ่ม ระหว่างเด็กกับเด็ก ระหว่างบุคลากรทางการศึกษากับเด็ก และระหว่างบุคคลอื่นกับเด็ก บุคคลในครอบครัวกับเด็ก ส่วนบุคลากรทางการศึกษากับเด็ก ใน 7 ปี มี 105 เคส ตัวเลขไม่เยอะ แต่ยอมไม่ได้ ไม่ควรให้เกิดขึ้น

          ธีร์ : อาจจะปัจจัยองค์ประกอบ เรื่องสื่อออนไลน์แรงขึ้น กรอบความคิดครูหนุ่มสาวต้องบ่มนิดหนึ่ง

          ธีร์ : เท่าที่เห็นยังไม่พบ เป็นการล่วงละเมิด มีหลายดีกรี เรื่องล่วงละเมิดด้วยวาจา ลูบ จับ คลำ และถึงขั้นละเมิดด้วยอวัยวะ และล่วงละเมิดทางเพศ

          ธีร์ : เขาอาจไม่มีช่องทางในการขอความช่วยเหลือ นี่ก็เป็นข้อจำกัดเหมือนกัน เขาอาจไม่รู้ว่าต้องบอกใคร

          ธีร์ : เคยได้ยิน แต่มัธยมส่วนมากไม่มีลักษณะนี้ จะมีเรื่องถูกหลอก ถูกทำให้เชื่อใจ เช่น ชวนไปที่ลับหูลับตา หรือว่าชวนกันไปในที่ต่าง ๆ แล้วไม่ทันระวัง มีเคสหนึ่งในอดีต ชวนกันไป 2 คน แล้วขังนักเรียนคนหนึ่งไว้ในห้องน้ำ อีกคนก็ถูกละเมิด เอาไปขังไว้ในโรงแรมม่านรูด น่าจะนานแล้ว และครูคนนั้นน่าจะฆ่าตัวตายไปแล้ว

          ธีร์ : เด็กมัธยมต้น

          ธีร์ : เราก็พยายามเตือนในระบบ ผู้อำนวยการโรงเรียนส่วนใหญ่ระมัดระวังมากแล้ว แต่บางทีก็ลืมเคสครูผู้ชายกับเด็กนักเรียนชาย มัวแต่ระวังเคสครูชายกับเด็กนักเรียนหญิง หลายเคสที่พบในช่วงย้อนหลังไป มีครูผู้ชายกับเด็กนักเรียนผู้ชายเกิดขึ้นก็มี

          ธีร์ : ส่วนหนึ่งอาศัยความไว้วางใจและชวนมาในที่ลับตา ส่วนมากมักเกิดนอกโรงเรียน

          ธีร์ : ก็ชวนเพื่อนไปด้วยอีก 3 คน หรือไม่ไปด้วยเงื่อนไขเวลาอะไรก็ตาม หรือไม่ก็บอกว่าแม่มาด้วย ชวนพี่หรือน้องมาด้วย มันก็จะลดสถานการณ์นี้ลง ถ้าเกิดจังหวะแบบนี้มันจะเกิดสถานการณ์ใกล้ชิด บางทีอาจไม่มีเจตนานั้นก็ได้ วิธีป้องกันก็ให้อยู่ในจุดที่ปลอดภัยทั้ง 2 ฝ่าย อย่าให้เกิดขึ้นเลย ตัดบรรยากาศพวกนี้ออกไปเสีย

          ธีร์ : ให้ร้องเรียน ถ้าไม่กล้าพูดกับใครเลย ให้เดินไปหา ผู้อำนวยการโรงเรียน ตอนนี้เราเซตระบบนี้มาพอสมควรแล้ว ผู้อำนวยการโรงเรียนจะเข้าใจหลักการนี้ ให้ขอความช่วยเหลือที่ ผอ. ก่อน ถ้าไม่จุใจจะไปสเต็ปถัดไปให้

แขกรับเชิญอีกท่าน คุณนิสิต เนินเพิ่มพิสุทธิ์ ผู้อำนวยการศูนย์คุ้มครองและช่วยเหลือเด็กนักเรียน กรณีน้องที่ใส่แว่นที่ออกมาถือป้ายว่าถูกทำอนาจาร เขามีข้อเรียกร้องถึงกระทรวงศึกษาธิการ 3 ข้อ เขาบอกอบรมครูให้เข้าใจสิทธิ์ในร่างกายนักเรียน ?

          นิสิต : ในโรงเรียนจะมีระบบ มีตัวมาตรการอะไรทุกเรื่อง เป็นเรื่องที่ครูต้องเรียนรู้ในการดูแลและปกป้องเด็ก ๆ ทุกเรื่องของการที่เด็กถูกละเมิด เขาจะรู้ว่าขอบข่ายเขาทำได้แค่ไหน เป็นการคุ้มครองช่วยเหลือนักเรียน จริง ๆ ทำมานานมากแล้ว เพียงแต่เด็กไม่ทราบว่ามีระบบนี้อยู่

          ธีร์ : ผมว่าครูยังมีวิญญาณครูอยู่ครบ เพียงแต่ก้าวที่พลาดเราให้อภัยได้ไม่หมด เพราะเป็นเรื่องที่แรงมากในการศึกษา แต่คนในวงการศึกษามีจริยธรรมในเรื่องนี้สูง แต่ความรุนแรงก็ยังมีบ้าง บางทีเผลอบ้างเหมือนพ่อแม่ แต่เรื่องทางเพศไม่ใช่เรื่องปล่อยปละละเลยได้ แต่ส่วนใหญ่ยังเชื่อมั่นได้ในเรื่องจริยธรรมครู

          นิสิต : สำนักงานเขตพื้นที่จะดูแลติดตามช่วยเหลือนักเรียนค่อนข้างถี่ เราจะช่วยเหลือดูแลนักเรียนทุกด้าน ถ้าโรงเรียนไม่ได้รับความช่วยเหลือความยุติธรรม เรามีศูนย์เฉพาะกิจคุ้มครองและช่วยเหลือเด็กนักเรียน บางจังหวัดมีหลายเขต ถ้ามีอะไรก็พาเด็กนักเรียนไปร้องได้ที่นี่ เรามุ่งประสานงานและดำเนินการให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายและยึดประโยชน์สูงสุดของเด็กนักเรียนเป็นสำคัญ

          ธีร์ : ภารกิจเราคือการป้องปราม และต้องทำให้ทีมบริหาร 3 หมื่นกว่าคน ลุกขึ้นมาทำเข้มแข็งจริงจังต่อเนื่อง เด็กต้องได้รับการดูแล โรงเรียนต้องน่าอยู่และอบอุ่น ที่ผ่านมาเราทำมาตลอดแต่ไม่ได้ออกข่าว ยุคนี้เต็มที่ทำงานได้คล่องตัว