อาลัย น.ส.ชลดา และ น้องอุ๋งอิ๋ง เหยื่อไล่แทงคอ ที่อุดรธานี พบทั้งสองคนเป็นคนอนาคตไกล คนหนึ่งกำลังจะเรียนจบพร้อมเกียรตินิยม
อีกคนกำลังจะเรียนต่อมหาวิทยาลัย

ภาพจาก ข่าวช่องวัน
จากกรณีเกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญที่ชายคนหนึ่งขี่รถมอเตอร์ไซค์ และไล่แทงคนจนบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก
โดยจากเหตุการณ์นี้มีผู้เสียชีวิต 2 คน คือ น.ส.ชลดา อายุ 22 ปี ซึ่งโดนแทงที่คอ ทางเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือเบื้องต้นด้วยการ CPR ปั๊มหัวใจ
อาการสาหัส และเสียชีวิตที่โรงพยาบาลในเวลาต่อมา และอีกคนคือ น้องอุ๋งอิ๋ง
น.ส.อัญชญา (สงวนนามสกุล) นักเรียนชั้น ม.5 รร.อุดรพิทยานุกูล
อ่านเพิ่มเติม ระทึกกลางอุดร หนุ่มคลั่งขี่มอเตอร์ไซค์ไล่แทง-ปาดคอคน สังเวย 1 ศพ บาดเจ็บอื้อ
อ่านเพิ่มเติม ระทึกกลางอุดร หนุ่มคลั่งขี่มอเตอร์ไซค์ไล่แทง-ปาดคอคน สังเวย 1 ศพ บาดเจ็บอื้อ

ทั้งนี้ บนโลกออนไลน์ได้มีเพื่อนของ น.ส.ชลดา ออกมาร่วมแสดงความไว้อาลัยต่อการจากไป โดยบอกว่า น.ส.ชลดา เป็นนักศึกษาที่กำลังจะเรียนจบเกียรตินิยมอันดับ 1 แต่ต้องมาจากไปก่อนวัยอันควร เมื่อวานตนและ น.ส.ชลดา ยังนั่งกินข้าวด้วยกัน เวลาไปไหนมาไหนก็คอยช่วยเพื่อน ออกเงินให้เพื่อนก่อน ซื้อข้าวมาส่งเพื่อนก่อนเข้าทำงาน เป็นคนกลางเวลาที่เพื่อนมีปัญหา ไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยครั้ง
"ต่อจากนี้คงไม่มีใครให้เพื่อนพูดหยอด ให้เพื่อนคอยกวนอีกแล้ว ชาติหน้าค่อยมาเป็นเพื่อนกันใหม่และอยู่ให้นานกว่านี้นะ นางฟ้าของเพื่อนทุกคน"
ส่วนอีกคนคือ น้องอุ๋งอิ๋ง ที่ปีหน้ากำลังจะเข้าเรียนในระดับอุดมศึกษา น้องกำลังจะมีชีวิตที่ยาวไกล แต่สุดท้ายต้องมาเสียชีวิตไปก่อน น้องเป็นคนน่ารัก สดใส เป็นที่รักของพ่อแม่และเพื่อนทุกคน และตอนนี้ครอบครัวได้นำร่างของน้องอุ๋งอิ๋งกลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิดแล้ว
ด้าน ข่าวช่องวัน รายงานว่า ทราบชื่อผู้ก่อเหตุแล้ว คือ นายอิทธิพล อิ่มผึ่ง อายุ 31 ปี โดยเพื่อนของนายอิทธิพล เผยว่า นายอิทธิพลทำงานกับญาติที่ฟาร์มหมู ก่อนเกิดเหตุ นายอิทธิพลมาชวนตนไปเที่ยวงานประจำปี ไปเที่ยวเสร็จก็ไปขี่รถเล่น ตนจึงซ้อนท้ายนายอิทธิพลไป
เมื่อมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุ ตนที่นั่งซ้อนอยู่ก็นั่งมองไปทางอื่น พอหันกลับมาก็เห็นนายอิทธิพลเอามีดมาแทงคอจนเหยื่อได้รับบาดเจ็บสาหัส จนตนต้องกระโดดลงจากรถและวิ่งหนี เพราะกลัวนายอิทธิพลจะมาทำร้ายตน ซึ่งในตอนแรกตนเข้าใจว่านายอิทธิพลไปจับแก้มผู้หญิง
จากนั้นตำรวจได้จับกุมตัวนายอิทธิพลได้สำเร็จ และนำตัวมาที่โรงพักเพื่อสอบสวน แต่นายอิทธิพลยังคงให้การวกวนอยู่




ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวช่องวัน