เจ้าอาวาส ยอมรับเก็บค่างานศพที่มีการแชร์ลิสต์ในโซเชียลจริง แต่ราคาถูก ยันไม่ได้หากินกับคนตาย ไม่อยากให้ญาติโยมโดนหลอกไปซื้อของแพงข้างนอก
จากกรณีที่มีการเปิดเผยลิสต์ค่าใช้จ่ายการจัดงานศพของวัดแห่งหนึ่ง ซึ่งมีราคาที่สูงและคิดเงินยิบย่อยทุกจุด อาทิ เอาโลงมาเอง ก็จะมีค่าวางจำนวน 2,000 บาท, เอาดอกไม้มาเอง ค่าวาง 1,000 บาท อีกทั้งยังมีค่าเจ้าหน้าที่ศาลา, เจ้าหน้าที่เผา รวมถึงเจ้าหน้าที่ประจำจุดต่าง ๆ จุดละ 440 บาท ทำให้หลายคนตั้งคำถามว่า วัดเป็นที่พึ่งสุดท้ายสำหรับคนตายจริง ๆ ใช่หรือไม่ เพราะดูจากค่าใช้จ่ายแล้ว ครอบครัวที่ยากจนไม่มีสิทธิ์ใช้วัดนี้เลย
อ่านข่าว : เปิดลิสต์ค่าใช้จ่าย จัดงานศพวัดดัง เอาโลงมาเองยังต้องเสีย ตายทั้งทีใช้เงินไม่ใช่น้อย ๆ
ล่าสุด (16 ธันวาคม 2563) ช่อง 3 รายงานว่า พระปัญญานันทมุนี (สง่า ณ ระนอง) เจ้าอาวาสวัดชลประทานรังสฤษดิ์ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ได้ออกมาชี้แจงว่า ทางวัดเก็บค่าใช้จ่ายจริง แต่เรียกเก็บเพราะเป็นกฎระเบียบของทางวัดที่มีการประชุมกับคณะกรรมการวัดแล้วว่าจะเป็นประโยชน์กับญาติโยมที่สูญเสียคนรักแล้วต้องมาเสียค่าจัดงานศพแพงอีก เหมือนเป็นการซ้ำเติมเขา
พระปัญญานันทมุนี ระบุอีกว่า ก่อนหน้านี้เวลาญาติโยมนำศพมาตั้งสวด ก็จะต้องเสียเงินในการหาโลงศพ เสียค่าขนส่งมาที่วัด ค่าดอกไม้ ค่าอาหาร เป็นจำนวนเงินที่สูงมาก จึงมีการจัดประมูลทั้งเจ้าของกิจการโลงศพและดอกไม้ โดยทางวัดเป็นผู้กำหนดเกณฑ์ค่าใช้จ่ายให้ถูกลงกว่าร้านข้างนอก เช่น โลงศพต้องไม่เกิน 8,000 บาท
นอกจากนี้ ดอกไม้วางหน้าโลงศพและหน้าเมรุ ญาติโยมบางรายถูกหลอกให้ซื้อราคาสูงหลักแสน ทางวัดจึงออกกฎให้ซื้อกับทางวัดในราคาถูก ดอกไม้ประดิษฐ์ไม่เกิน 5,000 บาท แต่ถ้าเป็นดอกไม้สดไม่เกิน 8,000 บาท
สำหรับค่าวางโลงศพ 2,000 บาท นั้น คิดเฉพาะเวลาที่ญาติโยมนำโลงมาจากร้านข้างนอก เพราะหากเกิดกรณีโลงแตกร้านเขาก็ไม่ได้เข้ามาดูแล จึงต้องนำเงินส่วนนั้นมาให้เจ้าหน้าที่วัดคอยดูแลแก้ไข และทำการกำจัดกลิ่นแทน โดยหลัก ๆ ค่าใช้จ่ายที่ต้องเก็บคือค่าบริการบำเพ็ญกุศล 3 คืน ไม่เกิน 4,000 บาท 5 คืน ไม่เกิน 5,000 บาท ส่วนรายการค่าใช้จ่ายอื่น ๆ มีการกำหนดไว้เพื่อให้เห็นรายละเอียดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เท่านั้น แต่หากอันไหนไม่เอาก็สามารถตัดออกไปได้
ยืนยันว่าวัดไม่ได้หากินกับศพ บางครั้งโยมบางรายไม่มีเงินค่าทำศพมาติดต่อกับที่วัด ทางวัดก็จัดการให้ฟรีทุกอย่างเพราะวัดคือที่พึ่งของประชาชน ส่วนกรณีที่มีการแชร์ออกไปนั้น เรื่องเกิดมาจากญาติผู้เสียชีวิตรายหนึ่งต้องการนำโลงศพ 3 ชั้น มาตั้งสวดที่วัด ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ชี้แจงไปแล้วว่าโลง 3 ชั้นไม่สามารถเข้าไปเผาในเมรุได้จึงอาจทำให้เขาเกิดความไม่พอใจ
ด้าน น.ส.วิรัญญา แก้วศรีนนท์ เจ้าของกิจการหีบศพ ซึ่งเป็นผู้ที่นำเรื่องราวดังกล่าวมาโพสต์ ระบุว่า เรื่องที่เกิดขึ้นนั้นตนไม่ได้มีเจตนาที่จะโจมตีวัด แต่เพราะมีเพื่อนมาติดต่อว่าญาติเสียชีวิต และจะซื้อโลงศพจากที่ร้าน ตนจึงให้ไปสอบถามที่วัดก่อน เพราะเคยทราบมาว่าทางวัดจะมีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายที่นำโลงข้างนอกเข้า เมื่อเพื่อนไปสอบถามก็ได้รับเอกสารชี้แจงค่าใช้จ่าย จึงส่งมาให้ดู ตนเห็นแล้วรู้สึกตกใจจึงนำไปโพสต์ เพราะมองว่าค่าใช้จ่ายสูงเกินไป
ขอบคุณข้อมูลจาก ช่อง 3
จากกรณีที่มีการเปิดเผยลิสต์ค่าใช้จ่ายการจัดงานศพของวัดแห่งหนึ่ง ซึ่งมีราคาที่สูงและคิดเงินยิบย่อยทุกจุด อาทิ เอาโลงมาเอง ก็จะมีค่าวางจำนวน 2,000 บาท, เอาดอกไม้มาเอง ค่าวาง 1,000 บาท อีกทั้งยังมีค่าเจ้าหน้าที่ศาลา, เจ้าหน้าที่เผา รวมถึงเจ้าหน้าที่ประจำจุดต่าง ๆ จุดละ 440 บาท ทำให้หลายคนตั้งคำถามว่า วัดเป็นที่พึ่งสุดท้ายสำหรับคนตายจริง ๆ ใช่หรือไม่ เพราะดูจากค่าใช้จ่ายแล้ว ครอบครัวที่ยากจนไม่มีสิทธิ์ใช้วัดนี้เลย
อ่านข่าว : เปิดลิสต์ค่าใช้จ่าย จัดงานศพวัดดัง เอาโลงมาเองยังต้องเสีย ตายทั้งทีใช้เงินไม่ใช่น้อย ๆ
ล่าสุด (16 ธันวาคม 2563) ช่อง 3 รายงานว่า พระปัญญานันทมุนี (สง่า ณ ระนอง) เจ้าอาวาสวัดชลประทานรังสฤษดิ์ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ได้ออกมาชี้แจงว่า ทางวัดเก็บค่าใช้จ่ายจริง แต่เรียกเก็บเพราะเป็นกฎระเบียบของทางวัดที่มีการประชุมกับคณะกรรมการวัดแล้วว่าจะเป็นประโยชน์กับญาติโยมที่สูญเสียคนรักแล้วต้องมาเสียค่าจัดงานศพแพงอีก เหมือนเป็นการซ้ำเติมเขา
พระปัญญานันทมุนี ระบุอีกว่า ก่อนหน้านี้เวลาญาติโยมนำศพมาตั้งสวด ก็จะต้องเสียเงินในการหาโลงศพ เสียค่าขนส่งมาที่วัด ค่าดอกไม้ ค่าอาหาร เป็นจำนวนเงินที่สูงมาก จึงมีการจัดประมูลทั้งเจ้าของกิจการโลงศพและดอกไม้ โดยทางวัดเป็นผู้กำหนดเกณฑ์ค่าใช้จ่ายให้ถูกลงกว่าร้านข้างนอก เช่น โลงศพต้องไม่เกิน 8,000 บาท
นอกจากนี้ ดอกไม้วางหน้าโลงศพและหน้าเมรุ ญาติโยมบางรายถูกหลอกให้ซื้อราคาสูงหลักแสน ทางวัดจึงออกกฎให้ซื้อกับทางวัดในราคาถูก ดอกไม้ประดิษฐ์ไม่เกิน 5,000 บาท แต่ถ้าเป็นดอกไม้สดไม่เกิน 8,000 บาท
สำหรับค่าวางโลงศพ 2,000 บาท นั้น คิดเฉพาะเวลาที่ญาติโยมนำโลงมาจากร้านข้างนอก เพราะหากเกิดกรณีโลงแตกร้านเขาก็ไม่ได้เข้ามาดูแล จึงต้องนำเงินส่วนนั้นมาให้เจ้าหน้าที่วัดคอยดูแลแก้ไข และทำการกำจัดกลิ่นแทน โดยหลัก ๆ ค่าใช้จ่ายที่ต้องเก็บคือค่าบริการบำเพ็ญกุศล 3 คืน ไม่เกิน 4,000 บาท 5 คืน ไม่เกิน 5,000 บาท ส่วนรายการค่าใช้จ่ายอื่น ๆ มีการกำหนดไว้เพื่อให้เห็นรายละเอียดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เท่านั้น แต่หากอันไหนไม่เอาก็สามารถตัดออกไปได้
ยืนยันว่าวัดไม่ได้หากินกับศพ บางครั้งโยมบางรายไม่มีเงินค่าทำศพมาติดต่อกับที่วัด ทางวัดก็จัดการให้ฟรีทุกอย่างเพราะวัดคือที่พึ่งของประชาชน ส่วนกรณีที่มีการแชร์ออกไปนั้น เรื่องเกิดมาจากญาติผู้เสียชีวิตรายหนึ่งต้องการนำโลงศพ 3 ชั้น มาตั้งสวดที่วัด ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ชี้แจงไปแล้วว่าโลง 3 ชั้นไม่สามารถเข้าไปเผาในเมรุได้จึงอาจทำให้เขาเกิดความไม่พอใจ
ด้าน น.ส.วิรัญญา แก้วศรีนนท์ เจ้าของกิจการหีบศพ ซึ่งเป็นผู้ที่นำเรื่องราวดังกล่าวมาโพสต์ ระบุว่า เรื่องที่เกิดขึ้นนั้นตนไม่ได้มีเจตนาที่จะโจมตีวัด แต่เพราะมีเพื่อนมาติดต่อว่าญาติเสียชีวิต และจะซื้อโลงศพจากที่ร้าน ตนจึงให้ไปสอบถามที่วัดก่อน เพราะเคยทราบมาว่าทางวัดจะมีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายที่นำโลงข้างนอกเข้า เมื่อเพื่อนไปสอบถามก็ได้รับเอกสารชี้แจงค่าใช้จ่าย จึงส่งมาให้ดู ตนเห็นแล้วรู้สึกตกใจจึงนำไปโพสต์ เพราะมองว่าค่าใช้จ่ายสูงเกินไป
ขอบคุณข้อมูลจาก ช่อง 3
