สาวกลุ้มหนัก แฟนมีโลกหลายใบ พอรู้ว่าท้อง สั่งให้ไปทำแท้ง บอกพี่ไม่พร้อมจริง ๆ

สาวกลุ้มใจ เมื่อแฟนหนุ่มมีโลกหลายใบ ซ้ำพอรู้ว่าตั้งท้องยังสั่งให้ไปทำแท้ง ตัดสินใจเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว ฝ่ายชายบอกอีก 4 ปี จะมาขอแต่ง

ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

ปัญหาเรื่องการท้องไม่พร้อม ถือเป็นปัญหาครอบครัวที่จัดอยู่ในอันดับต้น ๆ ในสังคมเลยก็ว่าได้ ซึ่งก็มีทั้งคนที่ตัดสินใจจบปัญหาด้วยการทำแท้ง และหญิงสาวหลายคนขอเลือกที่จะเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว เหมือนดังเช่นเรื่องราวของหญิงสาวคนหนึ่ง ที่ได้เขียนระบายปัญหาหนักอกลงบนเว็บไซต์ Pantip.com โดยเธอเล่าว่า

ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

          - ได้คบกับผู้ชายคนหนึ่งในระยะเวลาไม่นานมาก โดยอยู่กันคนละที่ คนละจังหวัด ซึ่งฝ่ายชายเข้ามาจีบก่อน และเธอก็ถามตลอดว่าโสดจริง ๆ แน่เหรอ เขาก็บอกว่ายังไม่มีใคร

          - ตอนเราอยู่ด้วยกันพี่เขาเทกแคร์ ดูแลเอาใจใส่ดีมาก ตามใจตลอด ไม่ว่าอยากทำอะไร อยากไปไหน ไปเที่ยวด้วยกัน มีการขอรูปเธอไปตั้งหน้าจอมือถือ

          - มีการบอกว่าวันเกิดแม่จะพาไปกินข้าวด้วยกัน และจะพาไปเที่ยวบ้านที่ต่างจังหวัด ทำให้เธอมั่นใจและเชื่อสนิทใจว่าพี่เขาไม่มีใครแน่นอน

          - เธอไปบ้านฝ่ายชายตลอดตอนอยู่กรุงเทพฯ แต่ไม่เคยได้คุยหรือได้เจอพ่อแม่ฝ่ายชายเลยสักครั้ง

          - กระทั่งเธอกลับมาเรียนอยู่บ้านที่ จ.ร้อยเอ็ด และตั้งท้อง

          - เธอตัดสินใจส่งรูปที่ตรวจครรภ์ไป มีการตรวจ 2 รอบ ครั้งละวัน ซึ่งก็ขึ้น 2 ขีดทั้งหมด จึงบอกฝ่ายชายว่าท้อง

          - ฝ่ายชายไม่แน่ใจว่าเธอท้องจริงหรือเปล่า จึงให้ไปตรวจที่โรงพยาบาลอีกครั้ง ซึ่งก็เจอถุงตั้งครรภ์จริง ๆ

          - ฝ่ายชายบอกว่ายังไม่พร้อมตอนนี้ เพราะช่วงนั้นตกงาน และบอกว่าอีกว่าไม่สามารถบอกพ่อแม่ที่บ้านได้ จึงเสนอให้เธอทำแท้ง แต่เธอยืนยันและยื่นคำขาดว่าจะไม่ทำ โดยบอกฝ่ายชายว่าไม่ต้องรับผิดชอบก็ได้ เธอจะเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว

          - ฝ่ายชายตกลง และบอกว่าถ้ามีน้องอีก 4 ปี จะมาแต่ง จะดูแลเธอเอง แต่ให้ที่บ้านรู้ไม่ได้ เธอไม่เคยถามว่าเพราะอะไรถึงไม่กล้าบอก แต่เริ่มสงสัยว่าเขาอาจจะมีครอบครัวแล้ว หรือไม่ก็มีโลกอีกใบแน่ ๆ

          - จากนั้นเธอก็เริ่มฝากครรภ์ปกติ ฝ่ายชายรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทุกอย่าง

          - ไม่นานฝ่ายชายได้งานใหม่ ก็ไปทำงานปกติและก็มีผู้หญิงคนใหม่ ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงานที่เดียวกัน

          - เธอสังเกตเห็นความผิดปกติในเฟซบุ๊กที่ฝ่ายชายไม่ค่อยเล่น จึงไปส่องแล้วเจอผู้หญิงคนหนึ่งลงรูปคู่กับฝ่ายชาย มีการเขียนแคปชั่นประมาณว่าเริ่มคบกัน และเรียกว่า Daddy ทางด้านเพื่อนของผู้หญิงก็ทักมาด่าเธอว่าต่ำตม ไม่มีปัญญาคุมผัวให้อยู่ ก็ควรอยู่เงียบ ๆ ไป อย่ามาสาระแนยุ่งกับเพื่อน

          - ฝ่ายชายยอมรับผิด พร้อมขอโทษ ขอโอกาส และสัญญาว่าจะไม่ทำอีก ยืนยันว่าจะดูแลส่งเงินให้เธอกับลูกทุกเดือนตามที่เคยบอกไว้ ซึ่งตอนนั้นเธอท้องอ่อน ๆ ได้ 3-4 เดือนแล้ว ก็รู้สึกจุกมาก ร้องไห้ทั้งคืนจนมดลูกบีบตัวเหมือนจะตาย

          - เธอคิดได้ว่าต้องอยู่เพื่อลูก จึงบอกฝ่ายชายว่าไม่ได้สนใจอะไรแล้ว ต่อให้ไปกันต่อไม่ได้ หรือเขาทำแบบนี้กับเธออีก ขอแค่อย่างเดียวคือทำหน้าที่แต่ละคนให้ดี ช่วยกันดูแลรับผิดชอบลูก ซึ่งฝ่ายชายก็รับปาก

          - จากนั้นฝ่ายชายได้ออกจากงานนั้นไป (ช่วงโควิด 19 มีการลดพนักงานออก) จนมาถึงช่วงที่ท้องได้ 6 เดือน กำลังจะเข้าเดือนที่ 7 เธอไปฝากท้องคนเดียวทุกอย่าง

          - วันที่เธอเข้าโรงพยาบาลเพราะตกเลือดอยู่ มีผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งเป็นพยาบาล ทักมาถามว่ายังคบกับฝ่ายชายอยู่ไหม และพยาบาลคนนั้นยังบอกอีกว่า คบกับฝ่ายชายมาได้เกือบปีแล้ว ไป-กลับบ้านผู้ชายคนนี้ตลอด อีกทั้งฝ่ายชายยังสารภาพกับพยาบาลคนนั้นว่าเลิกกับเธอไปนานแล้ว เพราะพลาดทำเธอท้องเอง

          - เธอกลับมาส่งข้อความที่แคปจากพยาบาลคนนั้นมาให้ฝ่ายชาย ครั้งนี้ฝ่ายชายไม่พูดอะไร ไม่ขอโทษ และพูดเรื่องอื่นราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น

          - เวลาผ่านไปจนกระทั่งเธอคลอดลูก หลังคลอดก็เป็นโรคซึมเศร้า 2-3 เดือน ฝ่ายชายมาแค่วันที่ลูกเกิดวันเดียว แล้วก็กลับแบบไม่ได้บอกลาเธอกับลูกเลย

          - เธอไปส่องเฟซบุ๊กของฝ่ายชายอีกครั้ง ก็เห็นโพสต์ว่า "เบื่อว่ะ" จากนั้นก็มีผู้หญิงมาคอมเมนต์ว่า "เบื่อหนูเหรอ" เธอจึงคิดว่าฝ่ายชายยังคงมีโลกอีกใบกับผู้หญิงคนนั้น แต่เธอปลงนานแล้ว พอมาเลี้ยงลูกคนเดียวมันเหนื่อยและลำบากมาก นอนร้องไห้ทุกคืนจนอยากตาย ไม่อยากอยู่ เป็นซึมเศร้าหนักมากหลังคลอด สงสารลูกที่ทำให้เขาเกิดมาโดยไม่สมบูรณ์ในครอบครัว เธอรู้สึกผิดกับลูกมาก รู้สึกแย่ที่ฝ่ายชายหลอกเธอมาตลอด พร้อมกับตั้งคำถามทิ้งท้ายว่า ตอนนี้ลูกเธอเพิ่งอายุได้ 2 เดือนกว่า เธอควรทำอย่างไรกับเขาและเรื่องลูกของเธอต่อไปดี

          ทั้งนี้ ก็มีชาวเน็ตเข้ามาเตือนสติให้เธอมากมาย และถามย้อนกลับไปว่าถ้าไม่พร้อมจริง ๆ ทำไมตอนนั้นไม่ใช้ถุงยางอนามัย แต่ในเมื่อลูกเกิดมาแล้วก็ต้องก้มหน้าก้มตาเลี้ยงเขาให้ดีต่อไป การเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวนั้นไม่ง่าย ส่วนผู้ชายก็ควรตัดออกไปได้แล้ว เพราะดูท่าที่บอกรอถึง 4 ปี แล้วจะมาแต่ง คงไม่มีวันเป็นจริง ซึ่งเธอก็เข้ามาขอบคุณทุกคำติชมและคำให้กำลังใจ พร้อมบอกทิ้งท้ายว่า ตอนนี้มีลูกก็ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว