ทักษิณ ไลฟ์อ้อน อยากกลับไทยไปเลี้ยงหลาน - ห่วง ปชช. รักสถาบันสูงสุด ปัดเป็นท่อน้ำเลี้ยงม็อบ แนะใช้ รธน. ปี 40 เป็นหลักในการแก้ฉบับใหม่
- สถานการณ์ในประเทศที่ยังมีหลายสิ่งที่คนในประเทศมองไม่ตรงกัน จะเป็นปัญหาในการพัฒนาหรือรัฐบาลต้องปรับปรุงอะไรหรือไม่ ?
นายทักษิณ กล่าวว่า ตอนตนเป็นนายกฯ ตนอ่านหนังสือ และพบว่า หากใครคิดเปลี่ยนแปลง ต้องเล่าเรื่องการเปลี่ยนแปลงให้ประชาชนเข้าใจและเดินไปด้วยกันว่าสิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงนั้นดีอย่างไร เมื่อประชาชนคิดเป็น เห็นด้วย ก็จะเดินตามได้ แต่จะไปสั่งเขาไม่ได้ โลกยุคใหม่มีโซเชียลเน็ตเวิร์ก ประชาชนเรียนรู้ได้หลายแห่ง เพราะฉะนั้นทุกอย่างต้องเป็นความจริง อย่าโกหก การรู้จริงและพูดจริงเป็นสิ่งที่ประชาชนต้องการ เขาพร้อมเดินตามสิ่งที่เป็นอนาคตของพวกเขา เราจึงต้องทำให้เห็นว่าสิ่งที่เราทำนั้นเป็นประโยชน์ต่อพวกเขา
- การเมืองเป็นปัจจัยสำคัญในการที่จะทำให้คนเดินไปด้วยกันหรือสามารถขับเคลื่อนประเทศไปด้วยกันได้
นายทักษิณ กล่าวว่า แน่นอนอยู่แล้ว เพราะการบริหารประเทศต้องนำโดยฝ่ายการเมือง ถ้าการเมืองดี คุณภาพของคนก็จะเข้ามาได้มากขึ้น แต่ถ้าการเมืองไม่ดี คนที่มีคุณภาพก็จะถอยลงไป ไม่อยากเข้ามา ดังนั้นการเมืองต้องแข็งแรง เป็นธรรม เป็นประชาธิปไตยจริง ๆ
นายทักษิณ กล่าวว่า ต้องอยู่ที่ว่ารัฐธรรมนูญเป็นอย่างไรและรัฐธรรมนูญนั้นจะอยู่คงทนหรือไม่ เพราะรัฐธรรมนูญเราเปลี่ยนบ่อยกว่ากฎหมายธรรมดาด้วยซ้ำ ถ้าเราได้รัฐธรรมนูญที่ดีและแข็งแรง ไม่มีการฉีกรัฐธรรมนูญเรื่อย ๆ ตนคิดว่าการเมืองก็จะแข็งแรง
- ขณะนี้เราอยู่ในกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มีอะไรแนะนำหรือไม่
นายทักษิณ กล่าวว่า ตนคิดว่ารัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 เป็นรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนจริง ๆ ถ้ายึดเอารัฐธรรมนูญปี 2540 เป็นหลักแล้ว ปรับเอาจากรัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 จะง่ายและเร็วขึ้น แต่ก็เป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่เมื่อได้เปรียบอยู่แล้วก็ไม่อยากให้ความได้เปรียบนั้นหายไป รัฐธรรมนูญก็เลยกลายเป็นเครื่องมือต่อรองทางการเมือง แต่ถ้าคิดว่าเรากำลังร่วมกันทำรัฐธรรมนูญฉบับนี้เพื่อประเทศของเราในระยะยาว เพื่ออนาคตของลูกหลาน
นายทักษิณ กล่าวอีกว่า เด็กวันนี้สามารถดูระบบการศึกษาของตัวเอง ดูระบบการสร้างงานในอนาคตที่ตัวเองเป็นอยู่ แต่ในวันนี้มองไม่เห็นอนาคต ถ้าเด็กมองเห็นอนาคตได้ ก็จะมีคนคอยผลักดันประเทศ แตาถ้ามีความขัดแย้งเรื่อย ๆ เด็กไม่เห็นอนาคต วันนี้เราไม่สามารถปกปิดเด็กได้ว่าอย่ารู้เรื่องนั้นอย่ารู้เรื่องนี้ เขาสามารถรู้ได้หมดจากการค้นคว้า ผู้ใหญ่วันนี้จึงต้องอยู่บนโลกของความเป็นจริง อยู่กับโลกที่อนาคตจะเปลี่ยนไป ต้องเข้าใจว่าอนาคตจะไปตรงไหน แล้วอยู่บนโลกแห่งความเป็นจริงนี้ อย่าไปอยู่บนโลกแห่งอดีตมากนัก แม้อดีตจะเป็นสิ่งที่เราควรเรียนรู้ แต่ไม่ใช่เป็นสิ่งที่เราคาดหมาย ดังนั้นเรียนรู้ได้แต่อย่าหลงใหล
นายทักษิณ กล่าวว่า ตนคิดว่าการที่คนมารวมตัวกันแล้วสะท้อนความคิดเห็น เป็นสิ่งที่ควรรับฟัง แต่อะไรทำได้หรือทำไม่ได้ก็ต้องอธิบายกันไป บางครั้งไม่ฟังเกินไปก็ทำให้เกิดการต่อต้าน แต่ถ้าฟังมากไป โดยไม่มีเหตุไม่มีผลก็ไม่ได้ ทุกอย่างมีเหตุมีผล ดังนั้นใครพูดอะไรก็มาฟัง ถ้าทำได้ก็ทำ ถ้าทำไม่ได้ก็ต้องอธิบาย ต้องมีการส่งสารที่ชัดเจนด้วย
- เหตุใดจึงโดนตั้งข้อสังเกตว่าเป็นท่อน้ำเลี้ยงม็อบ
นายทักษิณ กล่าวว่า ถ้าคิดอะไรไม่ออกก็ต้องคิดถึงตนไปก่อนอยู่แล้ว 10 กว่าปีแล้ว ลำพังตนอยู่เมืองนอก ค่าใช้จ่ายก็สูงอยู่แล้ว ตนต้องทำมาหากิน ถามว่าตนได้อะไร บางทีบางครั้งคนก็ว่าไปเรื่อยเปื่อย มันไม่เกี่ยวกับตน ชีวิตตนนั้นเป็นชีวิตที่อิสระแล้ว เพียงแต่ว่าใจยังรักประเทศอยู่ ห่วงใยประชาชนไม่อยากให้เขาลำบากเท่านั้นเอง ยังเคารพสถาบันสูงสุดอยู่ตลอดเวลาไม่เปลี่ยนแปลง
นายทักษิณ กล่าวว่า บ้านเรามองทุกอย่างให้เป็นการเมืองหมด ใครอยากปล่อยข่าวอะไรเพื่อเกิดประโยชน์อะไรก็ปล่อย เป็นการเมืองไปหมด การเมืองเยอะไป แต่การบ้านน้อยไป ถ้าการเมืองน้อยกว่านี้ แล้วการบ้านมากกว่านี้ ประเทศก็คงจะดี แม้กระทั่งไปนั่งกินกาแฟตอนเช้าก็ยังคุยแต่เรื่องการเมือง
- มองการเมืองปี 2564 อย่างไร
นายทักษิณ กล่าวว่า ก็คงไม่ไปไหน จนกว่าข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุมจะได้รับการแก้ไขในมุมกว้าง และทำให้การเมืองเปลี่ยนแปลงได้ ซึ่งการเมืองจะเปลี่ยนแปลงได้ก็อยู่ที่ไบเบิ้ลของมันก็คือรัฐธรรมนูญ
นายทักษิณ กล่าวพร้อมหัวเราะว่า "พอก่อนครับ ตอนนี้คงต้องร้องเพลงเจ็บนี้อีกนาน"
- ออกจากประเทศไปนาน ได้มีการพูดคุยกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือไม่ว่าเมื่อไรจะกลับมา
นายทักษิณ กล่าวว่า อยากกลับประเทศไทยไปเลี้ยงหลาน มีหลาน 3 คน และกำลังจะมีคนที่ 4 แก่แล้ว อยากเลี้ยงหลาน ไม่ได้คิดอะไรมาก แต่ตอนนี้ใครอยากจะขอคำปรึกษาหรืออะไรก็ตาม ในฐานะที่เคยเป็นอาจารย์เก่า ชอบอธิบายและสอนคนอยู่แล้ว ก็สามารถทำหน้าที่พวกนี้ได้ แต่เรื่องการเมืองนั้น แก่ อายุ 72 ปี แล้ว จะไปนั่งทำการเมืองอะไรอีก มีแต่ห่วงบ้านห่วงเมืองเท่านั้น แต่จะกลับเมืองไทยเมื่อไหร่นั้น ไม่ได้เป็นคนกำหนด อยากกลับแน่นอน อยากเลี้ยงหลาน วัยของตนตอนนี้เรียกว่าวัยรักลูกหลงหลาน
ขอบคุณข้อมูลจาก เดลินิวส์
ภาพจาก Instagram thaksinlive
วันที่ 1 มกราคม 2564 เดลินิวส์ รายงานว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อผ่านโปรแกรม Zoom โดยมีประเด็นน่าสนใจดังนี้- สถานการณ์ในประเทศที่ยังมีหลายสิ่งที่คนในประเทศมองไม่ตรงกัน จะเป็นปัญหาในการพัฒนาหรือรัฐบาลต้องปรับปรุงอะไรหรือไม่ ?
นายทักษิณ กล่าวว่า ตอนตนเป็นนายกฯ ตนอ่านหนังสือ และพบว่า หากใครคิดเปลี่ยนแปลง ต้องเล่าเรื่องการเปลี่ยนแปลงให้ประชาชนเข้าใจและเดินไปด้วยกันว่าสิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงนั้นดีอย่างไร เมื่อประชาชนคิดเป็น เห็นด้วย ก็จะเดินตามได้ แต่จะไปสั่งเขาไม่ได้ โลกยุคใหม่มีโซเชียลเน็ตเวิร์ก ประชาชนเรียนรู้ได้หลายแห่ง เพราะฉะนั้นทุกอย่างต้องเป็นความจริง อย่าโกหก การรู้จริงและพูดจริงเป็นสิ่งที่ประชาชนต้องการ เขาพร้อมเดินตามสิ่งที่เป็นอนาคตของพวกเขา เราจึงต้องทำให้เห็นว่าสิ่งที่เราทำนั้นเป็นประโยชน์ต่อพวกเขา
- การเมืองเป็นปัจจัยสำคัญในการที่จะทำให้คนเดินไปด้วยกันหรือสามารถขับเคลื่อนประเทศไปด้วยกันได้
นายทักษิณ กล่าวว่า แน่นอนอยู่แล้ว เพราะการบริหารประเทศต้องนำโดยฝ่ายการเมือง ถ้าการเมืองดี คุณภาพของคนก็จะเข้ามาได้มากขึ้น แต่ถ้าการเมืองไม่ดี คนที่มีคุณภาพก็จะถอยลงไป ไม่อยากเข้ามา ดังนั้นการเมืองต้องแข็งแรง เป็นธรรม เป็นประชาธิปไตยจริง ๆ
ภาพจาก Instagram thaksinlive
- เรายังมีความหวังว่าจะมีคนที่เก่งและดีเข้ามาบริหารประเทศหรือไม่นายทักษิณ กล่าวว่า ต้องอยู่ที่ว่ารัฐธรรมนูญเป็นอย่างไรและรัฐธรรมนูญนั้นจะอยู่คงทนหรือไม่ เพราะรัฐธรรมนูญเราเปลี่ยนบ่อยกว่ากฎหมายธรรมดาด้วยซ้ำ ถ้าเราได้รัฐธรรมนูญที่ดีและแข็งแรง ไม่มีการฉีกรัฐธรรมนูญเรื่อย ๆ ตนคิดว่าการเมืองก็จะแข็งแรง
- ขณะนี้เราอยู่ในกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มีอะไรแนะนำหรือไม่
นายทักษิณ กล่าวว่า ตนคิดว่ารัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 เป็นรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนจริง ๆ ถ้ายึดเอารัฐธรรมนูญปี 2540 เป็นหลักแล้ว ปรับเอาจากรัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 จะง่ายและเร็วขึ้น แต่ก็เป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่เมื่อได้เปรียบอยู่แล้วก็ไม่อยากให้ความได้เปรียบนั้นหายไป รัฐธรรมนูญก็เลยกลายเป็นเครื่องมือต่อรองทางการเมือง แต่ถ้าคิดว่าเรากำลังร่วมกันทำรัฐธรรมนูญฉบับนี้เพื่อประเทศของเราในระยะยาว เพื่ออนาคตของลูกหลาน
นายทักษิณ กล่าวอีกว่า เด็กวันนี้สามารถดูระบบการศึกษาของตัวเอง ดูระบบการสร้างงานในอนาคตที่ตัวเองเป็นอยู่ แต่ในวันนี้มองไม่เห็นอนาคต ถ้าเด็กมองเห็นอนาคตได้ ก็จะมีคนคอยผลักดันประเทศ แตาถ้ามีความขัดแย้งเรื่อย ๆ เด็กไม่เห็นอนาคต วันนี้เราไม่สามารถปกปิดเด็กได้ว่าอย่ารู้เรื่องนั้นอย่ารู้เรื่องนี้ เขาสามารถรู้ได้หมดจากการค้นคว้า ผู้ใหญ่วันนี้จึงต้องอยู่บนโลกของความเป็นจริง อยู่กับโลกที่อนาคตจะเปลี่ยนไป ต้องเข้าใจว่าอนาคตจะไปตรงไหน แล้วอยู่บนโลกแห่งความเป็นจริงนี้ อย่าไปอยู่บนโลกแห่งอดีตมากนัก แม้อดีตจะเป็นสิ่งที่เราควรเรียนรู้ แต่ไม่ใช่เป็นสิ่งที่เราคาดหมาย ดังนั้นเรียนรู้ได้แต่อย่าหลงใหล
ภาพจาก Instagram thaksinlive
- มองการชุมนุมของกลุ่มเยาวชนในช่วงนี้อย่างไรนายทักษิณ กล่าวว่า ตนคิดว่าการที่คนมารวมตัวกันแล้วสะท้อนความคิดเห็น เป็นสิ่งที่ควรรับฟัง แต่อะไรทำได้หรือทำไม่ได้ก็ต้องอธิบายกันไป บางครั้งไม่ฟังเกินไปก็ทำให้เกิดการต่อต้าน แต่ถ้าฟังมากไป โดยไม่มีเหตุไม่มีผลก็ไม่ได้ ทุกอย่างมีเหตุมีผล ดังนั้นใครพูดอะไรก็มาฟัง ถ้าทำได้ก็ทำ ถ้าทำไม่ได้ก็ต้องอธิบาย ต้องมีการส่งสารที่ชัดเจนด้วย
- เหตุใดจึงโดนตั้งข้อสังเกตว่าเป็นท่อน้ำเลี้ยงม็อบ
นายทักษิณ กล่าวว่า ถ้าคิดอะไรไม่ออกก็ต้องคิดถึงตนไปก่อนอยู่แล้ว 10 กว่าปีแล้ว ลำพังตนอยู่เมืองนอก ค่าใช้จ่ายก็สูงอยู่แล้ว ตนต้องทำมาหากิน ถามว่าตนได้อะไร บางทีบางครั้งคนก็ว่าไปเรื่อยเปื่อย มันไม่เกี่ยวกับตน ชีวิตตนนั้นเป็นชีวิตที่อิสระแล้ว เพียงแต่ว่าใจยังรักประเทศอยู่ ห่วงใยประชาชนไม่อยากให้เขาลำบากเท่านั้นเอง ยังเคารพสถาบันสูงสุดอยู่ตลอดเวลาไม่เปลี่ยนแปลง
ภาพจาก Instagram thaksinlive
- ทำไมจึงยังมีข่าวตั้งรัฐบาลแห่งชาติหรือรัฐบาลปรองดองอยู่ตลอดเวลานายทักษิณ กล่าวว่า บ้านเรามองทุกอย่างให้เป็นการเมืองหมด ใครอยากปล่อยข่าวอะไรเพื่อเกิดประโยชน์อะไรก็ปล่อย เป็นการเมืองไปหมด การเมืองเยอะไป แต่การบ้านน้อยไป ถ้าการเมืองน้อยกว่านี้ แล้วการบ้านมากกว่านี้ ประเทศก็คงจะดี แม้กระทั่งไปนั่งกินกาแฟตอนเช้าก็ยังคุยแต่เรื่องการเมือง
- มองการเมืองปี 2564 อย่างไร
นายทักษิณ กล่าวว่า ก็คงไม่ไปไหน จนกว่าข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุมจะได้รับการแก้ไขในมุมกว้าง และทำให้การเมืองเปลี่ยนแปลงได้ ซึ่งการเมืองจะเปลี่ยนแปลงได้ก็อยู่ที่ไบเบิ้ลของมันก็คือรัฐธรรมนูญ
ภาพจาก Instagram thaksinlive
- ยังมีคนในตระกูลชินวัตร ที่จะเข้ามาลงเป็นผู้นำการเมืองอีกหรือไม่นายทักษิณ กล่าวพร้อมหัวเราะว่า "พอก่อนครับ ตอนนี้คงต้องร้องเพลงเจ็บนี้อีกนาน"
- ออกจากประเทศไปนาน ได้มีการพูดคุยกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือไม่ว่าเมื่อไรจะกลับมา
นายทักษิณ กล่าวว่า อยากกลับประเทศไทยไปเลี้ยงหลาน มีหลาน 3 คน และกำลังจะมีคนที่ 4 แก่แล้ว อยากเลี้ยงหลาน ไม่ได้คิดอะไรมาก แต่ตอนนี้ใครอยากจะขอคำปรึกษาหรืออะไรก็ตาม ในฐานะที่เคยเป็นอาจารย์เก่า ชอบอธิบายและสอนคนอยู่แล้ว ก็สามารถทำหน้าที่พวกนี้ได้ แต่เรื่องการเมืองนั้น แก่ อายุ 72 ปี แล้ว จะไปนั่งทำการเมืองอะไรอีก มีแต่ห่วงบ้านห่วงเมืองเท่านั้น แต่จะกลับเมืองไทยเมื่อไหร่นั้น ไม่ได้เป็นคนกำหนด อยากกลับแน่นอน อยากเลี้ยงหลาน วัยของตนตอนนี้เรียกว่าวัยรักลูกหลงหลาน
ภาพจาก Instagram thaksinlive