x close

ประสบการณ์ จากคนเคยติด F สู่เงินเดือนหลักแสน ในวัย 30 แต่ลาออกงาน ด้วยเหตุผลนี้...

 

          หนุ่มแชร์ประสบการณ์ทำงาน จากคนเคยติด F เรียนจบช้ากว่าเพื่อน เริ่มทำงานจากเงินเดือนไม่กี่หมื่น สู่เงินเดือนหลักแสนในวัย 30 ปี พร้อมแนะนำเคล็ดลับทำงานให้เจ้านายรัก แต่สุดท้ายลาออก เผยเหตุผลที่ทิ้งเงินเดือนสูงขนาดนั้น ทั้งที่ทุกคนใฝ่ฝัน


          เป็นเรื่องราวที่กำลังได้รับความสนใจอย่างมาก สำหรับหนุ่มผู้ใช้ทวิตเตอร์ @BasSozeng ที่ออกมาเปิดเผยชีวิตการทำงานของตัวเอง จากเด็กที่เคยดรอป เรียนติด F และจบเพียงปริญญาตรี สู่ผู้จัดการเงินเดือนหลักแสนบาท ตอนอายุ 30 ปี เผยเคล็ดลับการทำงานต่าง ๆ คนที่อยากประสบความสำเร็จควรนำไปปรับใช้ กระทั่งวันยื่นลาออกจากงาน พร้อมเหตุผลที่ยอมทิ้งเงินเดือนหลักแสน...

จากเด็กติด F เรียนได้เกรด 2 กว่า จบช้า จนได้งานชิ้นแรก

          เจ้าของเรื่องแชร์ประสบการณ์ส่วนตัว โดยเล่าว่า เขาไม่ใช่เด็กเรียน เรียนจบ ป.ตรี เกรดเฉลี่ย 2 กว่า แถมเคยสอบตก เคยติด F และเคยดรอปเรียนด้วย ทำให้เรียนจบช้ากว่าเพื่อน ๆ 1 ปี แต่นิสัยอย่างหนึ่งของเขาคือ เป็นคนชอบทำงาน และบ้างานมาก

          ชีวิตการทำงานหลังเรียนจบ เริ่มต้นจากการเป็นพนักงานขายเครื่องสำอางในห้างสรรพสินค้า เลิก 4 ทุ่ม ตามเวลาปิดห้าง งานนี้ฐานเงินเดือนต่ำ แต่ค่าคอมมิชชั่นสูง การแข่งขันก็สูงด้วยเช่นกัน เขาพยายามพัฒนาตัวเองอยู่ตลอด ไม่รู้อะไรก็ถาม ซึ่งทำให้เขามีตัวตนและอยู่ในสายตาของหัวหน้างาน เขาชอบอาสาช่วยหัวหน้าทำงานเอกสารต่าง ๆ พร้อมกับวิเคราะห์ข้อมูลเหล่านั้นไปด้วย

ประสบการณ์
ภาพประกอบไม่เกี่ยวกับข้อมูล

เคล็ดลับสู่ความสำเร็จ เรียนภาษา-สร้างคอนเน็กชั่น-ย้ายงาน-พัฒนาทักษะ

          เขาเป็นคนไขว่คว้าโอกาสที่เข้ามา ตอนบริษัทเปิดสอบค่าภาษาอังกฤษ กับจีน เขาก็รับไว้ พยายามฝึกฝนตัวเองอย่างต่อเนื่อง เพราะจะได้รับค่าภาษาละ 3,000 บาท รวมเป็น 6,000 บาท ทุกวันเขาจะไปคุยกับล่ามจีนของห้าง เพื่อขอให้สอนคำศัพท์ให้วันละ 5 คำ ส่วนภาษาอังกฤษก็ฝึกเอง ต้องกล้าคุยกับชาวต่างชาติ ซึ่งในมือถือจะเปิดแอปฯ แปลภาษาไว้ตลอด ฝึกฝนต่อเนื่องจนสามารถสอบได้ มีเงินเดือนประมาณ 32,000 ปี ตอนอายุ 28 ปี

          จุดสำคัญระหว่างที่ทำงาน เขาจะสร้างและรักษาทุกคอนเน็กชั่นไว้หมด เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น การอวยพรปีใหม่ จะทำเป็นประจำ ไม่ว่าทางแชตหรือทางไหน เพื่อให้คนอื่นเห็นการมีอยู่ของเรา วันหนึ่งเขาจะนึกถึงเรา

          กระทั่งวันหนึ่ง เขาโดนซื้อตัวไปเป็นหัวหน้าเซลส์ ตำแหน่งงานก้าวกระโดด ตอนสัมภาษณ์งานเขาให้เทคนิคว่า ให้เปรียบเทียบตัวเองเป็นสินค้า ขายตัวเองให้กับผู้สัมภาษณ์ การเตรียมตัวและความตั้งใจทำให้ได้งานนี้ เขากลายเป็นหัวหน้าที่มีลูกน้อง 15 คนต้องดูแล ต้องปรับตัวเยอะมาก เช่น การใช้ Excel ที่ทำไม่เป็น ต้องให้รุ่นพี่สอนในเวลางาน และกลับบ้านมาดูยูทูบเองถึงตี 2 ทำไปร้องไห้ไป รู้สึกว่ามันเครียดและกดดัน แถมยังต้องเข้าประชุมเกือบทุกวัน ซึ่งเขาทำงานอยู่ที่นี่ได้ปีกว่า

ประสบการณ์
ภาพประกอบไม่เกี่ยวกับข้อมูล

ย้ายกลับมาทำงานที่แรก พร้อมเงินเดือนที่สูงกว่าเดิม-แนะเคล็ดลับทำอย่างไรให้นายรัก    

          การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอีกครั้ง เขาย้ายงานกลับมาบริษัทแรก ตอนอายุ 30 ปี ตำแหน่งท้าทายมากเพราะเป็นผู้จัดการ ไม่เหมือนสมัยเป็นแค่พนักงานแล้ว มีลูกทีม 30 คน ตอนยื่นเรซูเม่ ระบุว่า ออกไปหาประสบการณ์ที่บริษัทอื่นเพื่อพัฒนาตนเองให้พร้อมกลับมาที่นี่ ซึ่งได้เงินเดือน 60,000-80,000 บาท เขาแนะนำว่าการทำงานต้องทำแบบ 360 องศา คิดอะไรให้มองรอบด้าน มีแผนสำรองและมีทางออกมากกว่า 1 ทางเสมอ

          "เจ้านายและผู้บริหารจะชอบคนที่ไม่ทำงานไปวัน ๆ แต่ทำงานและสามารถวิเคราะห์ นำมาปรับใช้ เตรียมการต่าง ๆ ให้พร้อมอยู่เสมอ เวลาคุยกับเจ้านายให้คุยแบบ สินค้า A จะมาวันที่ B โดยทาง C แต่ถ้าไม่มา เรามีบริษัท D บริการผ่าน E ค่าใช้จ่าย F และจะทันใช้วันที่ G แน่นอน แบบนี้เจ้านายจะรักมาก"

          เขายังไม่หยุดพัฒนาตนเอง ยังสอบและเรียนออนไลน์ต่าง ๆ เพิ่มเติมตามที่บริษัทมีให้ เขาใส่ใจในรายละเอียดของงาน ถามทุกแผนกเพื่อจะได้เข้าใจเนื้องาน มีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับทุก ๆ คน เพื่อให้เขาสนับสนุนเรา

ประสบการณ์
ถึงวันที่เงินเดือนทะลุแสน และสาเหตุที่ลาออกจากงาน

          ตอนนี้ยอดเงินเดือนสุทธิของเขาทะลุ 1 แสนบาทแล้ว แต่ชีวิตกลับไม่ได้มีความสุขอย่างที่คิด เขาหมดเงินไปเยอะมากกับสิ่งที่เรียกว่า ภาษีสังคม ได้เยอะก็ออกเยอะ พร้อมชื่นชมคนได้รายได้น้อยกว่า แต่มีเงินเก็บมากกว่าเขาว่า พวกคุณเก่งมากจริง ๆ

          เขาทำงานหนักมากจนร่างกายไม่ไหว หมอวินิจฉัยว่ามีภาวะเครียดสะสม วิตกกังวล และรักความสมบูรณ์แบบ แม้จะยังไม่ถึงขั้นโรคซึมเศร้า แต่ก็มีโอกาสพัฒนาได้ กระทั่งเขาตัดสินใจลาออกจากงานมาพักร่างกายอยู่ครึ่งปี และเริ่มธุรกิจของตัวเองด้วยการเปิดร้านขนม เขาบอกว่าถึงรายได้จะไม่เท่าเดิม แต่เขาก็คิดได้แล้วว่า "เงินคือสิ่งจำเป็นในการใช้ชีวิต แต่มันไม่จำเป็นว่าต้องมากเกินตัว จนลืมรักตัวเอง"

ประสบการณ์


ขอบคุณข้อมูลจาก ทวิตเตอร์ @BasSozeng




เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ประสบการณ์ จากคนเคยติด F สู่เงินเดือนหลักแสน ในวัย 30 แต่ลาออกงาน ด้วยเหตุผลนี้... อัปเดตล่าสุด 11 มกราคม 2564 เวลา 09:47:56 54,726 อ่าน
TOP