ลูกค้าช้อปออนไลน์เดือด ติดแฮชแท็ก Shopee ไม่ต้องสาระแน ทะยานอันดับ 1 เทรนด์ทวิตเตอร์ ฉุนไม่ให้เลือกบริษัทส่งสินค้าเอง ทำได้ของช้า ซ้ำค่าส่งแพง
กลายเป็นประเด็นร้อนสนั่นวงการช้อปปิ้งออนไลน์ กรณีแอปพลิเคชัน Shopee เปลี่ยนวิธีการส่งสินค้าตั้งแต่ช่วงใกล้ปีใหม่ 2564 ซึ่งหลังการปรับเปลี่ยนดังกล่าวถูกใช้จริง ก็นำมาซึ่งเสียงสะท้อนจำนวนมากของลูกค้า จนล่าสุด (12 มกราคม 2564) ได้เกิด #shopeeไม่ต้องสาระแน ปัจจุบันพุ่งทะยานอันดับ 1 เทรนด์ทวิตเตอร์ประเทศไทยไปแล้ว
จุดเริ่มต้นของดราม่าร้อน ๆ ครั้งนี้ มาจากกรณีผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่งออกมาเผยว่าจะสั่งของใน Shopee ตอนนี้ก็รู้สึกระแวงไปแล้วกับคำว่า Standard Delivery เพราะไม่รู้ว่าสั่งไปแล้วบริษัทไหนจะมาส่ง กลัวจะได้บริษัทที่ส่งช้า หรือปัญหาเรื่องบริการไม่น่าประทับใจ จึงอยากจะขอเลือกบริษัทส่งของเอง เพราะเจ้าไหนที่แย่ก็จะไม่เลือก ไม่ใช่ Shopee มาเป็นคนเลือกให้ ทำให้ลูกค้าต้องมาลุ้นแบบนี้ ซึ่งทวีตนี้ถูกรีทวีตไปเกือบ 5 หมื่นครั้ง เนื่องจากหลายคนก็เจอปัญหานี้เช่นกัน
ภาพจาก shopee
ต่อมา Shopee Thailand ได้เข้าไปตอบกลับทวีตดังกล่าว ระบุว่า "ขออภัยในความไม่สะดวกนะคะ เนื่องจาก Shopee มีการปรับรูปแบบขนส่งใหม่เพื่อเป็นมาตรฐาน โดยเลือกผู้ให้บริการขนส่งที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณลูกค้า สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้จากลิงก์นี้เลยค่ะ"
จากการตรวจสอบ การขนส่งสินค้าแบบมาตรฐานของ Shopee ถูกเพิ่มรายละเอียดไว้เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2563 โดยบางส่วนมีใจความอธิบายเรื่องการส่งของว่า เพื่อให้มั่นใจว่าลูกค้าจะได้รับบริการที่ดีที่สุดจากผู้ให้บริการขนส่งของเรา Shopee จะเลือกผู้ให้บริการขนส่งที่เหมาะสมที่สุดให้กับคำสั่งซื้อของคุณ เมื่อคุณเลือกรูปแบบขนส่งแล้ว ระบบจะแจ้งบริษัทขนส่งให้คุณทราบอีกครั้ง เมื่อสถานะของคำสั่งซื้อเปลี่ยนเป็น "ที่ต้องได้รับ"
คุณยังไม่ต้องกังวลเรื่องค่าขนส่ง เพราะ Shopee จะคิดอัตราค่าบริการขนส่งในราคาที่เท่ากันทั้งหมด ทั้งแบบ Standard Delivery (Normal) และ Standard Delivery (Bulky) เพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะถูกคิดค่าขนส่งในอัตราที่เหมาะสมที่สุด สำหรับการจัดส่งประเภทอื่นอาจมีราคาที่แตกต่างกันไป สำหรับพื้นที่ห่างไกล จะมีการคิดค่าบริการเพิ่มเติม 50 บาท จากค่าขนส่งปกติ
อ่านรายละเอียด การขนส่งสินค้าแบบมาตรฐานของ Shopee คลิก
อย่างไรก็ดี จากการชี้แจงดังกล่าว ส่งผลให้ลูกค้าอีกจำนวนหนึ่งแสดงความไม่พอใจ โดยบอกว่า ปกติเลือกบริษัทส่งของเองก็จะได้ของเร็ว แต่พอ Shopee เลือกให้ กลับกลายเป็นได้รับช้า บางคนสั่งไปตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคม 2563 ยังไม่ได้ของเลย พร้อมตั้งคำถามว่า Shopee ใช้เกณฑ์อะไรในการเลือกบริษัทขนส่ง ทำไมจากได้ของปกติกลายเป็นได้ช้ากว่าเดิม แบบนี้ก็ควรจะกลับมาให้ลูกค้าเลือกเองเหมือนเดิมดีกว่าไหม
เสียงสะท้อนของลูกค้าบางส่วนบอกว่า ความพึงพอใจของแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนก็ยอมจะจ่ายเงินค่าส่งเพิ่มหากได้รับการส่งที่เร็ว และไม่มีปัญหาต้องมาคอยตามพัสดุตัวเองให้ยุ่งยาก แถมบางครั้งค่าส่งยังแพงเกินค่าของไปอีก
ขณะที่ลูกค้าอีกส่วนหนึ่งออกมาตั้งคำถามว่า Shopee มีการคิดค่าส่งของแพงขึ้นหรือไม่ เพราะบางทีแม้กระทั่งร้านแนะนำก็ใช้โค้ดไม่ได้ นอกจากนี้การเลือกบริษัทส่งของไม่ได้ยังกระทบไปถึงร้านขายของด้วย ที่ต้องเจอกับความยุ่งยากหากได้เจ้าที่มีปัญหา รวมทั้งยังเจอปัญหาเพิ่มที่ต้องมาคอยตามของให้ลูกค้า เป็นต้น
ทั้งนี้ ต้องติดตามต่อไปว่า Shopee จะจัดการกับข้อร้องเรียนจำนวนมากแบบนี้อย่างไร จะยังยืนยันในระบบของตัวเอง หรือจะปรับปรุงเพื่อเรียกความมั่นใจของลูกค้ากลับมาอีกครั้ง
กลายเป็นประเด็นร้อนสนั่นวงการช้อปปิ้งออนไลน์ กรณีแอปพลิเคชัน Shopee เปลี่ยนวิธีการส่งสินค้าตั้งแต่ช่วงใกล้ปีใหม่ 2564 ซึ่งหลังการปรับเปลี่ยนดังกล่าวถูกใช้จริง ก็นำมาซึ่งเสียงสะท้อนจำนวนมากของลูกค้า จนล่าสุด (12 มกราคม 2564) ได้เกิด #shopeeไม่ต้องสาระแน ปัจจุบันพุ่งทะยานอันดับ 1 เทรนด์ทวิตเตอร์ประเทศไทยไปแล้ว
จุดเริ่มต้นของดราม่าร้อน ๆ ครั้งนี้ มาจากกรณีผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่งออกมาเผยว่าจะสั่งของใน Shopee ตอนนี้ก็รู้สึกระแวงไปแล้วกับคำว่า Standard Delivery เพราะไม่รู้ว่าสั่งไปแล้วบริษัทไหนจะมาส่ง กลัวจะได้บริษัทที่ส่งช้า หรือปัญหาเรื่องบริการไม่น่าประทับใจ จึงอยากจะขอเลือกบริษัทส่งของเอง เพราะเจ้าไหนที่แย่ก็จะไม่เลือก ไม่ใช่ Shopee มาเป็นคนเลือกให้ ทำให้ลูกค้าต้องมาลุ้นแบบนี้ ซึ่งทวีตนี้ถูกรีทวีตไปเกือบ 5 หมื่นครั้ง เนื่องจากหลายคนก็เจอปัญหานี้เช่นกัน
ภาพจาก shopee
ต่อมา Shopee Thailand ได้เข้าไปตอบกลับทวีตดังกล่าว ระบุว่า "ขออภัยในความไม่สะดวกนะคะ เนื่องจาก Shopee มีการปรับรูปแบบขนส่งใหม่เพื่อเป็นมาตรฐาน โดยเลือกผู้ให้บริการขนส่งที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณลูกค้า สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้จากลิงก์นี้เลยค่ะ"
จากการตรวจสอบ การขนส่งสินค้าแบบมาตรฐานของ Shopee ถูกเพิ่มรายละเอียดไว้เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2563 โดยบางส่วนมีใจความอธิบายเรื่องการส่งของว่า เพื่อให้มั่นใจว่าลูกค้าจะได้รับบริการที่ดีที่สุดจากผู้ให้บริการขนส่งของเรา Shopee จะเลือกผู้ให้บริการขนส่งที่เหมาะสมที่สุดให้กับคำสั่งซื้อของคุณ เมื่อคุณเลือกรูปแบบขนส่งแล้ว ระบบจะแจ้งบริษัทขนส่งให้คุณทราบอีกครั้ง เมื่อสถานะของคำสั่งซื้อเปลี่ยนเป็น "ที่ต้องได้รับ"
คุณยังไม่ต้องกังวลเรื่องค่าขนส่ง เพราะ Shopee จะคิดอัตราค่าบริการขนส่งในราคาที่เท่ากันทั้งหมด ทั้งแบบ Standard Delivery (Normal) และ Standard Delivery (Bulky) เพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะถูกคิดค่าขนส่งในอัตราที่เหมาะสมที่สุด สำหรับการจัดส่งประเภทอื่นอาจมีราคาที่แตกต่างกันไป สำหรับพื้นที่ห่างไกล จะมีการคิดค่าบริการเพิ่มเติม 50 บาท จากค่าขนส่งปกติ
อ่านรายละเอียด การขนส่งสินค้าแบบมาตรฐานของ Shopee คลิก
อย่างไรก็ดี จากการชี้แจงดังกล่าว ส่งผลให้ลูกค้าอีกจำนวนหนึ่งแสดงความไม่พอใจ โดยบอกว่า ปกติเลือกบริษัทส่งของเองก็จะได้ของเร็ว แต่พอ Shopee เลือกให้ กลับกลายเป็นได้รับช้า บางคนสั่งไปตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคม 2563 ยังไม่ได้ของเลย พร้อมตั้งคำถามว่า Shopee ใช้เกณฑ์อะไรในการเลือกบริษัทขนส่ง ทำไมจากได้ของปกติกลายเป็นได้ช้ากว่าเดิม แบบนี้ก็ควรจะกลับมาให้ลูกค้าเลือกเองเหมือนเดิมดีกว่าไหม
เสียงสะท้อนของลูกค้าบางส่วนบอกว่า ความพึงพอใจของแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนก็ยอมจะจ่ายเงินค่าส่งเพิ่มหากได้รับการส่งที่เร็ว และไม่มีปัญหาต้องมาคอยตามพัสดุตัวเองให้ยุ่งยาก แถมบางครั้งค่าส่งยังแพงเกินค่าของไปอีก
ขณะที่ลูกค้าอีกส่วนหนึ่งออกมาตั้งคำถามว่า Shopee มีการคิดค่าส่งของแพงขึ้นหรือไม่ เพราะบางทีแม้กระทั่งร้านแนะนำก็ใช้โค้ดไม่ได้ นอกจากนี้การเลือกบริษัทส่งของไม่ได้ยังกระทบไปถึงร้านขายของด้วย ที่ต้องเจอกับความยุ่งยากหากได้เจ้าที่มีปัญหา รวมทั้งยังเจอปัญหาเพิ่มที่ต้องมาคอยตามของให้ลูกค้า เป็นต้น
ทั้งนี้ ต้องติดตามต่อไปว่า Shopee จะจัดการกับข้อร้องเรียนจำนวนมากแบบนี้อย่างไร จะยังยืนยันในระบบของตัวเอง หรือจะปรับปรุงเพื่อเรียกความมั่นใจของลูกค้ากลับมาอีกครั้ง