ฉาววงการตำรวจ ตรวจสอบพบเจ้าหน้าที่ 189 นาย - ชั้นนายพล 5 นาย เอี่ยวอมเบี้ยเลี้ยงโควิด 19 เตรียมพิจารณาโทษทางวินัย สูงสุดอาจถึงขั้นไล่ออก
ภาพจาก ไบรท์ทีวี
วันที่ 12 มกราคม 2564 เดลินิวส์ออนไลน์ พล.ต.อ. วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.) เป็นประธานประชุมติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบเบี้ยเลี้ยงโควิด-19 ครั้งที่ 4 ณ ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.)
โดย พล.ต.อ. วิสนุ กล่าวว่า วันนี้เป็นการพูดคุยเพื่อสรุปตัวเลขผู้ที่กระทำความผิด, ตัวเลขผู้ที่ถูกลงโทษไปแล้ว และผู้ที่อยู่ในกระบวนการสอบสวนทางวินัย หากหาพยานหลักฐานมาหักล้างได้ก็ไม่เป็นไร หากหามาไม่ได้ก็จะมีการพิจารณาโทษตามแต่มูลเจตนาของผู้กระทำผิด ตั้งแต่ว่ากล่าวตักเตือน การภาคฑัณฑ์ การกักยาม การกักขัง การตัดเงินเดือน หากมีคดีอาญาด้วยก็ส่งให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พิจารณา ก่อนจะเข้าสู่การลงโทษ ปลดออก ไล่ออก และดำเนินคดีทางอาญาต่อไป
ขณะที่ สำนักข่าว INN รายงานเพิ่มเติมว่า จากการตรวจสอบพบว่าทุกบัญชีมีตำรวจเข้าสู่กระบวนการทางวินัยประมาณ 189 นาย จากพื้นที่นครบาล
และ ภ.จว. รวม 23 จังหวัด มีตั้งแต่ระดับ พล.ต.ต. หรือผู้บังคับการ 5 นาย
และ พ.ต.อ. 48 นาย นอกนั้นเป็นระดับรอง ผกก., สว., รอง สว. และ ผบ.หมู่ รวม
136 นาย ทั้งนี้ จะสรุปผลการประชุมอย่างเป็นทางการให้ทราบต่อไป
ขอบคุณข้อมูลจาก เดลินิวส์ออนไลน์, สำนักข่าว INN
ภาพจาก ไบรท์ทีวี
วันที่ 12 มกราคม 2564 เดลินิวส์ออนไลน์ พล.ต.อ. วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.) เป็นประธานประชุมติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบเบี้ยเลี้ยงโควิด-19 ครั้งที่ 4 ณ ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.)
โดย พล.ต.อ. วิสนุ กล่าวว่า วันนี้เป็นการพูดคุยเพื่อสรุปตัวเลขผู้ที่กระทำความผิด, ตัวเลขผู้ที่ถูกลงโทษไปแล้ว และผู้ที่อยู่ในกระบวนการสอบสวนทางวินัย หากหาพยานหลักฐานมาหักล้างได้ก็ไม่เป็นไร หากหามาไม่ได้ก็จะมีการพิจารณาโทษตามแต่มูลเจตนาของผู้กระทำผิด ตั้งแต่ว่ากล่าวตักเตือน การภาคฑัณฑ์ การกักยาม การกักขัง การตัดเงินเดือน หากมีคดีอาญาด้วยก็ส่งให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พิจารณา ก่อนจะเข้าสู่การลงโทษ ปลดออก ไล่ออก และดำเนินคดีทางอาญาต่อไป
ขอบคุณข้อมูลจาก เดลินิวส์ออนไลน์, สำนักข่าว INN