เปิดใจญาติหนุ่มคลั่ง หลังก่อเหตุฆ่าแม่ตัวเองจนตาย ก่อนถูกตำรวจวิสามัญ จนแฮชแท็ก #ฆ่าแม่ตัวเองที่บางพรม 54 ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ โวยแจ้งตำรวจหลายรอบแต่ไม่มาจับ อ้างนู่นนี่ จนเกิดเหตุสลด
![ญาติเดือด ตร.]( "ญาติเดือด ตร.")
รายการโหนกระแส วันที่ 21 มกราคม 2564 โดยมี "หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย" ในฐานะผู้ดำเนินรายการ ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 เปิดใจสัมภาษณ์ "คุณนา และคุณอ้น" ญาติของนายโอ๊ต ผู้ก่อเหตุ มาพร้อมกับ "อาต่าย" อาแท้ ๆ
![ญาติเดือด ตร.]( "ญาติเดือด ตร.")
คุณอ้น-พี่นา มีศักดิ์เป็นอะไรกับโอ๊ต ?
นา : เป็นลูกพี่ลูกน้อง
อาต่าย : ส่วนอาเป็นอาแท้ ๆ
เรื่องเกิดอะไรขึ้น โอ๊ตมีอาการทางสภาวะจิตมานานหรือยัง ?
นา : นิสัยเขาเป็นคนหัวรุนแรง เป็นมานานแล้ว เป็นก่อนข่าวที่บอกว่าผ่าตัดสมองค่ะ เขาผ่าสมองเพราะเขากินเหล้าเมา ทะเลาะกับแฟน เขาจงใจขับรถชนต้นไม้
โอ๊ตอายุเท่าไหร่ ?
นา : น่าจะ 35 ปี แม่เขาอายุไม่เกิน 62 ประมาณนั้น
คุณอี๊ด แม่คุณโอ๊ต มีลูกกี่คน ?
นา : 3 คนค่ะ โอ๊ตเป็นลูกคนสุดท้อง
![ญาติเดือด ตร.]( "ญาติเดือด ตร.")
นา : เขาอารมณ์ร้าย ชอบหาเรื่องคนอื่นทุกครั้งที่เขาเมา พักหลังเขากินยาดองบ้าง เหล้าขาวบ้าง กินแล้วเขาจะอาละวาด ไม่สนว่าใครจะเป็นญาติ เป็นพี่ เป็นน้า เป็นอาก็ไม่สนใจ
ที่ที่เราอยู่เป็นอะไร ?
นา : เป็นที่ส่วนบุคคลของปู่ ทรัพย์สินปู่-ย่า มีกัน 3 หลัง เราก็เป็นหนึ่งในนั้น เป็นหนึ่งในเครือญาติ
มีประวัติเสพยาไหม ?
นา : ประวัติเขาเคยเสพนะคะ แต่ตอนไปตรวจไม่รู้เจอหรือไม่เจอ แต่เขาเคยเสพยา เป็นมานานมากตั้งแต่ 16-17 อายุ 18 เขาก็เป็นแล้ว อารมณ์แบบนี้
พออารมณ์รุนแรงก็ทำร้ายแม่ ?
นา : ใช่ ทำร้ายแม่เขา พ่อไม่อยู่กับเขาตั้งแต่เล็ก ๆ เขามีปัญหาในครอบครัว ซึ่งเราก็ไม่รู้เรื่อง ตั้งแต่เกิดก็ไม่ได้อยู่กับพ่อ เขาอยู่กับแม่
เห็นบอกว่าเคยจะให้แม่ไปอยู่ที่อื่น แต่แม่ไม่ยอมไป ?
นา : อาอี๊ดเขารักโอ๊ตมาก รักมากเกินไป รักในทางที่ผิด ลูกจะทำผิดอะไรยังไงก็จะเข้าข้างลูกอย่างเดียว อะไรลูกก็ไม่ผิดอย่างเดียว จนมันไม่ไหว จนกลายเป็นว่าโอ๊ตตีแม่ คนแถวนั้นก็มองเป็นเรื่องปกติแล้ว เขาชินกันหมดแล้ว มันเดินออกมา แม่ไม่หาข้าวให้มันกิน มันก็เดินออกมาถามว่าอีอี๊ดอยู่ไหน ใครเห็นอีอี๊ดบ้าง ถือมีดออกมาหน้าปากซอย กูยังไม่ได้กินข้าวเลย นี่คือบุคลิกของเขา
ที่เขาทำแบบนี้อาจเป็นเพราะกระทบกระเทือนทางสมองหรือเปล่า ?
นา : ก่อนหน้านั้นก็เป็น เป็นอยู่แล้ว ไม่ได้ผ่าตัดสมองแล้วเป็น อันนี้ไม่ต้องฟังหนูฝ่ายเดียวนะ แต่ไปสืบพยานแวดล้อมได้ เขาเจอเหมือนกันหมด พูดเหมือนกันหมด เขาเป็นมานานแล้ว แม้กระทั่งแม่นั่งเก็บตังค์หน้าห้องน้ำ ทำงานในตลาดนัด ยังไปตามด่า ตามตีแม่เขาเลย พี่ชายเขาก็โดนไล่แทงจนไม่สามารถอยู่บ้านได้ ไม่มีใครอยู่กับเขาได้
ทำไมถึงไม่มีการพาไปหาหมอ ?
นา : ตรงนี้หนูก็ไม่เข้าใจพี่ชายเขา 2 คน เพราะพวกหนูเข้าใกล้เขาไม่ได้อยู่แล้ว อารมณ์แบบนี้ใครจะกล้าเข้าใกล้
เคยพูดกันดี ๆ ไหม โอ๊ตไปหาหมอนะ ?
นา : เคยพูดแล้วค่ะ แต่เขาบอกว่ากูไม่ได้บ้า ทุกคนเคยคุยกับเขาหมด เวลาเขาดี ๆ เราก็เข้าไปคุย
![ญาติเดือด ตร.]( "ญาติเดือด ตร.")
อ้น : ผมคุยกับแม่เขาก่อนว่าให้พาไปหาหมอ เขาบอกได้ เดี๋ยวพาลูกไปหาหมอ แต่อย่าทำอะไรลูกเขา เวลาตำรวจมาก็หน้ามือเป็นหลังมือ เขาปกป้องลูก เข้าใกล้ลูกไม่ได้ เขารักลูกก็เข้าใจ
กรณีที่เกิดขึ้น ชาวบ้าน ญาติพี่น้อง รู้กันหมด แจ้งความบ่อยขนาดไหน ?
นา : บ่อยพี่ ช่วงที่มีม็อบใหญ่ ตำรวจไปม็อบหมด หนูไปช่วงหัวค่ำ ตำรวจมีอยู่ 2-3 คน หนูบอกว่าหนูแจ้งความ ไม่มีตำรวจไป หนูเลยต้องมาเอง เขาบอกจะให้ทำยังไง ตำรวจมีคนเดียว หนูก็บอกว่าแล้วจะให้หนูทำยังไง แม่หนูจะโดนแทงตาย จะให้ทำไง มีสายตรวจขับรถไปแค่คนเดียว แล้วก็พูดว่าผมช่วยอะไรไม่ได้นะ ผมมีคนเดียว ผมก็ไม่กล้าเหมือนกัน หนูก็ต้องกลับมาโรงพักเพื่อรอกำลังเสริม รอให้ตำรวจที่ไปม็อบมา แล้วไปกับหนู มีสายสืบไปกับหนูประมาณ 3 คน แต่ก่อนหน้ามาอาละวาดบ้านหนู มันไปงัดแงะห้องอื่นด้วย และไปเข้าบ้านคนรู้จักอีกฝั่ง ไปงัดบ้านเขาจะเข้าหาลูกสาวเขา พอดีพี่เขาออกมาเจอ เลยถามว่ามึงเข้ามาทำไม
สิ่งที่พูดถึง จะเชื่อมโยงเหตุที่ติดข้องหมองใจญาติ ๆ ว่าเหตุที่เกิดขึ้น พฤติกรรมที่พูดอยู่ทั้งหมดเป็นพฤติกรรมอันตราย แจ้งความกี่ทีแล้ว ทำไมตำรวจไม่เอาตัวไปตั้งแต่แรก ?
นา : ใช่ แล้วพี่เขาเจอ ถามว่ามึงเข้ามาทำไม ตอนนั้นเขาจะยิงเนอะ เพราะบุกบ้านเขา แม่เขาก็วิ่งตามไป บอกว่าลูกสติไม่ดี ขอโทษ แล้วทีนี้เขาพากันมาแจ้งความ ตำรวจสายสืบก็ไปหามันที่บ้าน โดนมันวิ่งไล่ฟัน ตกน้ำตกท่า หนูก็ถามว่า พี่ นี่ไม่ใช่เหตุซึ่งหน้าเหรอ ทำไมไม่จับ เขาบอกว่าต้องรอออกหมายจับก่อน ต้องไปแจ้งความอย่างโน้นอย่างนี้ หลายครั้งแล้ว
นี่ครั้งแรกที่ไปแจ้ง ?
นา : 2 พฤศจิกายน ปี 2563 แล้ววันที่ 16 แจ้งเช้า เย็น ตำรวจไปแต่ไม่จับ ไม่มีหน้าที่จับ หนูก็ถามว่าแล้วมาทำเหี้..อะไร ทำไมไม่จับ หนูถามตรง ๆ เลย ต้องรอให้ทุกคนตายก่อนใช่ไหม ตำรวจถึงจะจับ ตำรวจบอกว่าคุณอย่ามาพูดกับตำรวจอย่างโน้นอย่างนี้ พอไปแจ้งความแม่.. เดินขึ้นเดินลง จนบ่าย 3 ถึงจะทำคดีให้ ถึงจะรับแจ้งความ
![ญาติเดือด ตร.]( "ญาติเดือด ตร.")
ภาพจาก รายการโหนกระแส
สน. ไหน ?
นา : สน.บางเสาธง แถวภาษีเจริญ หลังจากนั้นเขาพูดว่าทีหลังมึงรุมกระทืบมันเลย แล้วอุ้มมาส่งตำรวจ หนูถามว่าทำไมหนูต้องไปกระทืบเขา หนูเป็นพี่ เป็นป้า เป็นน้า เป็นอา กระทืบมันมีความผิดนะพี่ ให้ประชาชนไปกระทืบผู้ต้องหา จับส่งตำรวจมันใช่เรื่องหนูเปล่า ไม่ใช่เรื่องนะพี่ ให้มันมาฟันแทงหนูเหรอ ตำรวจกินภาษีประชาชน ทำไมไม่ไปรับมีดแทนหนูล่ะ
เจ็บปวดมากนะเนี่ย ที่พีคสุดคือ ?
นา : แม่หนูอยู่บนบ้าน มันถือมีดไปบอกว่ามึงแน่จริงลงมา ตำรวจมันพูดว่าคุณไปเอาเจ้าทุกข์มา คุณไม่ใช่เจ้าทุกข์ผมไม่รับแจ้ง ฉิบหาย มันจะแทงแม่กู หนูเลยถามว่าแม่จะออกมายังไง ทำไมตำรวจไม่ออกไป สรุปอาต้องเข้าไปแทน เอาตัวแม่ออกมา
อายังไง ?
ต่าย : วันนั้นหลานสาวโทร. ไปเอาตัวแม่ของหลานออกมาได้ และเอามีดมา 2 เล่ม เป็นหลักฐาน ตำรวจเลยเอามีดไปด้วย แล้วไปโรงพัก จนพี่สะใภ้ไปนั่งรอนานมาก ไปตั้งแต่เช้า จนบ่าย 3 ตำรวจบอกว่ายังทำอะไรไม่ได้ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน
นา : หนูไปโวยวายค่ะ หนูไม่ได้ด่าเหี้.. สั_ว์ อะไรนะพี่ หนูไปแจ้งตามที่หนูพูด ไปแจ้งห้องสืบ ห้องสืบบอกมึงขึ้นไปแจ้งข้างบนเลย กูจะจัดงานวันเด็ก เกี่ยวกันไหม พอไปแจ้งข้างบน บอกไปห้องสืบเลย เป็นหน้าที่ของสืบ หนูเลยถามว่าสรุปจะให้แจ้งกับใคร เขาบอกแจ้งกับผมนี่ แล้วพอแจ้งก็บอกว่าคุณไม่ใช่เจ้าทุกข์ สน.บางเสาธง
ก่อนโอ๊ตสังหารแม่ตัวเอง มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น ?
นา : มันก็เหมือนเดิม จะเอามีดมาฟันคนอื่นเหมือนเดิม เอามีดจะมาฟันคนที่บ้าน
![ญาติเดือด ตร.]( "ญาติเดือด ตร.")
ภาพจาก รายการโหนกระแส
เขาเสพไหม ?
นา : หนูพูดไม่ได้ว่าเสพหรือไม่เสพ เพราะมีผลกับหนู แต่เขาบ้าแน่ แต่ไม่มีใบบ้า เพราะพี่น้องไม่ได้เอาไปรักษา พอเกิดเรื่องเป็นพี่ชายแสนดีมาก ไม่เข้ามาดูดำดูดี คนเป็นลูกทำได้เหรอ ให้แม่นอนอยู่กลางถนน ให้น้องไล่ฟันแม่ ด่าแม่ ตีแม่ทุกวัน
แต่ตอนนี้พี่ชายบอกคุณไปกดดันมาก ทำให้น้องเขาทำแบบนี้ ?
นา : คนที่กดดันคือน้องเขา กดดันเราทำให้เราต้องย้ายบ้านหนี นี่คือเรากดดัน
เขาบอกเขาตัดขาดคุณ ?
นา : เราก็ตัดขาดเขาพี่ เพราะเราพยายามช่วยแม่เขา คนรอบข้างพยายามช่วยแม่เขา ตัวเขาอยู่ไหน หนูโทร. ไปหาคนแรก พี่ชายคนโตจะเอาไง โอ๊ตอาละวาดอีกแล้ว ป้าอี๊ดให้โทร. ให้ ป้าอี๊ดนั่งอยู่ ให้ช่วยกันจับไอ้โอ๊ตไปส่งโรงพยาบาล
เขาพูดว่าไง ?
นา : มึงไม่ต้องมายุ่งกับกู ลูกรักเขาก็ให้เขาจัดการกันเอาเอง ให้ตำรวจจับมันไปเลย นี่คือคำพูดพี่ชายคนโต โทร. ไปหาคนน้อง บอกว่าลำพังตัวกูยังเอาไม่รอดเลย กูมันก็ไล่แทง แล้วแต่เวรแต่กรรม กูเคยพามาอยู่ด้วยแต่หนีไปหามัน
พอเกิดเรื่อง ?
นา : กลายเป็น โอ้โห คนโน้นคนนี้กดดัน
ทำให้โอ๊ตฆ่าแม่ ?
นา : ใช่ ก็ถ้าลูกเขาไม่ตีแม่ เราจะแจ้งความไหมล่ะพี่ คนบ้าอะไรจะไปแจ้งความจับคนดี
สรุปพี่โอ๊ตบอกว่าพวกคุณไปแจ้งความจับน้องเขา โอ๊ตเลยกดดัน ก่อเหตุ แต่คุณมองว่าพี่ต้องมาดูแลน้อง ดูแลแม่ตัวเอง และตำรวจต้องจับโอ๊ตออกไปบำบัด ?
นา : ใช่
แล้วก่อนเกิดเหตุยังไง ?
นา : เขาอาละวาดอีก ก็แจ้งตำรวจ ตำรวจมา 2 นาย สายตรวจที่บางเสาธง ไปจอดรถอยู่ร้านกาแฟ หนูถามว่าไม่เข้าไปคุยกับผู้ต้องหาเหรอ ไม่ไกล่เกลี่ยมันออกมาเหรอ ทำไงเขาก็ไม่เข้า เขาบอกว่าเขามาแค่ 2 คน ไม่มีกำลังมา
ต้องกี่คนถึงเป็นกำลัง ?
นา : ไม่ทราบเหมือนกัน ไม่เข้าไปจับ จนเพื่อน ๆ มากันหลายคน เพราะต้องทำอะไรสักอย่าง กฎหมายไม่ได้ก็ต้องกฎหมู่ เอามันออกไปรักษาให้ได้ แฟนหนูออกไปคุยกับยายอี๊ด บอกว่าอย่าไปทำอะไรมันนะ เราก็บอกว่าไปช่วยกันจับมันออกมาเพื่อพาไปรักษา พอตำรวจมา กำลังจะเข้าไปจับ แม่เขาหน้ามือเป็นหลังมือ มึงพากันมาทำไม มึงจะมาตีลูกกูเหรอ โอ๊ยอะไร เราบอกว่าจะต้องพาไปรักษานะ ไม่งั้นมันก็ตียายอี๊ดอยู่อย่างนี้
เขาตีหนักไหม ?
นา : ลากออกมา เอาหัวโขกกำแพง ทั้งตี ทั้งกระทืบ หลายอย่าง จนยายอี๊ดไปตัดพ้อชีวิตกับคนรอบข้างว่าเขาเบื่อลูก เขาไม่ไหวแล้ว
แล้วตำรวจทำไง ?
นา : ตำรวจไม่ทำยังไง เขาก็บุกไปจะจับโอ๊ต ตำรวจตามเข้าไปยืนแอบอยู่หลังกำแพง ให้พวกนี้เข้าไปจับผู้ต้องหา พอล็อกออกมาได้ ยื่นกุญแจมือให้น้องเขย จะให้ล็อกไอ้โอ๊ต หนูบอกว่ามึงห้ามไปล็อกเขาเด็ดขาด มึงเป็นประชาชน ไม่ใช่ตำรวจ ถ้าเขาหัวหมอ พี่น้องเขาบอกว่าไปจับกักขังหน่วงเหนี่ยวเขาได้ยังไง มึงมีความผิดนะ ตำรวจต้องล็อกเอง
แล้วพอเราพามันออกมาริมถนนได้ ก็คุยกันว่าให้เอาขึ้นรถเลย เอาไปสงบสติอารมณ์ก่อน เกี่ยงกัน บอกว่ารอแป๊บหนึ่ง สายสืบกำลังจะมา 2 คน รถสายสืบมา ไอ้โอ๊ตมึงว่าไง อ้าวพี่ หวัดดีครับ เป็นไงพี่ ผมจับมันไม่ได้ ไม่ใช่เหตุซึ่งหน้า ไม่ได้มาฟันต่อหน้าผม แล้วจะให้ทำยังไง สักพักพี่ชายคนโตโผล่มาจากไหนไม่รู้ น่าจะแม่เขาโทร. ไปตาม มาถึงก็พูดตรง ๆ ด่าคำหยาบ ไปจอดมอเตอร์ไซค์ไว้ฝั่งตรงข้าม โอ๊ตก็กระโดดขึ้นรถพี่ไปเลย ตำรวจก็ปล่อยให้ไปซะอย่างนั้น แล้วบอกว่าให้คนใดคนหนึ่งพาเขาไปโรงพักที ถามหน่อยมันจะไปไหม หนูก็เลยขับรถตามไป เอาไปทิ้งไว้ร้านลาบ หนูไปจอดดูอยู่ห่าง ๆ พี่มันเอาไปทิ้งไว้กับเพื่อนมัน แล้วขับรถไปไหนก็ไม่รู้ น้องมันนั่งอยู่วินสามแยกวัดแก้ว หนูโทร. ไปหาอีก สน. ว่าผู้ต้องหาอยู่นี่
เหนื่อยไหม ?
นา : ไม่เหนื่อย หนูบอกว่าผู้ต้องหาอยู่สามแยกวัดแก้ว มาจับสิ เขาบอกว่าไม่มีหมายจับ ไม่สามารถจับได้ หนูบอกว่าจะทำยังไง ต้องรอให้คนตายหรือไง แล้วแม่หนูจะเข้าบ้านยังไง จะนอนยังไง คืนนั้นเลยเป็นคืนที่เอาแม่ออกจากบ้านไปอยู่บ้านหนูอีกที่ ถ้าแม่หนูไม่ออกไป แม่หนูจะกลายเป็นศพ ไม่ใช่แม่เขา
สุดท้ายวันรุ่งขึ้น ?
นา : โอ๊ตฆ่าแม่ ฆ่าตั้งแต่กลางคืน
เหตุการณ์เป็นยังไง ?
นา : มีคนบอกว่ามันไปนั่งกินเหล้าข้างวัดใหม่ติดกับบ้านเขา แล้วแม่ไปตามกินข้าว แล้วคงโมโห มีอารมณ์หงุดหงิด หลังจากนั้นมันเข้าบ้านไป เราไม่รู้ว่ามันฆ่าแม่มันยังไง เช้ามาประมาณ 6 โมงกว่า อาโทร. ไปว่าให้แจ้งตำรวจ ไอ้โอ๊ตคลั่งอีกแล้ว ไม่ไหวแล้ว มีคนมา 4 คน ผมจับไม่ได้ ยังไงก็จับไม่ได้ เราใจไม่ดีกลัวเป็นพ่อ เพราะพ่อหายไป ตำรวจเข้าไป 2 คน ไปคุยกับมัน มันนั่งลับมีดอยู่ ถามว่าจะทำอะไร มันบอกกำลังจะดายหญ้า แต่หารู้ไม่มันฆ่าแม่มันแล้ว แม่อยู่ในบ้าน ตำรวจออกมาบอกว่ามันไม่ได้บ้า มันแกล้งบ้า มันคุยกับผมรู้เรื่อง คนบ้าจะคุยไม่รู้เรื่อง
หนูบอกว่าถ้าไม่บ้าทำไมไม่จับเขา บอกจับไม่ได้ แล้วขับรถออกไปเลย ไม่เกิน 5 นาที ไฟไหม้ โอ๊ตเผาบ้าน และมีคนไปแอบดูว่ามีคนตาย ตอนนั้นใจเสียคิดว่าเป็นพ่อ เพราะใครจะไปคิดว่ามันจะฆ่าแม่ อาบอกว่ามันฆ่าแม่ ฟันไม่ยั้งเลย แล้ววิ่งเข้าไปเจอมันกำลังหั่นศพ
ยังไง ?
อ้น : ผมเข้าไป ลูกสาวโทร. มาบอกว่าพ่อตาหายไป คิดว่าพ่อตาตาย ตอนนั้นมือไม้สั่น เห็นว่าเอามีดแทงแล้วเฉือน งัด ๆ ให้กรามหลุด เฉือนปาก เฉือนลิ้น มันเป็นประตูรั้ว ผมอยู่ตรงรั้ว ผมเรียกเขาโอ๊ต ๆ 3-4 คำ เขาลากแม่ เฉือนแม่ ตัดลิ้นแม่ เห็นเลย แล้วหั่นมือที่มีรอยแผล ผมก็ทนดูไม่ได้ เดินออกไป
ตำรวจมาตอนไหน ?
อ้น : ตอนผมเดินออกไปตำรวจก็มา
นา : หลังจากนั้นพวกดับเพลิงเอาน้ำฉีดไล่ มันก็หนีไปข้างหลัง ไปเจอตำรวจ หลังจากนั้นก็ตามภาพ มีการวิสามัญเกิดขึ้น
เพราะโอ๊ตวิ่งไปจะแทงตำรวจ ในมือถือลิ้นแม่ และกรอบรูปของแม่ ?
นา : ใช่ ตำรวจยิงขู่ให้มอบตัว เขาก็เหมือนจะมอบ แต่เขาคว้ามีดขึ้นมาอีก ฝั่งตรงข้ามมีพระอยู่รูปหนึ่งบอกให้มันมอบตัว
![ญาติเดือด ตร.]( "ญาติเดือด ตร.")
ภาพจาก รายการโหนกระแส
ประเด็นคุณที่ข้องใจมาก กลายเป็นว่าเราไปกดดัน หนึ่ง สอง ถ้าเกิดตำรวจระงับเหตุตั้งแต่คืนแรก ก่อนโอ๊ตสังหาร ทุกอย่างมันจบ ?
นา : ขอพูดถึงพี่โอ๊ต มันเป็นตราบาปของเขานะ ถ้าเขาไม่พาน้องหนีในวันนั้น แม่เขาก็ไม่ตายในวันนี้ ถ้าตำรวจไม่เอาไป หนูต้องล็อกมันไปอยู่แล้ว แต่เขาเลือกให้น้องขึ้นรถมอเตอร์ไซค์ไป หนูถามว่าทำไมในสื่อไม่พูดว่าตำรวจมาแล้ว เขาไม่เคยพูดเลยว่าเขาพาน้องออกไป กลับไปให้ข่าวน่าสงสารมาก คือถามว่ายามแม่มีชีวิต ทำไมมึงไม่ดูแล น้องมึงตีแม่ขนาดนี้ มึงยอมเหรอ มึงไปกินสุขสบาย แต่ให้แม่นอนข้างถนน รอวันจะตายวันไหน
ไม่กลัวเขาฟ้องเหรอ ?
นา : ฟ้องหนูเรื่องอะไร หนูพูดเรื่องจริง ไม่กลัว หนูเชื่อว่าหนูมีพยานแวดล้อมเยอะ เขาเห็นกันเยอะ หนูสงสารยายอี๊ด
ประเด็นที่สอง พอคุณพูดออกมาในข่าว เรื่องนี้ติดเทรนด์ทวิตเตอร์อันดับหนึ่ง ฆ่าแม่ตัวเองบางพรม 54 รีทวีตไป 3 แสนกว่าครั้ง ที่สำคัญหลังติดเทรนด์ปุ๊บ ตำรวจมาขอให้คุณเปลี่ยนคำพูด เพราะอะไร ?
นา : หนูก็ไม่ทราบ ตำรวจบางเสาธง ครั้งแรกเพื่อนบอกว่ามึงออกมาฟังหน่อย มีคนเขาฝากอะไรมาบอก หนูออกมาเขาฝากบอกว่าเขาขอโทษ อย่าไปให้ข่าวสื่อไหน แค่นี้โรงพักก็สั่นสะเทือนแล้ว แล้วเมื่อวานก็มาอีก แต่หนูไม่อยู่ เขาบอกว่าให้พูดทำนองว่าเรากำลังโกรธเลยพูดไปแบบนั้น
ตอนนี้คุณห่วงความปลอดภัย ?
นา : ใช่ หนูบอกเลยว่าหนูไม่ได้มาเอาเรื่องตำรวจ หนูอยากให้คดีนี้เป็นอุทาหรณ์ว่าตำรวจควรมีวิจารณญาณในการทำคดี หรือมีเซ้นส์สักนิดว่าประชาชนแจ้งหลายครั้ง แสดงว่าไอ้นี่แม่.. จริง ๆ มันโหดร้ายจริง ๆ ไม่จำเป็นต้องหนูแจ้ง ฟังแวดล้อมก็ได้ แค่มันตีแม่ทุกวันก็น่าจะจับไปได้แล้ว
ณ เวลานี้ ผบ.ตร. ลงพื้นที่บางเสาธงแล้ว แต่ครอบครัวโอ๊ตตัดขาดคุณแล้ว ?
นา : ก็มีพี่ชาย 2 คน แทนที่เขาจะขอบคุณเรา เราคอยปกป้องแม่เขา คอยแจ้งตำรวจว่ามันตีแม่ เราโทร. หา ให้มาจัดการน้อง สังคมถามคุณกลับเหรอว่ารู้ว่าน้องทำกับแม่อย่างนี้ทำไมไม่จัดการ แต่หนูไม่กลัวเขานะ หนูไม่ได้อยู่ในเขตพื้นที่เขานะ หนูอยู่เขตตลิ่งชัน ตำรวจตลิ่งชันบอกว่าจับได้ทำไมไม่จับ แล้วอย่าลืมถามเขานะ ตอนที่พี่ชายพาน้องหนี พี่ชายมีความผิดไหม หนูอยากรู้ตรงนี้ หนูแช่งเลย ตราบาปติดตัว ถ้ามึงไม่พามันหนี แม่มึงไม่ตาย น้องมึงไม่โดนวิสามัญ เพราะใจญาติพี่น้องต้องการเอาไปรักษา เราไม่ได้ต้องการให้โอ๊ตตาย
ฝากบอกพี่ชายเขา 2 คน กรุณาอย่าสร้างภาพว่าเป็นลูกที่ดี เพราะคนเราเป็นลูกที่ดีได้ แค่น้องด่าแม่ก็ไม่สมควรเก็บไว้แล้ว สมควรดูแลจิตใจแม่ ไม่ควรให้แม่มานอนข้างถนน เดินเก็บขยะขายไปวัน ๆ
ขอบคุณข้อมูลจาก รายการโหนกระแส
ภาพจาก รายการโหนกระแส
จากกรณีเกิดเหตุสลด ลูกชายฆ่าแม่ตัวเองที่บางพรม เนื่องจากลูกมีสภาวะทางจิตและติดยาเสพติด จนคนในครอบครัวทนไม่ไหวกับพฤติกรรม เมาอาละวาด ระราน จะแทงชาวบ้าน จึงแจ้งตำรวจให้มาจับหลายครั้ง แต่ตำรวจไม่ยอมจับ จนสุดท้ายก่อเหตุฆาตกรรมแม่ตัวเอง ก่อนจะถูกตำรวจวิสามัญ ซึ่งเรื่องดังกล่าวถูกพูดถึงในโลกออนไลน์ จนแฮชแท็ก #ฆ่าแม่ตัวเองที่บางพรม 54 ขึ้นอันดับหนึ่งบนทวิตเตอร์รายการโหนกระแส วันที่ 21 มกราคม 2564 โดยมี "หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย" ในฐานะผู้ดำเนินรายการ ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 เปิดใจสัมภาษณ์ "คุณนา และคุณอ้น" ญาติของนายโอ๊ต ผู้ก่อเหตุ มาพร้อมกับ "อาต่าย" อาแท้ ๆ
ภาพจาก รายการโหนกระแส
คุณอ้น-พี่นา มีศักดิ์เป็นอะไรกับโอ๊ต ?
นา : เป็นลูกพี่ลูกน้อง
อาต่าย : ส่วนอาเป็นอาแท้ ๆ
เรื่องเกิดอะไรขึ้น โอ๊ตมีอาการทางสภาวะจิตมานานหรือยัง ?
นา : นิสัยเขาเป็นคนหัวรุนแรง เป็นมานานแล้ว เป็นก่อนข่าวที่บอกว่าผ่าตัดสมองค่ะ เขาผ่าสมองเพราะเขากินเหล้าเมา ทะเลาะกับแฟน เขาจงใจขับรถชนต้นไม้
โอ๊ตอายุเท่าไหร่ ?
นา : น่าจะ 35 ปี แม่เขาอายุไม่เกิน 62 ประมาณนั้น
คุณอี๊ด แม่คุณโอ๊ต มีลูกกี่คน ?
นา : 3 คนค่ะ โอ๊ตเป็นลูกคนสุดท้อง
ภาพจาก รายการโหนกระแส
แล้วยังไงต่อ ?นา : เขาอารมณ์ร้าย ชอบหาเรื่องคนอื่นทุกครั้งที่เขาเมา พักหลังเขากินยาดองบ้าง เหล้าขาวบ้าง กินแล้วเขาจะอาละวาด ไม่สนว่าใครจะเป็นญาติ เป็นพี่ เป็นน้า เป็นอาก็ไม่สนใจ
ที่ที่เราอยู่เป็นอะไร ?
นา : เป็นที่ส่วนบุคคลของปู่ ทรัพย์สินปู่-ย่า มีกัน 3 หลัง เราก็เป็นหนึ่งในนั้น เป็นหนึ่งในเครือญาติ
มีประวัติเสพยาไหม ?
นา : ประวัติเขาเคยเสพนะคะ แต่ตอนไปตรวจไม่รู้เจอหรือไม่เจอ แต่เขาเคยเสพยา เป็นมานานมากตั้งแต่ 16-17 อายุ 18 เขาก็เป็นแล้ว อารมณ์แบบนี้
พออารมณ์รุนแรงก็ทำร้ายแม่ ?
นา : ใช่ ทำร้ายแม่เขา พ่อไม่อยู่กับเขาตั้งแต่เล็ก ๆ เขามีปัญหาในครอบครัว ซึ่งเราก็ไม่รู้เรื่อง ตั้งแต่เกิดก็ไม่ได้อยู่กับพ่อ เขาอยู่กับแม่
เห็นบอกว่าเคยจะให้แม่ไปอยู่ที่อื่น แต่แม่ไม่ยอมไป ?
นา : อาอี๊ดเขารักโอ๊ตมาก รักมากเกินไป รักในทางที่ผิด ลูกจะทำผิดอะไรยังไงก็จะเข้าข้างลูกอย่างเดียว อะไรลูกก็ไม่ผิดอย่างเดียว จนมันไม่ไหว จนกลายเป็นว่าโอ๊ตตีแม่ คนแถวนั้นก็มองเป็นเรื่องปกติแล้ว เขาชินกันหมดแล้ว มันเดินออกมา แม่ไม่หาข้าวให้มันกิน มันก็เดินออกมาถามว่าอีอี๊ดอยู่ไหน ใครเห็นอีอี๊ดบ้าง ถือมีดออกมาหน้าปากซอย กูยังไม่ได้กินข้าวเลย นี่คือบุคลิกของเขา
ที่เขาทำแบบนี้อาจเป็นเพราะกระทบกระเทือนทางสมองหรือเปล่า ?
นา : ก่อนหน้านั้นก็เป็น เป็นอยู่แล้ว ไม่ได้ผ่าตัดสมองแล้วเป็น อันนี้ไม่ต้องฟังหนูฝ่ายเดียวนะ แต่ไปสืบพยานแวดล้อมได้ เขาเจอเหมือนกันหมด พูดเหมือนกันหมด เขาเป็นมานานแล้ว แม้กระทั่งแม่นั่งเก็บตังค์หน้าห้องน้ำ ทำงานในตลาดนัด ยังไปตามด่า ตามตีแม่เขาเลย พี่ชายเขาก็โดนไล่แทงจนไม่สามารถอยู่บ้านได้ ไม่มีใครอยู่กับเขาได้
ทำไมถึงไม่มีการพาไปหาหมอ ?
นา : ตรงนี้หนูก็ไม่เข้าใจพี่ชายเขา 2 คน เพราะพวกหนูเข้าใกล้เขาไม่ได้อยู่แล้ว อารมณ์แบบนี้ใครจะกล้าเข้าใกล้
เคยพูดกันดี ๆ ไหม โอ๊ตไปหาหมอนะ ?
นา : เคยพูดแล้วค่ะ แต่เขาบอกว่ากูไม่ได้บ้า ทุกคนเคยคุยกับเขาหมด เวลาเขาดี ๆ เราก็เข้าไปคุย
ภาพจาก รายการโหนกระแส
พี่อ้นคุยไหม ?อ้น : ผมคุยกับแม่เขาก่อนว่าให้พาไปหาหมอ เขาบอกได้ เดี๋ยวพาลูกไปหาหมอ แต่อย่าทำอะไรลูกเขา เวลาตำรวจมาก็หน้ามือเป็นหลังมือ เขาปกป้องลูก เข้าใกล้ลูกไม่ได้ เขารักลูกก็เข้าใจ
กรณีที่เกิดขึ้น ชาวบ้าน ญาติพี่น้อง รู้กันหมด แจ้งความบ่อยขนาดไหน ?
นา : บ่อยพี่ ช่วงที่มีม็อบใหญ่ ตำรวจไปม็อบหมด หนูไปช่วงหัวค่ำ ตำรวจมีอยู่ 2-3 คน หนูบอกว่าหนูแจ้งความ ไม่มีตำรวจไป หนูเลยต้องมาเอง เขาบอกจะให้ทำยังไง ตำรวจมีคนเดียว หนูก็บอกว่าแล้วจะให้หนูทำยังไง แม่หนูจะโดนแทงตาย จะให้ทำไง มีสายตรวจขับรถไปแค่คนเดียว แล้วก็พูดว่าผมช่วยอะไรไม่ได้นะ ผมมีคนเดียว ผมก็ไม่กล้าเหมือนกัน หนูก็ต้องกลับมาโรงพักเพื่อรอกำลังเสริม รอให้ตำรวจที่ไปม็อบมา แล้วไปกับหนู มีสายสืบไปกับหนูประมาณ 3 คน แต่ก่อนหน้ามาอาละวาดบ้านหนู มันไปงัดแงะห้องอื่นด้วย และไปเข้าบ้านคนรู้จักอีกฝั่ง ไปงัดบ้านเขาจะเข้าหาลูกสาวเขา พอดีพี่เขาออกมาเจอ เลยถามว่ามึงเข้ามาทำไม
สิ่งที่พูดถึง จะเชื่อมโยงเหตุที่ติดข้องหมองใจญาติ ๆ ว่าเหตุที่เกิดขึ้น พฤติกรรมที่พูดอยู่ทั้งหมดเป็นพฤติกรรมอันตราย แจ้งความกี่ทีแล้ว ทำไมตำรวจไม่เอาตัวไปตั้งแต่แรก ?
นา : ใช่ แล้วพี่เขาเจอ ถามว่ามึงเข้ามาทำไม ตอนนั้นเขาจะยิงเนอะ เพราะบุกบ้านเขา แม่เขาก็วิ่งตามไป บอกว่าลูกสติไม่ดี ขอโทษ แล้วทีนี้เขาพากันมาแจ้งความ ตำรวจสายสืบก็ไปหามันที่บ้าน โดนมันวิ่งไล่ฟัน ตกน้ำตกท่า หนูก็ถามว่า พี่ นี่ไม่ใช่เหตุซึ่งหน้าเหรอ ทำไมไม่จับ เขาบอกว่าต้องรอออกหมายจับก่อน ต้องไปแจ้งความอย่างโน้นอย่างนี้ หลายครั้งแล้ว
นี่ครั้งแรกที่ไปแจ้ง ?
นา : 2 พฤศจิกายน ปี 2563 แล้ววันที่ 16 แจ้งเช้า เย็น ตำรวจไปแต่ไม่จับ ไม่มีหน้าที่จับ หนูก็ถามว่าแล้วมาทำเหี้..อะไร ทำไมไม่จับ หนูถามตรง ๆ เลย ต้องรอให้ทุกคนตายก่อนใช่ไหม ตำรวจถึงจะจับ ตำรวจบอกว่าคุณอย่ามาพูดกับตำรวจอย่างโน้นอย่างนี้ พอไปแจ้งความแม่.. เดินขึ้นเดินลง จนบ่าย 3 ถึงจะทำคดีให้ ถึงจะรับแจ้งความ
ภาพจาก รายการโหนกระแส
สน. ไหน ?
นา : สน.บางเสาธง แถวภาษีเจริญ หลังจากนั้นเขาพูดว่าทีหลังมึงรุมกระทืบมันเลย แล้วอุ้มมาส่งตำรวจ หนูถามว่าทำไมหนูต้องไปกระทืบเขา หนูเป็นพี่ เป็นป้า เป็นน้า เป็นอา กระทืบมันมีความผิดนะพี่ ให้ประชาชนไปกระทืบผู้ต้องหา จับส่งตำรวจมันใช่เรื่องหนูเปล่า ไม่ใช่เรื่องนะพี่ ให้มันมาฟันแทงหนูเหรอ ตำรวจกินภาษีประชาชน ทำไมไม่ไปรับมีดแทนหนูล่ะ
เจ็บปวดมากนะเนี่ย ที่พีคสุดคือ ?
นา : แม่หนูอยู่บนบ้าน มันถือมีดไปบอกว่ามึงแน่จริงลงมา ตำรวจมันพูดว่าคุณไปเอาเจ้าทุกข์มา คุณไม่ใช่เจ้าทุกข์ผมไม่รับแจ้ง ฉิบหาย มันจะแทงแม่กู หนูเลยถามว่าแม่จะออกมายังไง ทำไมตำรวจไม่ออกไป สรุปอาต้องเข้าไปแทน เอาตัวแม่ออกมา
อายังไง ?
ต่าย : วันนั้นหลานสาวโทร. ไปเอาตัวแม่ของหลานออกมาได้ และเอามีดมา 2 เล่ม เป็นหลักฐาน ตำรวจเลยเอามีดไปด้วย แล้วไปโรงพัก จนพี่สะใภ้ไปนั่งรอนานมาก ไปตั้งแต่เช้า จนบ่าย 3 ตำรวจบอกว่ายังทำอะไรไม่ได้ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน
นา : หนูไปโวยวายค่ะ หนูไม่ได้ด่าเหี้.. สั_ว์ อะไรนะพี่ หนูไปแจ้งตามที่หนูพูด ไปแจ้งห้องสืบ ห้องสืบบอกมึงขึ้นไปแจ้งข้างบนเลย กูจะจัดงานวันเด็ก เกี่ยวกันไหม พอไปแจ้งข้างบน บอกไปห้องสืบเลย เป็นหน้าที่ของสืบ หนูเลยถามว่าสรุปจะให้แจ้งกับใคร เขาบอกแจ้งกับผมนี่ แล้วพอแจ้งก็บอกว่าคุณไม่ใช่เจ้าทุกข์ สน.บางเสาธง
ก่อนโอ๊ตสังหารแม่ตัวเอง มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น ?
นา : มันก็เหมือนเดิม จะเอามีดมาฟันคนอื่นเหมือนเดิม เอามีดจะมาฟันคนที่บ้าน
ภาพจาก รายการโหนกระแส
เขาเสพไหม ?
นา : หนูพูดไม่ได้ว่าเสพหรือไม่เสพ เพราะมีผลกับหนู แต่เขาบ้าแน่ แต่ไม่มีใบบ้า เพราะพี่น้องไม่ได้เอาไปรักษา พอเกิดเรื่องเป็นพี่ชายแสนดีมาก ไม่เข้ามาดูดำดูดี คนเป็นลูกทำได้เหรอ ให้แม่นอนอยู่กลางถนน ให้น้องไล่ฟันแม่ ด่าแม่ ตีแม่ทุกวัน
แต่ตอนนี้พี่ชายบอกคุณไปกดดันมาก ทำให้น้องเขาทำแบบนี้ ?
นา : คนที่กดดันคือน้องเขา กดดันเราทำให้เราต้องย้ายบ้านหนี นี่คือเรากดดัน
เขาบอกเขาตัดขาดคุณ ?
นา : เราก็ตัดขาดเขาพี่ เพราะเราพยายามช่วยแม่เขา คนรอบข้างพยายามช่วยแม่เขา ตัวเขาอยู่ไหน หนูโทร. ไปหาคนแรก พี่ชายคนโตจะเอาไง โอ๊ตอาละวาดอีกแล้ว ป้าอี๊ดให้โทร. ให้ ป้าอี๊ดนั่งอยู่ ให้ช่วยกันจับไอ้โอ๊ตไปส่งโรงพยาบาล
เขาพูดว่าไง ?
นา : มึงไม่ต้องมายุ่งกับกู ลูกรักเขาก็ให้เขาจัดการกันเอาเอง ให้ตำรวจจับมันไปเลย นี่คือคำพูดพี่ชายคนโต โทร. ไปหาคนน้อง บอกว่าลำพังตัวกูยังเอาไม่รอดเลย กูมันก็ไล่แทง แล้วแต่เวรแต่กรรม กูเคยพามาอยู่ด้วยแต่หนีไปหามัน
พอเกิดเรื่อง ?
นา : กลายเป็น โอ้โห คนโน้นคนนี้กดดัน
ทำให้โอ๊ตฆ่าแม่ ?
นา : ใช่ ก็ถ้าลูกเขาไม่ตีแม่ เราจะแจ้งความไหมล่ะพี่ คนบ้าอะไรจะไปแจ้งความจับคนดี
สรุปพี่โอ๊ตบอกว่าพวกคุณไปแจ้งความจับน้องเขา โอ๊ตเลยกดดัน ก่อเหตุ แต่คุณมองว่าพี่ต้องมาดูแลน้อง ดูแลแม่ตัวเอง และตำรวจต้องจับโอ๊ตออกไปบำบัด ?
นา : ใช่
แล้วก่อนเกิดเหตุยังไง ?
นา : เขาอาละวาดอีก ก็แจ้งตำรวจ ตำรวจมา 2 นาย สายตรวจที่บางเสาธง ไปจอดรถอยู่ร้านกาแฟ หนูถามว่าไม่เข้าไปคุยกับผู้ต้องหาเหรอ ไม่ไกล่เกลี่ยมันออกมาเหรอ ทำไงเขาก็ไม่เข้า เขาบอกว่าเขามาแค่ 2 คน ไม่มีกำลังมา
ต้องกี่คนถึงเป็นกำลัง ?
นา : ไม่ทราบเหมือนกัน ไม่เข้าไปจับ จนเพื่อน ๆ มากันหลายคน เพราะต้องทำอะไรสักอย่าง กฎหมายไม่ได้ก็ต้องกฎหมู่ เอามันออกไปรักษาให้ได้ แฟนหนูออกไปคุยกับยายอี๊ด บอกว่าอย่าไปทำอะไรมันนะ เราก็บอกว่าไปช่วยกันจับมันออกมาเพื่อพาไปรักษา พอตำรวจมา กำลังจะเข้าไปจับ แม่เขาหน้ามือเป็นหลังมือ มึงพากันมาทำไม มึงจะมาตีลูกกูเหรอ โอ๊ยอะไร เราบอกว่าจะต้องพาไปรักษานะ ไม่งั้นมันก็ตียายอี๊ดอยู่อย่างนี้
เขาตีหนักไหม ?
นา : ลากออกมา เอาหัวโขกกำแพง ทั้งตี ทั้งกระทืบ หลายอย่าง จนยายอี๊ดไปตัดพ้อชีวิตกับคนรอบข้างว่าเขาเบื่อลูก เขาไม่ไหวแล้ว
แล้วตำรวจทำไง ?
นา : ตำรวจไม่ทำยังไง เขาก็บุกไปจะจับโอ๊ต ตำรวจตามเข้าไปยืนแอบอยู่หลังกำแพง ให้พวกนี้เข้าไปจับผู้ต้องหา พอล็อกออกมาได้ ยื่นกุญแจมือให้น้องเขย จะให้ล็อกไอ้โอ๊ต หนูบอกว่ามึงห้ามไปล็อกเขาเด็ดขาด มึงเป็นประชาชน ไม่ใช่ตำรวจ ถ้าเขาหัวหมอ พี่น้องเขาบอกว่าไปจับกักขังหน่วงเหนี่ยวเขาได้ยังไง มึงมีความผิดนะ ตำรวจต้องล็อกเอง
แล้วพอเราพามันออกมาริมถนนได้ ก็คุยกันว่าให้เอาขึ้นรถเลย เอาไปสงบสติอารมณ์ก่อน เกี่ยงกัน บอกว่ารอแป๊บหนึ่ง สายสืบกำลังจะมา 2 คน รถสายสืบมา ไอ้โอ๊ตมึงว่าไง อ้าวพี่ หวัดดีครับ เป็นไงพี่ ผมจับมันไม่ได้ ไม่ใช่เหตุซึ่งหน้า ไม่ได้มาฟันต่อหน้าผม แล้วจะให้ทำยังไง สักพักพี่ชายคนโตโผล่มาจากไหนไม่รู้ น่าจะแม่เขาโทร. ไปตาม มาถึงก็พูดตรง ๆ ด่าคำหยาบ ไปจอดมอเตอร์ไซค์ไว้ฝั่งตรงข้าม โอ๊ตก็กระโดดขึ้นรถพี่ไปเลย ตำรวจก็ปล่อยให้ไปซะอย่างนั้น แล้วบอกว่าให้คนใดคนหนึ่งพาเขาไปโรงพักที ถามหน่อยมันจะไปไหม หนูก็เลยขับรถตามไป เอาไปทิ้งไว้ร้านลาบ หนูไปจอดดูอยู่ห่าง ๆ พี่มันเอาไปทิ้งไว้กับเพื่อนมัน แล้วขับรถไปไหนก็ไม่รู้ น้องมันนั่งอยู่วินสามแยกวัดแก้ว หนูโทร. ไปหาอีก สน. ว่าผู้ต้องหาอยู่นี่
เหนื่อยไหม ?
นา : ไม่เหนื่อย หนูบอกว่าผู้ต้องหาอยู่สามแยกวัดแก้ว มาจับสิ เขาบอกว่าไม่มีหมายจับ ไม่สามารถจับได้ หนูบอกว่าจะทำยังไง ต้องรอให้คนตายหรือไง แล้วแม่หนูจะเข้าบ้านยังไง จะนอนยังไง คืนนั้นเลยเป็นคืนที่เอาแม่ออกจากบ้านไปอยู่บ้านหนูอีกที่ ถ้าแม่หนูไม่ออกไป แม่หนูจะกลายเป็นศพ ไม่ใช่แม่เขา
สุดท้ายวันรุ่งขึ้น ?
นา : โอ๊ตฆ่าแม่ ฆ่าตั้งแต่กลางคืน
เหตุการณ์เป็นยังไง ?
นา : มีคนบอกว่ามันไปนั่งกินเหล้าข้างวัดใหม่ติดกับบ้านเขา แล้วแม่ไปตามกินข้าว แล้วคงโมโห มีอารมณ์หงุดหงิด หลังจากนั้นมันเข้าบ้านไป เราไม่รู้ว่ามันฆ่าแม่มันยังไง เช้ามาประมาณ 6 โมงกว่า อาโทร. ไปว่าให้แจ้งตำรวจ ไอ้โอ๊ตคลั่งอีกแล้ว ไม่ไหวแล้ว มีคนมา 4 คน ผมจับไม่ได้ ยังไงก็จับไม่ได้ เราใจไม่ดีกลัวเป็นพ่อ เพราะพ่อหายไป ตำรวจเข้าไป 2 คน ไปคุยกับมัน มันนั่งลับมีดอยู่ ถามว่าจะทำอะไร มันบอกกำลังจะดายหญ้า แต่หารู้ไม่มันฆ่าแม่มันแล้ว แม่อยู่ในบ้าน ตำรวจออกมาบอกว่ามันไม่ได้บ้า มันแกล้งบ้า มันคุยกับผมรู้เรื่อง คนบ้าจะคุยไม่รู้เรื่อง
หนูบอกว่าถ้าไม่บ้าทำไมไม่จับเขา บอกจับไม่ได้ แล้วขับรถออกไปเลย ไม่เกิน 5 นาที ไฟไหม้ โอ๊ตเผาบ้าน และมีคนไปแอบดูว่ามีคนตาย ตอนนั้นใจเสียคิดว่าเป็นพ่อ เพราะใครจะไปคิดว่ามันจะฆ่าแม่ อาบอกว่ามันฆ่าแม่ ฟันไม่ยั้งเลย แล้ววิ่งเข้าไปเจอมันกำลังหั่นศพ
ยังไง ?
อ้น : ผมเข้าไป ลูกสาวโทร. มาบอกว่าพ่อตาหายไป คิดว่าพ่อตาตาย ตอนนั้นมือไม้สั่น เห็นว่าเอามีดแทงแล้วเฉือน งัด ๆ ให้กรามหลุด เฉือนปาก เฉือนลิ้น มันเป็นประตูรั้ว ผมอยู่ตรงรั้ว ผมเรียกเขาโอ๊ต ๆ 3-4 คำ เขาลากแม่ เฉือนแม่ ตัดลิ้นแม่ เห็นเลย แล้วหั่นมือที่มีรอยแผล ผมก็ทนดูไม่ได้ เดินออกไป
ตำรวจมาตอนไหน ?
อ้น : ตอนผมเดินออกไปตำรวจก็มา
นา : หลังจากนั้นพวกดับเพลิงเอาน้ำฉีดไล่ มันก็หนีไปข้างหลัง ไปเจอตำรวจ หลังจากนั้นก็ตามภาพ มีการวิสามัญเกิดขึ้น
เพราะโอ๊ตวิ่งไปจะแทงตำรวจ ในมือถือลิ้นแม่ และกรอบรูปของแม่ ?
นา : ใช่ ตำรวจยิงขู่ให้มอบตัว เขาก็เหมือนจะมอบ แต่เขาคว้ามีดขึ้นมาอีก ฝั่งตรงข้ามมีพระอยู่รูปหนึ่งบอกให้มันมอบตัว
ภาพจาก รายการโหนกระแส
ประเด็นคุณที่ข้องใจมาก กลายเป็นว่าเราไปกดดัน หนึ่ง สอง ถ้าเกิดตำรวจระงับเหตุตั้งแต่คืนแรก ก่อนโอ๊ตสังหาร ทุกอย่างมันจบ ?
นา : ขอพูดถึงพี่โอ๊ต มันเป็นตราบาปของเขานะ ถ้าเขาไม่พาน้องหนีในวันนั้น แม่เขาก็ไม่ตายในวันนี้ ถ้าตำรวจไม่เอาไป หนูต้องล็อกมันไปอยู่แล้ว แต่เขาเลือกให้น้องขึ้นรถมอเตอร์ไซค์ไป หนูถามว่าทำไมในสื่อไม่พูดว่าตำรวจมาแล้ว เขาไม่เคยพูดเลยว่าเขาพาน้องออกไป กลับไปให้ข่าวน่าสงสารมาก คือถามว่ายามแม่มีชีวิต ทำไมมึงไม่ดูแล น้องมึงตีแม่ขนาดนี้ มึงยอมเหรอ มึงไปกินสุขสบาย แต่ให้แม่นอนข้างถนน รอวันจะตายวันไหน
ไม่กลัวเขาฟ้องเหรอ ?
นา : ฟ้องหนูเรื่องอะไร หนูพูดเรื่องจริง ไม่กลัว หนูเชื่อว่าหนูมีพยานแวดล้อมเยอะ เขาเห็นกันเยอะ หนูสงสารยายอี๊ด
ประเด็นที่สอง พอคุณพูดออกมาในข่าว เรื่องนี้ติดเทรนด์ทวิตเตอร์อันดับหนึ่ง ฆ่าแม่ตัวเองบางพรม 54 รีทวีตไป 3 แสนกว่าครั้ง ที่สำคัญหลังติดเทรนด์ปุ๊บ ตำรวจมาขอให้คุณเปลี่ยนคำพูด เพราะอะไร ?
นา : หนูก็ไม่ทราบ ตำรวจบางเสาธง ครั้งแรกเพื่อนบอกว่ามึงออกมาฟังหน่อย มีคนเขาฝากอะไรมาบอก หนูออกมาเขาฝากบอกว่าเขาขอโทษ อย่าไปให้ข่าวสื่อไหน แค่นี้โรงพักก็สั่นสะเทือนแล้ว แล้วเมื่อวานก็มาอีก แต่หนูไม่อยู่ เขาบอกว่าให้พูดทำนองว่าเรากำลังโกรธเลยพูดไปแบบนั้น
ตอนนี้คุณห่วงความปลอดภัย ?
นา : ใช่ หนูบอกเลยว่าหนูไม่ได้มาเอาเรื่องตำรวจ หนูอยากให้คดีนี้เป็นอุทาหรณ์ว่าตำรวจควรมีวิจารณญาณในการทำคดี หรือมีเซ้นส์สักนิดว่าประชาชนแจ้งหลายครั้ง แสดงว่าไอ้นี่แม่.. จริง ๆ มันโหดร้ายจริง ๆ ไม่จำเป็นต้องหนูแจ้ง ฟังแวดล้อมก็ได้ แค่มันตีแม่ทุกวันก็น่าจะจับไปได้แล้ว
ณ เวลานี้ ผบ.ตร. ลงพื้นที่บางเสาธงแล้ว แต่ครอบครัวโอ๊ตตัดขาดคุณแล้ว ?
นา : ก็มีพี่ชาย 2 คน แทนที่เขาจะขอบคุณเรา เราคอยปกป้องแม่เขา คอยแจ้งตำรวจว่ามันตีแม่ เราโทร. หา ให้มาจัดการน้อง สังคมถามคุณกลับเหรอว่ารู้ว่าน้องทำกับแม่อย่างนี้ทำไมไม่จัดการ แต่หนูไม่กลัวเขานะ หนูไม่ได้อยู่ในเขตพื้นที่เขานะ หนูอยู่เขตตลิ่งชัน ตำรวจตลิ่งชันบอกว่าจับได้ทำไมไม่จับ แล้วอย่าลืมถามเขานะ ตอนที่พี่ชายพาน้องหนี พี่ชายมีความผิดไหม หนูอยากรู้ตรงนี้ หนูแช่งเลย ตราบาปติดตัว ถ้ามึงไม่พามันหนี แม่มึงไม่ตาย น้องมึงไม่โดนวิสามัญ เพราะใจญาติพี่น้องต้องการเอาไปรักษา เราไม่ได้ต้องการให้โอ๊ตตาย
ฝากบอกพี่ชายเขา 2 คน กรุณาอย่าสร้างภาพว่าเป็นลูกที่ดี เพราะคนเราเป็นลูกที่ดีได้ แค่น้องด่าแม่ก็ไม่สมควรเก็บไว้แล้ว สมควรดูแลจิตใจแม่ ไม่ควรให้แม่มานอนข้างถนน เดินเก็บขยะขายไปวัน ๆ
ขอบคุณข้อมูลจาก รายการโหนกระแส
