แม่สุดลำบาก เผชิญวิกฤตโควิด 19 ไร้คนจ้างงาน ไม่มีแม้แต่เงินจะซื้อข้าวสาร ต้องทักไปขอยืมเงิน 100 บาท จากครูของลูก แค่กินข้าวผสมซอส-พริกละลายน้ำปลาก็ยังดี ให้สัจจะ มีเมื่อไหร่จะเอามาคืนแน่นอน
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
วันที่ 22 มกราคม 2564 เฟซบุ๊ก Athapol Anunthavorasakul ได้โพสต์ข้อความแชตจากคุณครูท่านหนึ่งที่มีคุณแม่ของนักเรียนแชตมาขอยืมเงินจำนวน 100 บาท เนื่องจากวิกฤตโควิด 19 ทำให้ไม่มีใครจ้างงานเลย จึงต้องมาขอยืมคุณครูแค่พอมีเงินไปซื้อข้าวสารมากินกับซอส กินกับพริกละลายน้ำปลากก็ยังดี ทั้งนี้ คุณแม่รายดังกล่าวยืนยันว่าหากมีเงินเมื่อไหร่จะนำมาคืนทันที แต่หากครูไม่สะดวกก็ไม่เป็นไร ซึ่งทางคุณครู ก็ได้ยื่นมือช่วย
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Athapol Anunthavorasakul
โดยเจ้าของเฟซบุ๊ก Athapol Anunthavorasakul ระบุว่า
"คุณครูที่เป็นลูกศิษย์โพสต์ขึ้นเฟซบุ๊กส่วนตัว อ่านแล้วจุกจนขอเอามาแชร์ ปิดชื่อคุณครูหน่อยเพื่อความเป็นส่วนตัว
COVID-19 กระชากทุกสิ่งที่อยู่ใต้พรมออกมาให้เห็นว่าสังคมไทยสุดแสนจะเหลื่อมล้ำ คนไม่มีจะกินคือไม่มีจริง ๆ การตัดสินใจอะไรที่ไม่เคยมองเห็นพวกเขาเลย ไม่ว่าเป็นการตัดสินใจโดยตั้งใจ/ไม่ตั้งใจ รู้ประสา/ไม่รู้ประสา ล้วนเป็นการตัดสินใจที่เลือดเย็นมาก
คนไม่เคยจน หรือคนที่ทำเป็นลืมไปแล้วว่าตัวเองเคยจนคงยากที่จะเริ่มต้นด้วยความเข้าใจ แต่ถ้าใช้ความเป็นมนุษย์ในตัวรับรู้ รับฟังให้มาก ๆ อย่าติดกับดักอคติเหมารวม เช่น คนจนคือคนขี้เกียจ คนเราเกิดมาไม่เท่ากันหรอก ฯลฯ ท่านจะได้ยิน และมองเห็น
เหนืออื่นใด บทบาทคุณครูในโรงเรียนทั้งเมืองกรุงและต่างจังหวัด ไม่ใช่แค่ครูฟา ครูโค้ช romanticised อะไรหรอก ครูก็เป็นครูนั่นแหละ ที่เป็นฟา เป็นโค้ช มันแค่หนึ่งในร้อยบทบาทที่คนทำงานในวิชาชีพครูเขาต้องแบกรับ
ไม่ใช่แค่ลูกศิษย์ที่ต้องดูแล ปกป้อง เคียงข้าง ส่งเสริม ช่วยเหลือ พัฒนา แต่พ่อแม่ผู้ปกครอง คนในชุมชน คนทำหน้าที่ครูก็ต้องร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วย
กราบหัวใจครูทุกคนที่ทำงานกันหนักมาก ๆ ในช่วงเวลาที่มืดมิด และหนักหน่วงที่สุดช่วงหนึ่งของสังคมไทย"
COVID-19 กระชากทุกสิ่งที่อยู่ใต้พรมออกมาให้เห็นว่าสังคมไทยสุดแสนจะเหลื่อมล้ำ คนไม่มีจะกินคือไม่มีจริง ๆ การตัดสินใจอะไรที่ไม่เคยมองเห็นพวกเขาเลย ไม่ว่าเป็นการตัดสินใจโดยตั้งใจ/ไม่ตั้งใจ รู้ประสา/ไม่รู้ประสา ล้วนเป็นการตัดสินใจที่เลือดเย็นมาก
คนไม่เคยจน หรือคนที่ทำเป็นลืมไปแล้วว่าตัวเองเคยจนคงยากที่จะเริ่มต้นด้วยความเข้าใจ แต่ถ้าใช้ความเป็นมนุษย์ในตัวรับรู้ รับฟังให้มาก ๆ อย่าติดกับดักอคติเหมารวม เช่น คนจนคือคนขี้เกียจ คนเราเกิดมาไม่เท่ากันหรอก ฯลฯ ท่านจะได้ยิน และมองเห็น
เหนืออื่นใด บทบาทคุณครูในโรงเรียนทั้งเมืองกรุงและต่างจังหวัด ไม่ใช่แค่ครูฟา ครูโค้ช romanticised อะไรหรอก ครูก็เป็นครูนั่นแหละ ที่เป็นฟา เป็นโค้ช มันแค่หนึ่งในร้อยบทบาทที่คนทำงานในวิชาชีพครูเขาต้องแบกรับ
ไม่ใช่แค่ลูกศิษย์ที่ต้องดูแล ปกป้อง เคียงข้าง ส่งเสริม ช่วยเหลือ พัฒนา แต่พ่อแม่ผู้ปกครอง คนในชุมชน คนทำหน้าที่ครูก็ต้องร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วย
กราบหัวใจครูทุกคนที่ทำงานกันหนักมาก ๆ ในช่วงเวลาที่มืดมิด และหนักหน่วงที่สุดช่วงหนึ่งของสังคมไทย"
ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก Athapol Anunthavorasakul