เครือเจริญโภคภัณฑ์ แถลงเตรียมดำเนินคดี สิรวิทย์ ช่วงเสน ปมไลฟ์เฟซบุ๊กสร้างความเข้าใจผิด เจ้าตัวยันบริสุทธิ์ใจในการพูด เป็นกระบอกเสียงให้สังคม
วันที่ 22 มกราคม 2564 เครือเจริญโภคภัณฑ์ ออกแถลงการณ์ ระบุข้อความว่า เครือเจริญโภคภัณฑ์ ให้ความเคารพต่อสิทธิเสรีภาพในการนําเสนอข่าวสารที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานข้อมูลที่เป็นจริง อย่างไรก็ตาม ปรากฏว่า เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2564 นายสิรวิทย์ ช่วงเสน อดีตผู้สมัคร ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคไทยศรีวิไลย์ เผยแพร่คลิปวิดีโอผ่านทางโซเชียลมีเดียให้เป็นที่ปรากฏแก่ประชาชนทั่วไป โดยมีเนื้อหาอันเป็นเท็จสร้างความเข้าใจผิด และก่อให้เกิดความเสียหายต่อเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) จากกรณีดังกล่าวนี้ เพื่อปกป้องศักดิ์ศรีขององค์กร และรักษาไว้ซึ่งความถูกต้องและเป็นธรรมต่อสังคมไทย ซีพีจะดําเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายจนถึงที่สุด
ภาพจาก We are CP
ข้อเท็จจริง : หน้ากากอนามัยจากโรงงานหน้ากากซีพี จนถึงปัจจุบัน ยังคงแจกจ่ายให้บุคลากรทางการแพทย์ และกลุ่มเปราะบาง โดยมีโรงพยาบาลจุฬาฯ สภากาชาดไทย เป็นผู้แจกจ่าย และโรงงานหน้ากากอนามัยซีพีไม่เคยนํามาจําหน่ายในร้านเซเว่นอีเลฟเว่นแต่อยางใด
นาทีที่ 0.06-0.19 วันนี้ซีพีบอกว่าตัวเองไปถือหุ้นในซิโนแวค ไบโอเทค 15% เดี๋ยวบอกว่าจะแจกอีกมั้ง เดี๋ยวก็เอามาขายในเซเว่น คุณเชื่อผมมั้ยเล่าว่าเอามาขายในเซเว่นจริง ๆ
ข้อเท็จจริง : ซีพีไม่มีหุ้นในบริษัท ซิโนแวค แต่เป็นการลงทุนของบริษัท ซิโนไบโอฟาร์ม ใน ตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง และซีพีไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใดในการนําเข้าวัคซีนในประเทศไทย
นาทีที่ 0.57-3.33 เค้าเป็นเจ้าของซีพี เป็นเจ้าของหนึ่งเดียวแห่งประเทศไทยที่ขายกุ้งแล้วไม่โดนจับ ถ้ากุ้งมีตราซีพีแล้วจะไม่โดนจับ ขายที่ไหนก็ได้ ไม่มีโดนจับ ขายสนามหลวงก็ไม่โดนจับ เพราะฉะนั้นวันนี้ต้องมีตราซีพีนะถึงจะรอดพ้น ถ้าไม่มีตราซีพีคุณตายแน่ คุณโดนข้อหาแน่ คุณโดนจับแน่นอน คุณโดนจับ 112 ด้วย ข้อหา 112 ด้วย ขายกุ้งเนี่ย
ข้อเท็จจริง : การนําเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ บิดเบือน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายและเข้าใจผิด มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
ขณะที่ นายสิรวิทย์ ได้ออกมาเคลื่อนไหวผ่านเฟซบุ๊ก สิรวิทย์ ช่วงเสน Sirawit Chuangsen ระบุว่า "ผมพร้อมชี้แจงต่อสื่อทุกช่อง เพราะผมบริสุทธิ์ใจในการอ่านข่าว ไม่ได้โกรธซีพี หรือมีอะไรเป็นการส่วนตัวนะครับ แต่ซีพีออกมาแถลงการณ์แบบนี้กลับทำให้ผมเสียหายมากกว่า ปัจจุบันผมไม่ได้สังกัดพรรคไทยศรีวิไลย์นะครับ ผมทำงานทางด้านการเมืองสังกัดพรรครวมพลังคนรุ่นใหม่ ในนามหัวหน้าพรรค การที่ผมกล่าวถึงซีพีนั้นไม่ได้มุ่งหวังเพื่อประโยชน์ส่วนตนแต่อย่างใด หากแต่ต้องการถามในสิ่งที่สังคมอยากรู้ ในฐานะตัวแทนประชาชน เป็นกระบอกเสียงเพื่อประโยชน์ของประชาชนทุกคนในฐานะผู้บริโภค ให้ได้ข้อมูลที่กระจ่างชัด ส่วนข้อมูลที่ผมนำมาอ่านข่าว เป็นข้อมูลที่นำมาจากแหล่งข่าวใหญ่ที่เชื่อถือได้
ฉะนั้น ผมบริสุทธิ์ใจและพูดแสดงความคิดเห็นตามความเป็นจริง ไม่ได้สร้างเรื่องหรือพูดข้อมูลอันเป็นเท็จขึ้นมาบิดเบือนแต่อย่างใด ทั้งนี้ ทางผมจะต้องคุยกับทางทีมกฎหมายว่าจะดำเนินการยังไงต่อไปในเรื่องดังกล่าว เพราะเกิดความเสียหายกับทางผมเช่นเดียวกัน"