ชวนไปถ่าย Video Portrait ให้สวยเฉียบด้วย OPPO Reno5 Series 5G ไอคอนเด็ดสำหรับคนรุ่นใหม่ที่ชอบตามเทรนด์ บอกเลยว่าเห็นแล้วอยากพรีออร์เดอร์รัว ๆ
นอกจากภาพถ่ายสวย ๆ ที่สามารถแชร์เรียกไลก์ผ่านโซเชียลได้แล้ว เชื่อว่าการมี Vlog ไว้คอยบันทึกเรื่องราวต่าง ๆ ในรูปแบบวิดีโอ ถือเป็นอีกหนึ่งไอเดียที่หลายคนกำลังให้ความสนใจอยู่ในขณะนี้ ดังนั้น จะดีแค่ไหนหากมีสมาร์ทโฟนคู่ใจที่ถ่ายวิดีโอได้ลื่นไหลไม่มีสะดุด อย่าง OPPO Reno5 Series 5G ที่ยืนหนึ่งเรื่อง Portrait Video พร้อมการันตีการ “ถ่าย Portrait Video สวยที่สุด” รวมถึงเป็นตัวช่วยในการถ่ายภาพพอร์เทรตเพื่อเก็บทุกโมเมนต์ดี ๆ กับเพื่อนเลิฟ ซึ่งมีให้เลือกด้วยกันถึง 2 รุ่น คือ OPPO Reno5 และ OPPO Reno5 5G โดยวันนี้เราจะพาเพื่อน ๆ ไปรีวิวและพิสูจน์กันว่ามีอะไรเด็ด ๆ ที่น่าสนใจบ้าง
OPPO Reno5 5G
OPPO Reno5
Dual-view Video ถ่ายวิดีโอกล้องหน้า-หลังพร้อมกัน
เริ่มต้นกันที่ฟังก์ชันการถ่ายวิดีโอสุดพิเศษ ที่ถือว่าเป็นไฮไลต์เด็ดของ OPPO Reno5 Series 5G ทั้ง 2 รุ่นนี้เลยก็ว่าได้ กับความสามารถในการถ่ายวิดีโอกล้องหน้าและกล้องหลังได้พร้อม ๆ กัน ไม่ต้องนำไปตัดต่อใด ๆ จะถ่ายคลิปร้องเพลงไปพร้อม ๆ กับเพื่อน หรือทำเซอร์ไพรส์ในโอกาสดี ๆ ก็สามารถเก็บได้ทั้งสีหน้า อารมณ์ และความรู้สึกของทั้งเรากับเพื่อนซี้ไปได้พร้อม ๆ กัน เปิดดูกี่ครั้งก็ต้องอมยิ้ม
และยังเลือกแบ่งหน้าจอที่แตกต่างกันได้ถึง 3 เลย์เอาต์ ได้แก่ แบบแยก (Split) แบบวงกลม (Round) และแบบสี่เหลี่ยมผืนผ้า (Rectangle)
เพิ่มซีนอารมณ์ สร้างงานอาร์ตในวิดีโอ ด้วย AI Mixed Portrait
การถ่ายวิดีโอกับบรรยากาศทั่วไปก็อาจจะยังไม่โดนใจเท่าไหร่ ลองมาสร้างสรรค์อะไรใหม่ ๆ ด้วยการถ่ายวิดีโอแบบ AI Mixed Portrait คือ การเอาวิดีโอวิวมาซ้อนทับกับวิดีโอพอร์เทรต ซึ่งถือว่า เป็นครั้งแรกของโลกเลย ที่สมาร์ทโฟนมีโหมดการถ่ายวิดีโอที่ใช้เทคนิค Double Exposure Effect ทำให้ได้เอฟเฟกต์ที่แปลกตา เพิ่มฟีลลิ่งให้กับวิดีโอเรามากขึ้น ซึ่งมีเฉพาะใน OPPO Reno5 เท่านั้น
วิธีใช้ง่าย ๆ คือ OPPO Reno5 กดถ่ายวิดีโอพื้นหลังหรือเลือกได้จากอัลบั้มรูปภาพที่เคยถ่ายไว้ แล้วกดถ่ายวิดีโอพอร์เทรตในโมชั่นต่าง ๆ ที่ต้องการ จากนั้นระบบจะรวมวิดีโอเข้าด้วยกันในทันที
ถ่ายวิดีโอสวยด้วย Portrait Beautification Video ปรับหน้าให้ดูดี เป็นธรรมชาติ
สาว ๆ อย่างเราจะว้าวแค่ไหน ถ้าการถ่ายวิดีโอมีฟังก์ชันปรับใบหน้าให้สวยใส ผิวนวล ด้วยฟีเจอร์ Portrait Beautification Video ตรวจจับจุดบนใบหน้าและแยกแยะองค์ประกอบต่าง ๆ ได้ แล้วระบบก็จะประมวลผลเพื่อหาเอฟเฟกต์ความงามที่คู่ควรกับเราได้อัตโนมัติ ผู้ชาย-ผู้หญิงก็จะแตกต่างกันไป หรือถ้าไม่พอใจก็ปรับแต่งใบหน้าแบบละเอียดด้วยตัวเองไปเลย โดยโหมดนี้มีเฉพาะใน OPPO Reno5 5G เท่านั้นนะ
เราสวย เพื่อนก็สวยด้วย ไม่มีใครยอมใครเลย
AI Highlight Video ถ่ายวิดีโอสภาพแสงไหนก็สวยคมชัด
หนึ่งในปัญหาการถ่ายวิดีโอที่เรามักจะเจอกันบ่อย ๆ ก็คือสภาพแสงไม่เอื้ออำนวย มืดไปบ้าง สว่างไปบ้าง โดยเฉพาะในเวลาที่แสงน้อย ซึ่งใน OPPO Reno5 Series 5G มี AI Highlight Video เป็นตัวช่วยในปรับสภาพแสงให้อัตโนมัติทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังในปุ่มเดียว ไม่ว่าจะเป็นที่แสงน้อย หรือแม้แต่ถ่ายย้อนแสง ก็จะช่วยเพิ่มคุณภาพของวิดีโอให้คมชัด สว่าง ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น และนับเป็นฟีเจอร์แรกในอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟนเลยทีเดียว
AI Highlight Video - Ultra Night Video ถ่ายวิดีโอกลางคืนสว่างคมชัด
ปัญหาของการถ่ายวิดีโอในเวลากลางคืน ก็คงจะห่วงในเรื่องของแสงที่ไม่เพียงพอและความคมชัดอาจลดลงไป แต่ใน AI Highlight Video มีโหมด Ultra Night Video เมื่อถ่ายวิดีโอในสภาพที่แสงน้อย ระบบจะประมวลผลปรับสภาพแสงที่เหมาะสมให้ในทันที วิดีโอจะสว่างขึ้นและยังคมชัดเหมือนเดิม
เมื่อเราถ่ายในที่ที่มีแสงน้อย หรือตอนกลางคืน ฟีเจอร์ AI Highlight Video จะเปิด Ultra Night Video ให้ทันที
AI Highlight Video - Live HDR ถ่ายวิดีโอย้อนแสงสีสดใสไม่สว่างจ้า
เวลาไปเที่ยวทะเลหรือภูเขากับเพื่อนฝูงคนรู้ใจ ก็อยากจะถ่ายวิดีโอเก็บโมเมนต์ต่าง ๆ คู่กับบรรยากาศตอนนั้นให้สวยครบถ้วนเหมือนตาเห็น แต่ก็มักจะถูกแทนด้วยสีขาวโพลน เนื่องจากฉากหลังสว่างเกินไป หรือถ่ายย้อนแสงหน้าก็จะดำ ซึ่งฟีเจอร์ AI Highlight Video จะเปิดอัลกอริทึม Live HDR ให้อัตโนมัติ แล้วจะปรับสภาพแสงของภาพให้กลับมาสวยสดงดงามอีกครั้ง ฉากหลังไม่สว่างจ้า หรือว่ามืดเกินไป
เราเลยลองขึ้นไปเต้นกันบนดาดฟ้าท้าพระอาทิตย์ จากวิดีโอจะเห็นได้ชัดเลยว่า ท้องฟ้าและบรรยากาศโดยรอบก็กลับมามีสีที่สดใส เหมือนจริงขึ้นอีกครั้ง และที่สำคัญคือ ใบหน้าของเราไม่มืดเลย
Ultra Steady Video 3.0 ถ่ายวิดีโอพอร์เทรตนิ่งทุกสถานการณ์
การถ่าย Vlog กับฟีเจอร์กันสั่นถือเป็นอะไรที่ขาดกันไปแล้วจะขาดใจ เพราะต้องมีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา ซึ่ง Ultra Steady Video 3.0 เป็นเทคโนโลยีกันสั่นระดับมือโปรทั้งในกล้องหน้า กล้องหลัง และเลนส์ Ultra Wide Angle และมีเฉพาะใน OPPO เท่านั้น นิ่งสงบสยบทุกความเคลื่อนไหว ไม่มีความสั่นใด ๆ มารบกวนสายตา
วิ่งเล่นกันไป ยังไงก็ไม่สั่น
ซ้อมเซลฟี่กระโดดโลดเต้นเอาไว้ก่อน ถ้าโควิด 19 หายไปเมื่อไหร่ จะพกไปด้วยทุกที่ ทุกทริปเลยจ้า
เล่นกับสีสันของวิดีโอพอร์เทรต ด้วย Monochrome Video
การมีวิดีโอโทนสีเก๋ ๆ แปลกตา ก็น่าจะเรียกความสนใจจากสายตาใครต่อใครได้ไม่น้อย ใน OPPO Reno5 Series 5G มีฟังก์ชัน Monochrome Video ที่ให้เราเลือกไฮไลต์เฉพาะสีที่ถูกใจในวิดีโอได้ อย่าง สีแดง สีเขียว หรือสีน้ำเงิน โดยระบบจะปรับให้สีอื่น ๆ กลายเป็นโทนขาว-ดำในทันที ซึ่งโหมดนี้จะมีแค่ใน OPPO Reno5 เท่านั้นนะคะ
SOLOOP ตัวช่วยครีเอตวิดีโอระดับโปรได้ง่าย ๆ
อยากเข้าใกล้ความเป็น Influencer เก่ง ๆ ดัง ๆ แต่ก็ยังตัดต่อวิดีโอไม่คล่องมือ SOLOOP เป็นแอปฯ ตัดต่อพิเศษเฉพาะของ OPPO ที่มีเทมเพลตให้เลือกใช้เพียบ ไม่ต้องออกแบบเอง เลือกปุ๊บ ระบบจะ Generate ให้อัตโนมัติ จะเพิ่มฟิลเตอร์ หรือเพลงก็ได้ และยังส่งแชร์วิดีโอหลังถ่ายเสร็จทันที หรือใครเทพหน่อยก็สามารถทำภาพยนตร์สั้น ๆ ได้
นอกจาก OPPO Reno5 Series 5G จะเกิดมาเพื่อสาย Vlog เนรมิตวิดีโอรูปแบบต่าง ๆ ได้ดีแล้ว เรื่องฟีเจอร์ของการถ่ายภาพนิ่งแบบพอร์เทรตก็ทำได้ดีไม่แพ้กัน กับประสิทธิภาพกล้องที่เหนือชั้น และฟังก์ชันที่หลากหลาย จะคอยเก็บทุกช็อต บันทึกทุกโมเมนต์สำคัญ ๆ ที่ได้ใช้ชีวิตร่วมกันกับเพื่อนรักหรือคนรู้ใจ สื่อความหมายดี ๆ ผ่านทั้งภาพถ่ายและวิดีโอได้อย่างสวยงาม
ถ่ายภาพความละเอียดสูง คมชัด แก้ไขได้ไม่ต้องกลัวไฟล์แตก
ใน OPPO Reno5 Series 5G ประสิทธิภาพของกล้องหลังสามารถถ่ายภาพคุณภาพสูงได้ด้วย Ultra-clear 108MP Image ภาพจะละเอียดคมชัดมาก ๆ เราจึงสามารถถ่ายและแก้ไขภาพจากไฟล์ต้นฉบับได้สบาย ๆ จะบีบย่อ หรือขยายเพิ่ม หรือสั่งพิมพ์ภาพเป็นไฟล์ใหญ่ ๆ แปะฝาบ้าน ก็รับประกันความคมชัดไม่เปลี่ยนแปลง
ถ่ายรัว ๆ หยุดทุกการเคลื่อนไหวได้อย่างเนียน
ถ้าต้องถ่ายภาพที่มีการเคลื่อนไหว ระบบ ICE (Image-clear Engine) ก็สามารถทำได้อย่างเฉียบขาด จะสะบัดบ๊อบ วิ่งเล่น หรือถ้าชอตแข่งขันกีฬา เพียงแค่กดรัว ๆ ต่อเนื่อง ภาพก็ยังคงชัดเจน แม้แต่เส้นผมก็ยังไม่เบลอ
สะบัดต่อ รอเพื่อนบ้างน้าาา
สร้างโบเก้ดวงไฟระยิบระยับ กับ Night Flare Portrait
การถ่ายภาพกลางคืนโดยให้ด้านหลังของเรามีแสงไฟโบเก้วิบวับเป็นดวง ๆ ซ้อนอยู่ เป็นอีกหนึ่งไอเดียที่ฮอตฮิต ซึ่งส่วนมากจะต้องใช้กล้อง DSLR ในการถ่าย แต่ต่อไปนี้เราจะทำแบบนั้นได้ง่ายขึ้น เพียงใช้ ฟีเจอร์ “Night Flare Portrait” ช่วยสร้างเอฟเฟกต์ “bokeh” แสงไฟในตอนกลางคืนที่ดูงดงามและเป็นธรรมชาติ
อากาศดี ๆ บรรยากาศโดน ๆ ได้อยู่กับเพื่อนสนิทแบบนี้ แฮปปี้เฟร่อ !
ภาพต้นฉบับ เลือกที่ฟิลเตอร์ ภาพบุคคลสไตล์นีออน
Ultra Dark Mode เสริมความมั่นใจ ถ่ายกลางคืนสว่างคมชัด
จะถ่ายกลางคืนทีไรเป็นใจเสีย ! ทั้งมืด ทั้งแตก พังเละเทะไปหมด แต่ถ้าเปิดฟีเจอร์ Ultra Dark Mode ก็จะช่วยเสริมความมั่นใจในการถ่ายภาพในที่มืดมาก ๆ หรือแสงน้อยให้กลับมาสว่างสดใส โดยระบบจะทำงานโดยอัตโนมัติทันทีที่เปิดกล้อง
ช่วงแสงน้อย พระอาทิตย์ตกยามเย็น
หรือแม้แต่ช่วงกลางคืนที่ฟ้ามืดตึ้บ แสงหมดแล้ว ภาพก็ยังสว่างคมชัดได้เหมือนเดิม
เซลฟี่กลางคืนสว่างสดใสด้วย Ultra Night Selfie
บ่อยครั้งที่เวลาปาร์ตี้ หรือมีโมเมนต์ดี ๆ กับเพื่อนรักยามค่ำคืน แล้วหยิบมือถือมาเซลฟี่ ก็จะพบว่าหน้าดำบ้าง เบลอบ้าง แสงไม่พอบ้าง วันนี้ทุกปัญหาจะหมดไปเมื่อได้เจอกับโหมด Ultra Night Selfie ที่ช่วยเพิ่มความสว่างออกมาจากหน้าจอให้ทันทีที่เปิด ปรับภาพให้มีความคมชัด หน้าสว่างขึ้นทันตา ภาพสวยคมชัดทันใจ
การเลือกสมาร์ทโฟนดี ๆ ก็เหมือนการเลือกคู่ ต้องดูนิสัยที่ใช่และรูปลักษณ์ที่น่าค้นหา เพราะนอกจากฟีเจอร์การถ่ายวิดีโอและภาพนิ่งที่ว่าใช่แล้ว เรื่องดีไซน์ต่าง ๆ ของ OPPO Reno5 และ OPPO Reno5 5G ก็ยังมีอะไรที่น่าสนใจไม่แพ้กัน
ดีไซน์สวยหรู เฉดสีนับพัน บางเบา น่าจับต้อง
มาดูกันที่สีสันสะดุดตาของ OPPO Reno5 Series 5G ที่ได้รวมเอาเฉดสีนับพันไว้ในเครื่องเดียว ผ่านเทคโนโลยี Diamond Spectrum Process ทำให้สีฝาหลังเครื่องเกิดเป็นสีใหม่ ๆ เมื่ออยู่ในสภาพแสงที่แตกต่างกัน เราจะสามารถเห็นได้ทั้งสีเขียว สีเหลือง สีฟ้า สีม่วง และสีส้ม ใช้เอฟเฟกต์ Reno Glow พื้นผิวแบบด้านมีประกาย ป้องกันการเกิดลายนิ้วมือด้วย
เมื่อลองวาง OPPO Reno5 5G สี Galactic Silver บนพื้นหลังสีเขียวและสีเหลือง จะเห็นเลยว่าตัวเครื่องเปลี่ยนสีตามทันที เก๋เว่อร์ !
OPPO Reno5 5G น้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 172-180 กรัม หนา 7.9 mm และ OPPO Reno5 น้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 171 กรัม หนา 7.7-7.8 mm ถือว่าสัดส่วนแทบจะไม่ต่างกันเลย
OPPO Reno5 5G รองรับ 5G กับชีวิตที่ไหลลื่น
ยุคนี้ที่มีแต่ความรวดเร็ว อะไร ๆ ก็ต้อง 5G กันแล้ว OPPO Reno5 5G ใช้แพลตฟอร์มมือถือ Qualcomm Snapdragon 765G พร้อม RAM 8GB และ ROM 128GB ที่มั่นใจได้เลยว่า การใช้งาน 5G ต้องลื่นปรื๊ดเป็นที่สุด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับย่านความถี่ของแต่ละเครือข่ายตอนที่ใช้ด้วยนะคะ
สำหรับ OPPO Reno5 ก็ใช้งานรวดเร็วไม่แพ้กัน ด้วย Qualcomm Snapdragon 720G พร้อม RAM 8GB และ ROM 128GB
ชาร์จแบตฯ ไวสุดพลัง
OPPO Reno5 : 50W Flash Charging ชาร์จแบตฯ ได้ 80% ในเวลาเพียง 31 นาที และสามารถชาร์จได้เต็ม 100% ในเวลาเพียงแค่ 48 นาที
OPPO Reno5 5G : 65W SuperVOOC 2.0 ชาร์จแบตฯ ขนาด 4,300 mAh เต็มในเวลาเพียง 35 นาที หากชาร์จเพียง 5 นาที สามารถดูวิดีโอได้นาน 4 ชั่วโมง
เรียกได้ว่า ทั้ง 2 รุ่น ตีคู่ความเหนือชั้นทั้งเรื่องการถ่ายวิดีโอพอร์เทรตและภาพนิ่ง จนแทบจะกินกันไม่ลง ฝั่ง OPPO Reno5 5G นั้นเพียบพร้อมไปด้วยฟีเจอร์การถ่ายวิดีโอมากมาย รองรับความเร็วแรงของ 5G ขณะที่ OPPO Reno5 ก็งัดทีเด็ดจัดฟีเจอร์สุดยูนีคอย่าง AI Mixed Portrait มาเสริมทัพ และราคาถูกกว่า ส่วนจะเลือกรุ่นไหนงานนี้คงต้องดูความเหมาะสมกับการใช้งานของแต่ละคน
วันเปิดจองและราคา OPPO Reno5 Series 5G
- เปิดจองตั้งแต่วันที่ 26 มกราคม - 5 กุมภาพันธ์ 2564 (ทั้ง 2 รุ่น)
- จอง OPPO Reno5 ราคา 10,990 บาท รับของสมนาคุณ มูลค่ารวม 6,299 บาท ได้แก่
- เครื่องชั่งน้ำหนักอัจฉริยะ Smart Scale
- OPPO E-VIP Card
- จอง OPPO Reno5 5G ราคา 13,990 บาท รับของสมนาคุณฟรี มูลค่ารวม 8,398 บาท ได้แก่
- เครื่องชั่งน้ำหนักอัจฉริยะ Smart Scale
- Bluetooth Speaker
- OPPO E-VIP Card
พิเศษ ! เมื่อจองผ่านผู้ให้บริการเครือข่าย สามารถจอง OPPO Reno5 ในราคาเริ่มต้นเพียง 4,490 บาท หรือ OPPO Reno5 5G ในราคาเริ่มต้นเพียง 5,490 บาท
แม้ความสนุกกับการได้รีวิวมือถือ OPPO Reno5 Series 5G จะต้องจบลง แต่ความเจ๋งของทั้ง 2 เครื่องไม่ได้หมดลงเพียงเท่านี้ ยังมีอะไรให้ค้นหาและสนุกสนานอีกเยอะ ใครที่อยากจะลองคบหาดูใจ หรือสนใจรายละเอียด สามารถเข้าไปดูเพิ่มเติมได้ที่ www.oppo.com/th กันได้เลย
รวมรูปภาพ รีวิวถ่าย Video Portrait ให้สวยเฉียบด้วย OPPO Reno5 Series 5G สาย Vlog ไม่ควรพลาด !
อ่านเนื้อหาเต็มของอัลบั้มนี้