สลด.. หนุ่ม 15 ฉุนฆ่าแม่ บีบคอตายคามือ ยัวะถูกด่าสอบได้เกรดแย่ ถูกจับยังไร้ท่าทีสำนึก

          เปิดคดีสะเทือนสังคม ลูกวัย 15 บีบคอฆ่าแม่ดับ ยัวะถูกด่า สอบได้เกรด D แถมจัดฉากอำพราง ชี้ถูกจับยังไม่สะทกสะท้าน ไร้ท่าทีสำนึก ล่าสุดศาลสั่งจำคุก 45 ปี


          วันที่ 24 มกราคม 2564 เว็บไซต์เดลี่เมล มีรายงานคดีสะเทือนสังคม เมื่อวัยรุ่นชายวัย 17 ปี รายหนึ่ง ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีฆาตกรรมแม่แท้ ๆ ของตัวเอง ด้วยการใช้มือเปล่าบีบคอเธอจนเสียชีวิตในบ้านที่รัฐฟลอริดา สหรัฐฯ หลังมีปากเสียงกันเรื่องที่เขาทำคะแนนสอบได้ไม่ดี ก่อนวางแผนนำศพแม่ไปฝังไว้และชวนเพื่อนมาปล้นบ้านเพื่ออำพรางคดี ซึ่งศาลเพิ่งจะมีคำพิพากษาให้เขารับโทษจำคุกนาน 45 ปี

          ย้อนกลับไปในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2561 ขณะที่ผู้ต้องหามีอายุเพียง 15 ปี พบว่าแม่ลูกมีปากเสียงทะเลาะกัน เรื่องที่เด็กหนุ่มสอบได้เกรด D จากนั้นในช่วงเย็นเขาก็บุกเข้าไปบีบคอแม่บนเตียง ซึ่งตำรวจเชื่อว่าน่าจะใช้เวลาก่อเหตุราว 30 นาที เนื่องจากแม่ของเขาพยายามต่อสู้กลับ


          เมื่อแม่เสียชีวิต ผู้ต้องหาได้นำศพแม่ไปซ่อนไว้ในรถของครอบครัว ก่อนจะชวนเพื่อน 2 คนให้มาจัดฉากปล้นบ้าน ด้วยการนำเอาคอมพิวเตอร์ ปืนไรเฟิล และเครื่องเล่นเพลย์สเตชั่น 

          หลังจากนั้นผู้ต้องหาก็นำศพของแม่ไปฝังไว้ที่สวนหลังโบสถ์ใกล้ ๆ บ้าน ก่อนจะกลับมาโทร. แจ้งตำรวจว่ามีขโมยขึ้นบ้านและอ้างว่าแม่ของเขาหายตัวไป

          ทั้งนี้ มีรายงานว่า หลังจากนั้นเพียงไม่กี่ชั่วโมง เด็กหนุ่มได้ยอมรับกับเจ้าหน้าที่สอบสวนว่าเป็นคนก่อเหตุฆ่าแม่เอง อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้มีท่าทีสำนึกผิดใด ๆ ในทางกลับยังคุยโวโอ้อวดถึงการแสดงของตัวเอง ตอนที่จะโทร. ไปแจ้งตำรวจว่าน่าจะชนะรางวัลแกรมมี่ด้วย

          ในตอนนั้น ไมค์ ชิตวู้ด นายอำเภอเขตโวลูซา บรรยายถึงเด็กหนุ่มคนนี้ว่า เป็นผู้ที่ไร้ซึ่งความสำนึก เย็นชาและใจดำ อีกทั้งยังเป็นผู้มีพฤติกรรมต่อต้านสังคม ติดอันดับ 1 ใน 3 ของคนที่เขาเคยพบเจอ

          อย่างไรก็ตาม ผู้ต้องหาแสดงให้เห็นความสำนึกผิดมากขึ้นระหว่างการพิจารณาคดีในชั้นศาล เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2564 โดยผู้ต้องหาซึ่งปัจจุบันอายุ 17 ปี กล่าวก่อนการตัดสินโทษว่า

          "เพราะการกระทำของผม ผมจะไม่มีวันได้รู้จักแม่อย่างแท้จริง" และ "ไม่เพียงผมขโมยแม่ไปจากตัวผมเอง ผมยังขโมยเธอไปจากทุกคนเช่นกัน ผมพรากคนที่เป็นเหมือนอีกครึ่งหนึ่งไปจากพ่อเลี้ยง ผมพรากน้องสาวและเพื่อนแสนดีไปจากลุงและป้า ผมพรากลูกสาวไปจากคุณยาย ผมได้ทำในสิ่งที่เป็นภัยอย่างไม่อาจแก้ไขได้ต่อโลกและต่อพวกเขา ทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น เพราะอะไรผมถึงทำลงไป ผมไม่ขอแก้ตัวใด ๆ และทำได้เพียงวิงวอนขอการอภัย" 
 
          ทั้งนี้ หลังจากที่เขายอมรับสารภาพในข้อหาฆาตกรรมโดยเจตนา ล่วงละเมิดศพ และเข้าไปวุ่นวายกับหลักฐาน ศาลได้ตัดสินให้เขารับโทษจำคุกนาน 45 ปี และจะมีสิทธิ์ได้รับทัณฑ์บนในเวลา 25 ปี แต่ยังคงต้องถูกคุมความประพฤติตลอดชีวิต

          ขณะที่เพื่อนของเขา 2 คนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง และถูกตั้งข้อหาสมรู้ร่วมคิด คาดว่าอาจจะต้องได้รับโทษจำคุกคนละ 30 ปี ในการตัดสินคดีที่จะมีหลังจากนี้ ซึ่งผู้ต้องหาวัย 17 ปี ยังพยายามร้องขอความเมตตาจากศาลให้ลดโทษแก่เพื่อน ๆ โดยยืนยันว่าทั้งคู่ไม่รู้ถึงขอบเขตอาชญากรรมในครั้งนี้ อีกทั้งยังให้ความร่วมมือกับตำรวจอย่างเต็มที่  

ขอบคุณข้อมูลจาก เดลี่เมล