คืบเหตุฉาว สาว 18 ถูกชายนับสิบรุมโทรม ส.ท. ปัดก่อเหตุ ยันไม่รู้จักเหยื่อ รับมีปัญหากับพ่อเด็ก จวกสร้างเรื่องให้เสื่อมเสีย ท้าพร้อมสาบานทุกที่ ด้านตำรวจเตรียมเรียกสอบเพิ่ม
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
จากเหตุฉาวในพื้นที่ อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี กรณีสาววัย 18 ปี ถูกกลุ่มชายรุมโทรม 13 คน ซึ่งพ่อของผู้เสียหายออกมาร้องเรียนเกรงว่าคดีจะเงียบหาย เพราะผู้ก่อเหตุเป็นถึงอดีตสมาชิกสภาเทศบาล (ส.ท.) ในพื้นที่นั้น
อ่านข่าว : พ่อร้อง ลูกถูกชาย 11 คน รุมโทรม แฉ เมียผู้ต้องหาขอเอาตัวเข้าแลก อย่าเอาผิดผัว
ความคืบหน้าเรื่องนี้ วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2564 รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ช่อง 3 รายงานว่า คดีนี้ สาวอายุ 18 ปี ซึ่งเป็นผู้เสียหาย เล่าว่าได้ถูกข่มขืน 2 ครั้ง โดยครั้งแรกเดือนกันยายน จาก 4 คนและครั้งที่ 2 เดือนตุลาคม จาก 9 คน รวม 13 คน แต่มีเพียง 12 คนถูกแจ้งข้อหาข่มขืนกระทำชำเราในลักษณะโทรมหญิง และดำเนินคดีเสร็จสิ้นแล้ว แต่พบว่ายังเหลืออีก 1 คน ที่เป็น ส.ท. อายุ 52 ปี ไม่เคยถูกดำเนินคดี ตำรวจอ้างว่ามีพยานหลักฐานไม่เพียงพอ จึงมีการแจ้งความที่ ปคม. เพื่อขอให้ช่วยคิดตามเนื่องจากกลัวจะไม่ได้รับความเป็นธรรม
พ่อผู้เสียหาย เปิดเผยว่า อดีต ส.ท. คนนี้ ส่วนตัวรู้จักกันเพราะอยู่บ้านใกล้เคียงกัน ยืนยันไม่ได้เป็นการกล่าวหาเพราะมีบุคคลเคยเห็นคลิปขณะลูกสาวกระทำ ส่วนอาการของลูกสาวขณะนี้ยังต้องรักษาด้วยการกินยานอนหลับ พบว่ามีอาการหวาดกลัวและพยายามฆ่าตัวตายหลายครั้ง ส่วนเรื่องคดี ที่ผ่านมามีญาติของผู้ก่อเหตุเสนอเงินจำนวน 4 แสนบาท รวมถึงมีแม่ของหนึ่งผู้ก่อเหตุเสนอขอร่วมหลับนอนกับตนแลกกับการไม่ดำเนินคดีกับลูกชาย ซึ่งตนเองได้ปฏิเสธไป
จากการสอบถาม รองนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลดีลัง เผยว่า หลังเกิดเหตุทางฝ่ายที่ก่อเหตุมีการเสนอเงิน 3 แสน ให้ครอบครัวผู้เสียหายเพื่อให้ยอมความ แต่พ่อของเด็กสาวเรียกเงิน 5 แสน จึงตกลงกันไม่ได้
ขณะที่ อดีต ส.ท. ที่ถูกกล่าวหา อ้างว่าไม่เคยรู้จักสาวคนนี้มาก่อน แต่ยอมรับว่ามีปัญหากับผู้เป็นพ่อของเหยื่อ แล้วพ่อได้สร้างเรื่องเพื่อให้ตนเสื่อมเสีย ตนจะไปสาบานทุกที่ เพราะยืนยันว่าไม่ได้ก่อเหตุ
ด้าน พ.ต.อ. อุกฤษ ภู่กลั่น รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลพบุรี เผยว่า ผู้เสียหายให้การว่ามีผู้ร่วมก่อเหตุทั้งหมด 12 คน จำหน้าได้ 11 คน เนื่องจากทุกคนเป็นกลุ่มเพื่อนแฟนของผู้เสียหาย ส่วนคนที่ 12 ทางผู้เสียหายอ้างว่าจำหน้าไม่ได้ แต่เพิ่งจะจำเสียงของผู้ก่อเหตุได้ว่าเป็นอดีต ส.ท. จากนี้ทางตำรวจก็จะเรียกให้พ่อและผู้เสียหายมาให้ปากคำเพิ่มเติมเพื่อหาข้อมูลและหลักฐานเอาผิดผู้กระทำผิดที่เหลือ หากพบว่ากระทำผิดจริงจะลงโทษตามกฎหมายโดยไม่มีละเว้น
