คุณหญิงหลุยส์ พันธุ์เครือ อดีตภรรยาบิ๊กจิ๋ว หรือ พล.อ. ชวลิต ยงใจยุทธ แจงรายละเอียดประเด็น หย่าอดีตสามี ชี้แจงเหตุผลตอบทุกประเด็น เผย ก่อนหย่าไม่เคยรู้ อดีตสามีมีหญิงอื่นนานเป็น 10 ปี
จากกรณี บิ๊กจิ๋ว หรือ พล.อ. ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ฟ้องร้องอดีตภรรยา คุณหญิงหลุยส์ พันธุ์เครือ ยงใจยุทธ เรียกคืนทรัพย์สิน เนื่องจากไม่พอใจที่อดีตภรรยานำบ้านที่ จ.นครพนม ไปขายและจำนอง อีกทั้งยังต้องการให้อีกฝ่ายกลับไปใช้นามสกุลเดิม ไม่ให้ใช้นามสกุล ยงใจยุทธ เพราะอย่ากันไปแล้ว ถือเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง
อ่านข่าว : บิ๊กจิ๋ว เปิดปากปมหย่าคุณหญิงหลุยส์ ตอบชัด...ทำไมต้องฟ้องเรียกทรัพย์สินคืน
เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว ล่าสุด (14 กุมภาพันธ์ 2564) รายการเรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์ รายงานว่า ทางด้านคุณหญิงพันธุ์เครือ ได้ออกเอกสารชี้แจงเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้น ตอบข้อสงสัยทุกประเด็น โดยใจความระบุว่า คุณหญิงพันธุ์เครือ ได้แต่งงานกับ พล.อ. ชวลิต มานานเป็นเวลา 51 ปี 3 เดือน จนกระทั่งวันที่หย่า พล.อ. ชวลิต ให้เหตุผลว่า ต้องการกลับไปเล่นการเมือง เกรงว่าจะมีผลกระทบต่อทรัพย์สินของคุณหญิง จึงให้จดทะเบียนหย่ากันไปก่อน
คุณหญิงพันธุ์เครือ ระบุว่า เชื่อใจอดีตสามีจึงยอมเซ็นใบหย่า ไม่เคยทราบมาก่อนว่า พล.อ. ชวลิต จะมีผู้หญิงคนอื่นคอยมาดูแลนานกว่า 10 ปี ก่อนที่จะหย่ากัน ส่วนตัวเธอเองนั้น ไม่มีเหตุผลใดที่จะหย่าขาดกับอดีตสามี ที่ผ่านมาพยายามทำหน้าที่ของภรรยาที่ดีมาโดยตลอด ช่วยเหลือทุกทาง ไม่เคยทำให้เสื่อมเสียเกียรติ แต่หลังจากจดทะเบียนหย่าได้ 8 เดือน พล.อ. ชวลิต กลับประกาศแต่งงานใหม่กับหญิงรายดังกล่าว
ส่วนเรื่องที่อดีตสามีกล่าวหาว่า ตอนที่เขาประสบเหตุล้ม แล้วตนไม่ได้ดูแลเอาใจใส่นั้น คุณหญิงพันธุ์เครือยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง ตนและบุตรชายคนโตได้ร่วมกันดูแลรักษาพยาบาลพล.อ. ชวลิต และตนได้ทำหน้าที่ภรรยาอย่างครบถ้วน
เรื่องของทรัพย์สิน ในการหย่าได้มีการทำข้อตกลงไว้ 3 ข้อ ข้อสำคัญระบุว่า ทรัพย์ที่ได้มาระหว่างการสมรส และหรือสินสมรส ขอยกให้เป็นกรรมสิทธิ์ของคุณหญิงพันธุ์เครือแต่เพียงฝ่ายเดียว
ประเด็นเรื่องบ้านที่ พล.อ. ชวลิต ให้สัมภาษณ์กับสื่อมี 2 หลัง หลังแรก บ้านปิ่นประชาคม ที่ดินของบ้านหลังนี้ตนเป็นคนผ่อนเอง หลังจากผ่อนที่ดินแปลงแรกเสร็จ ก็นำเอาที่เดินแปลงอื่นไปขายและจำนอง ทำกำไรที่ดิน เงินส่วนหนึ่งก็เอามาช่วยเหลือเรื่องหน้าที่การงานของอดีตสามี
ส่วนบ้านอีกหลังที่ จ.นครพนม พร้อมที่ดิน 3 แปลง คุณหญิงพันธุ์เครือ ระบุว่า ตนเป็นคนดูแลบริวารทั้งหมดของอดีตสามีมาโดยตลอด มีการเปลี่ยนชื่อย้ายโอนทรัพย์สินต่าง ๆ แต่ท้ายที่สุดทรัพย์สินทั้งหมดก็กลับมาเป็นชื่อของตน
คุณหญิงพันธุ์เครือ เผยว่า ทรัพย์สินทั้งหมดเป็นไปตามข้อตกลงและตามกฎหมาย และยืนยันว่าคำชี้แจงทั้งหมดด้วยศักดิ์ศรีของความเป็นคุณหญิง อย่างไรก็ดี ข้อเท็จจริงทั้งหมดจะอยู่ในการพิจารณาคดีในชั้นศาล ซึ่งมีนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ นี้
ขอบคุณข้อมูลจาก เรื่องเล่าเช้านี้
อ่านข่าว : บิ๊กจิ๋ว เปิดปากปมหย่าคุณหญิงหลุยส์ ตอบชัด...ทำไมต้องฟ้องเรียกทรัพย์สินคืน
เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว ล่าสุด (14 กุมภาพันธ์ 2564) รายการเรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์ รายงานว่า ทางด้านคุณหญิงพันธุ์เครือ ได้ออกเอกสารชี้แจงเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้น ตอบข้อสงสัยทุกประเด็น โดยใจความระบุว่า คุณหญิงพันธุ์เครือ ได้แต่งงานกับ พล.อ. ชวลิต มานานเป็นเวลา 51 ปี 3 เดือน จนกระทั่งวันที่หย่า พล.อ. ชวลิต ให้เหตุผลว่า ต้องการกลับไปเล่นการเมือง เกรงว่าจะมีผลกระทบต่อทรัพย์สินของคุณหญิง จึงให้จดทะเบียนหย่ากันไปก่อน
คุณหญิงพันธุ์เครือ ระบุว่า เชื่อใจอดีตสามีจึงยอมเซ็นใบหย่า ไม่เคยทราบมาก่อนว่า พล.อ. ชวลิต จะมีผู้หญิงคนอื่นคอยมาดูแลนานกว่า 10 ปี ก่อนที่จะหย่ากัน ส่วนตัวเธอเองนั้น ไม่มีเหตุผลใดที่จะหย่าขาดกับอดีตสามี ที่ผ่านมาพยายามทำหน้าที่ของภรรยาที่ดีมาโดยตลอด ช่วยเหลือทุกทาง ไม่เคยทำให้เสื่อมเสียเกียรติ แต่หลังจากจดทะเบียนหย่าได้ 8 เดือน พล.อ. ชวลิต กลับประกาศแต่งงานใหม่กับหญิงรายดังกล่าว
ส่วนเรื่องที่อดีตสามีกล่าวหาว่า ตอนที่เขาประสบเหตุล้ม แล้วตนไม่ได้ดูแลเอาใจใส่นั้น คุณหญิงพันธุ์เครือยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง ตนและบุตรชายคนโตได้ร่วมกันดูแลรักษาพยาบาลพล.อ. ชวลิต และตนได้ทำหน้าที่ภรรยาอย่างครบถ้วน
เรื่องของทรัพย์สิน ในการหย่าได้มีการทำข้อตกลงไว้ 3 ข้อ ข้อสำคัญระบุว่า ทรัพย์ที่ได้มาระหว่างการสมรส และหรือสินสมรส ขอยกให้เป็นกรรมสิทธิ์ของคุณหญิงพันธุ์เครือแต่เพียงฝ่ายเดียว
ประเด็นเรื่องบ้านที่ พล.อ. ชวลิต ให้สัมภาษณ์กับสื่อมี 2 หลัง หลังแรก บ้านปิ่นประชาคม ที่ดินของบ้านหลังนี้ตนเป็นคนผ่อนเอง หลังจากผ่อนที่ดินแปลงแรกเสร็จ ก็นำเอาที่เดินแปลงอื่นไปขายและจำนอง ทำกำไรที่ดิน เงินส่วนหนึ่งก็เอามาช่วยเหลือเรื่องหน้าที่การงานของอดีตสามี
ส่วนบ้านอีกหลังที่ จ.นครพนม พร้อมที่ดิน 3 แปลง คุณหญิงพันธุ์เครือ ระบุว่า ตนเป็นคนดูแลบริวารทั้งหมดของอดีตสามีมาโดยตลอด มีการเปลี่ยนชื่อย้ายโอนทรัพย์สินต่าง ๆ แต่ท้ายที่สุดทรัพย์สินทั้งหมดก็กลับมาเป็นชื่อของตน
คุณหญิงพันธุ์เครือ เผยว่า ทรัพย์สินทั้งหมดเป็นไปตามข้อตกลงและตามกฎหมาย และยืนยันว่าคำชี้แจงทั้งหมดด้วยศักดิ์ศรีของความเป็นคุณหญิง อย่างไรก็ดี ข้อเท็จจริงทั้งหมดจะอยู่ในการพิจารณาคดีในชั้นศาล ซึ่งมีนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ นี้
ขอบคุณข้อมูลจาก เรื่องเล่าเช้านี้
