เปิดเรื่องราวสุดซึ้ง รูปแต่งงานยายวัย 85 ปี กับ หนุ่ม 24 ปี ที่ความจริงไม่ได้เป็นอย่างที่คิด แถมสุดอุ่นใจ
เมื่อเร็ว ๆ นี้ ภาพงานแต่งงานของหญิงชรา วัย 85 ปี กับชายหนุ่มที่อายุห่างกัน 61 ปี ได้ถูกแชร์ไปทั่งสังคมออนไลน์ของจีน ทำให้ผู้ที่เห็นภาพเกิดความรู้สึกแตกต่างกันไป รวมทั้งความรู้สึกในเชิงลบ ชนิดที่ง้างมือเตรียมคอมเมนต์ดราม่า เพราะความอคติคิดว่าไม่เหมาะสม
แต่เมื่อทุกคนได้อ่านเรื่องราวทั้งหมด จนได้รับรู้ความจริงที่อยู่เบื้องหลังภาพนี้ พายุดราม่าก็สลายไป กลายเป็นความรู้สึกซึ้งใจยากจะบรรยายที่จุกอยู่ในใจจนทำให้น้ำตาซึม
สตอรี่กินใจของ ยาย และ ชายหนุ่มคนนี้ ถูกหยิบมารายงานโดย เว็บไซต์เวิลด์ออฟบัซ เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564 โดยย้อนกลับไปในปี 2526 หญิงแซ่ถัง ผู้อาศัยอยู่ในมณฑลเจียงซี ทางตะวันออกของจีน พบเห็นเด็กทารกมากมายถูกทอดทิ้งอยู่ตามโรงพยาบาลและข้างถนน เธอรู้สึกสงสารและตัดสินใจรับเด็กเหล่านี้มาดูแล
ถัง จะเลี้ยงดูทารกทุกคนจนเติบโตแข็งแรงถึงวัยที่เหมาะสม ก่อนจะส่งต่อให้กับหน่วยงานหรือมูลนิธิเด็กกำพร้าเพื่อให้เด็ก ๆ เข้าสู่กระบวนการรับอุปการะและหาบ้านที่อบอุ่นอยู่ แต่ถ้าหากทารกคนไหนร่างกายอ่อนแอ ถังจะเลี้ยงเด็กเหล่านี้ต่อไปเป็นลูกบุญธรรม แต่ให้ความรักเปรียบเสมือนลูกแท้ ๆ
จนกระทั่งเวลาผ่านไป 24 ปี ตอนที่ถังอายุ 61 ปี เธอได้รับเด็กชาย-หญิง 2 พี่น้องมาเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรมเพิ่ม ซึ่งสองพี่น้องแซ่จาง จะเรียกถังว่า อาม่า ด้วยความเคารพรัก รวมแล้วถังมีลูก 11 คน เป็นลูกแท้ ๆ ของตัวเองกับสามี 5 คน และลูกบุญธรรม 6 คน
แน่นอนว่าการเลี้ยงเด็กมากขนาดนี้ไม่ใช่งานง่าย ถังกับสามีพึ่งพาเงินบำนาญและรายได้จากการขายผักในการเลี้ยงดูปากท้องครอบครัวขนาดใหญ่นี้ แต่มันไม่ก็เพียงพอ ทำให้ความเป็นอยู่เป็นไปอย่างยากลำบากมากขึ้นทุกวัน
แต่แล้วในปี 2544 สำนักงานดับเพลิงอำเภอเฝินอี้ ได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ ด้วยการให้ทุนการศึกษากับสองพี่น้องจาง โดยพี่สาวจบมหาวิทยาลัยในปี 2556 ส่วนน้องชายจบมัธยมในปี 2559 แต่เขาตัดสินใจไม่เรียนต่อ เพราะอยากเข้ากองทัพรับใช้ชาติ
ต่อมา จางกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของหน่วยงานดับเพลิงด้วย เขาปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยมจนได้รับโล่รางวัลเกียรติยศ เขาทำงานหนักมาก จนไม่มีเวลาให้ครอบครัว แต่เขาก็พยายามกลับบ้านให้ได้ทุกครั้งในวันหยุดเพื่อดูแลอาม่า
ชายหนุ่มรู้มาตลอดว่าอาม่าเป็นคนรักสวยรักงามมาก แต่เธอไม่เคยมีเวลาแต่งเนื้อแต่งตัว แทบไม่ได้สวมเสื้อผ้าสวย ๆ และไม่เคยมีโอกาสสวมชุดแต่งงานเลยสักครั้ง ด้วยเหตุนี้ จางจึงตัดสินใจใช้วันหยุดวันประจำปีในเดือนพฤษภาคม 2563 วางแผนเซอร์ไพรส์อาม่าและอากง ด้วยการถ่ายภาพงานวิวาห์ ย้อนวันหวานให้พวกเขาทั้งสอง
แต่พอถึงวันถ่ายรูป อากงไม่สามารถมาได้ เนื่องจากปัญหาสุขภาพ จางจึงตัดสินใจสวมเครื่องแบบและรับหน้าที่เป็นเจ้าบ่าวให้กับอาม่า โดยเขาเล่าว่า อาม่าประหม่าไม่น้อย แต่ก็มีความสุขมาก และในช่วงตรุษจีนที่ผ่านมา หน่วยดับเพลิงก็ได้เชิญอาม่าไปร่วมงานเลี้ยงฉลองด้วย
จาง เปิดเผยกับสื่อท้องถิ่นว่า แม้ว่าอาม่าถังจะเรียนจบแค่ชั้นประถมศึกษา แต่เขาได้รับบทเรียนชีวิตมากมายจากเธอ ทั้งการเป็นผู้ให้ การเห็นอกเห็นใจผู้อื่น การเป็นผู้มีเมตตา ซึ่งเขาภาคภูมิใจมากที่ได้เรียนรู้สิ่งเหล่านี้จากเธอ
จาง กล่าวอีกว่า ตอนนี้เขาประสบความสำเร็จในชีวิตและไม่ต้องการสิ่งใดอีกแล้ว นอกจากการได้เห็นอาม่าสุขภาพแข็งแรงตลอดไป และหวังว่าจะมีเวลามากขึ้นเพื่อดูแลเธอ
เรื่องราวของจางและอาม่า กลายเป็นเรื่องไวรัลไปทั่วอินเทอร์เน็ต และทำให้ทุกคนซาบซึ้งไปกับหัวใจที่ยิ่งใหญ่ของอาม่าและความรักของจางที่มีต่อผู้มีพระคุณ จนน้ำตาซึมไปตาม ๆ กัน
ขอบคุณข้อมูลจาก World of Buzz
แต่เมื่อทุกคนได้อ่านเรื่องราวทั้งหมด จนได้รับรู้ความจริงที่อยู่เบื้องหลังภาพนี้ พายุดราม่าก็สลายไป กลายเป็นความรู้สึกซึ้งใจยากจะบรรยายที่จุกอยู่ในใจจนทำให้น้ำตาซึม
ถัง จะเลี้ยงดูทารกทุกคนจนเติบโตแข็งแรงถึงวัยที่เหมาะสม ก่อนจะส่งต่อให้กับหน่วยงานหรือมูลนิธิเด็กกำพร้าเพื่อให้เด็ก ๆ เข้าสู่กระบวนการรับอุปการะและหาบ้านที่อบอุ่นอยู่ แต่ถ้าหากทารกคนไหนร่างกายอ่อนแอ ถังจะเลี้ยงเด็กเหล่านี้ต่อไปเป็นลูกบุญธรรม แต่ให้ความรักเปรียบเสมือนลูกแท้ ๆ
จนกระทั่งเวลาผ่านไป 24 ปี ตอนที่ถังอายุ 61 ปี เธอได้รับเด็กชาย-หญิง 2 พี่น้องมาเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรมเพิ่ม ซึ่งสองพี่น้องแซ่จาง จะเรียกถังว่า อาม่า ด้วยความเคารพรัก รวมแล้วถังมีลูก 11 คน เป็นลูกแท้ ๆ ของตัวเองกับสามี 5 คน และลูกบุญธรรม 6 คน
แต่แล้วในปี 2544 สำนักงานดับเพลิงอำเภอเฝินอี้ ได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ ด้วยการให้ทุนการศึกษากับสองพี่น้องจาง โดยพี่สาวจบมหาวิทยาลัยในปี 2556 ส่วนน้องชายจบมัธยมในปี 2559 แต่เขาตัดสินใจไม่เรียนต่อ เพราะอยากเข้ากองทัพรับใช้ชาติ
จาง เปิดเผยกับสื่อท้องถิ่นว่า แม้ว่าอาม่าถังจะเรียนจบแค่ชั้นประถมศึกษา แต่เขาได้รับบทเรียนชีวิตมากมายจากเธอ ทั้งการเป็นผู้ให้ การเห็นอกเห็นใจผู้อื่น การเป็นผู้มีเมตตา ซึ่งเขาภาคภูมิใจมากที่ได้เรียนรู้สิ่งเหล่านี้จากเธอ
"อาม่าเป็นผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่แบกรับภาระหนักอึ้งมากมายไว้บนสองบ่าของเธอ เธอเป็นสตรีที่มีจิตใจแข็งแกร่งมากครับ" จาง กล่าว
เรื่องราวของจางและอาม่า กลายเป็นเรื่องไวรัลไปทั่วอินเทอร์เน็ต และทำให้ทุกคนซาบซึ้งไปกับหัวใจที่ยิ่งใหญ่ของอาม่าและความรักของจางที่มีต่อผู้มีพระคุณ จนน้ำตาซึมไปตาม ๆ กัน
ภาพจาก Oriental Daily