ม็อบตำรวจล้มช้าง รวมตัวแยกราชประสงค์ ก่อนเคลื่อนขบวนไปหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีปราศรัย - จัดกิจกรรม Clubhouse Offline หัวข้อสถาบันตำรวจ
![ม็อบตำรวจล้มช้าง]( "ม็อบตำรวจล้มช้าง")
ภาพจาก สำนักข่าว INN
วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2564 สำนักข่าว INN มีรายงานว่า กลุ่มผู้ชุมนุม ม็อบตำรวจล้มช้าง ได้มารวมตัวบริเวณสี่แยกราชประสงค์ ตั้งแต่เวลา 16.00 น. ก่อนที่ นายธัชพงศ์ แกดำ หรือ บอย ได้ประกาศนำมวลชนเคลื่อนขบวนไปหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ในเวลา 18.00 น. โดยจะนำสติ๊กเกอร์รูปช้าง ไปติดด้านหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
โดยกลุ่มผู้ชุมนุมได้ตั้งขบวนโดยมีป้ายข้อความระบุคำว่า "ตั๋วช้าง" และบางส่วนได้แต่งตัวมาสคอตรูปช้างเพื่อเดินนำขบวนโดยเมื่อไปถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะไปพูดคุยกับตำรวจด้วยดี เกี่ยวกับการแต่งตั้งโยกย้ายไม่เป็นธรรมโดยเฉพาะตำรวจที่มีตั๋วช้าง ซึ่งมองว่าเป็นสิ่งที่ทำให้กลไกไม่เป็นไปตามทำนองครองธรรมและตำรวจน้ำดีไม่ได้รับการแต่งตั้งตามที่ควรได้รับ
![ม็อบตำรวจล้มช้าง]( "ม็อบตำรวจล้มช้าง")
ภาพจาก สำนักข่าว INN
ต่อมาแกนนำได้ผลัดกันขึ้นปราศรัยบนรถขยายเสียงเกี่ยวกับการแต่งตั้งโยกย้ายไม่เป็นธรรม โดยเฉพาะตำรวจชั้นผู้น้อยที่ถูกปฏิบัติอย่างไม่เท่าเทียมและต้องปฎิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาพร้อมปราศรัยชื่นชม นายรังสิมันต์ โรมต์ ส.ส.ฝ่ายค้าน ที่อภิปรายในสภาเกี่ยวกับตั๋วช้าง โดยเฉพาะ "พล.ต.ท." อักษรย่อ ต.เต่า ที่อ้างว่าได้รับการแต่งตั้งอย่างรวดเร็ว ต่างกับตำรวจหลายนายที่รับราชการมานานแต่ไม่ได้รับการแต่งตั้ง และยังปราศรัยเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับตำรวจที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม โดยมีมวลชนนั่งฟังการปราศรัยบนผิวถนนพร้อมกับตีหม้อชามกะละมังและส่งเสียงให้กำลังใจเป็นระยะ
ส่วนด้านหน้าประตูทางเข้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีกำลังตำรวจชุดควบคุมฝูงชนพร้อมโล่ ยืนรักษาความปลอดภัยและนำแผงเหล็กมากั้นระหว่างผู้ชุมนุม เพื่อรักษาความเรียบร้อยป้องกันไม่ให้มีการรุกล้ำหรือบุกเข้าไปด้านในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
![ม็อบตำรวจล้มช้าง]( "ม็อบตำรวจล้มช้าง")
ภาพจาก สำนักข่าว INN
ทางด้าน พ.ต.อ. พันษา อมราพิทักษ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลปทุมวัน ได้อ่านประกาศให้ยุติการชุมนุม หน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ซึ่งผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.ควบคุมโรค เนื่องจากอยู่ในช่วงระบาดของโควิด 19
เมื่อเวลาประมาณ 19.30 น. กลุ่มผู้ชุมนุมปักหลักปราศรัยหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ภายใต้จัดกิจกรรมม็อบล้มช้างอย่างต่อเนื่อง โดยนอกจากแกนนำจะสลับกันปราศรัยแล้ว ยังมีการจัดกิจกรรม Clubhouse Offline ซึ่งมีกติกาการเล่นเหมือนกับ Clubhouse ที่กำลังเป็นที่นิยมอยู่ในขณะนี้ ด้วยการเปิดโอกาสให้ผู้ร่วมชุมนุมยกมือเพื่อแสดงความเห็นคนละ 2-3 นาที ในหัวข้อ "สถาบันตำรวจ" ซึ่งมีผู้ชุมนุมให้ความสนใจร่วมแสดงความคิดเห็นอย่างคึกคัก
![ม็อบตำรวจล้มช้าง]( "ม็อบตำรวจล้มช้าง")
ภาพจาก สำนักข่าว INN
นอกจากนี้ยังมีการอ่านจดหมายถึงข้าราชการตำรวจชั้นผู้น้อยที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมทั้งการปฏิบัติหน้าที่และการแต่งตั้งโยกย้าย และเรียกร้องให้ออกมาร่วมต่อสู้กับประชาชน รวมถึงแจกตั๋วช้าง และแผ่นซีดีให้ผู้ชุมนุมนำไปติดและแขวนไว้บริเวณรั้วเหล็กด้านหน้าแนวตำรวจ เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ตำรวจล้มช้าง และยังมีการแจกบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป (ยำยำช้างน้อย) ให้กับกลุ่มผู้ชุมนุมด้วย รวมถึงเขียนโพสต์-อิทติดป้ายไว้นิล ส.ต.ช.
จากนั้นเวลา 20.30 น. นายธัชพงศ์ แกดำ หรือบอย ได้ปราศรัยเป็นคนสุดท้าย โดยยังคงเรียกร้องให้มีการปล่อยตัว 4 แกนนำและย้ำจุดยืน 3 ข้อเรียกร้อง พร้อมกับนำผู้ชุมนุมร่วมร้องเพลงช้าง ก่อนประกาศยุติการชุมนุม ขอให้มวลชนเดินทางกลับ
![ม็อบตำรวจล้มช้าง]( "ม็อบตำรวจล้มช้าง")
ภาพจาก สำนักข่าว INN
![ม็อบตำรวจล้มช้าง]( "ม็อบตำรวจล้มช้าง")
ภาพจาก สำนักข่าว INN
![ม็อบตำรวจล้มช้าง]( "ม็อบตำรวจล้มช้าง")
ภาพจาก สำนักข่าว INN
ข้อมูลจาก สำนักข่าว INN
ภาพจาก สำนักข่าว INN
วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2564 สำนักข่าว INN มีรายงานว่า กลุ่มผู้ชุมนุม ม็อบตำรวจล้มช้าง ได้มารวมตัวบริเวณสี่แยกราชประสงค์ ตั้งแต่เวลา 16.00 น. ก่อนที่ นายธัชพงศ์ แกดำ หรือ บอย ได้ประกาศนำมวลชนเคลื่อนขบวนไปหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ในเวลา 18.00 น. โดยจะนำสติ๊กเกอร์รูปช้าง ไปติดด้านหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
โดยกลุ่มผู้ชุมนุมได้ตั้งขบวนโดยมีป้ายข้อความระบุคำว่า "ตั๋วช้าง" และบางส่วนได้แต่งตัวมาสคอตรูปช้างเพื่อเดินนำขบวนโดยเมื่อไปถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะไปพูดคุยกับตำรวจด้วยดี เกี่ยวกับการแต่งตั้งโยกย้ายไม่เป็นธรรมโดยเฉพาะตำรวจที่มีตั๋วช้าง ซึ่งมองว่าเป็นสิ่งที่ทำให้กลไกไม่เป็นไปตามทำนองครองธรรมและตำรวจน้ำดีไม่ได้รับการแต่งตั้งตามที่ควรได้รับ
ภาพจาก สำนักข่าว INN
ต่อมาแกนนำได้ผลัดกันขึ้นปราศรัยบนรถขยายเสียงเกี่ยวกับการแต่งตั้งโยกย้ายไม่เป็นธรรม โดยเฉพาะตำรวจชั้นผู้น้อยที่ถูกปฏิบัติอย่างไม่เท่าเทียมและต้องปฎิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาพร้อมปราศรัยชื่นชม นายรังสิมันต์ โรมต์ ส.ส.ฝ่ายค้าน ที่อภิปรายในสภาเกี่ยวกับตั๋วช้าง โดยเฉพาะ "พล.ต.ท." อักษรย่อ ต.เต่า ที่อ้างว่าได้รับการแต่งตั้งอย่างรวดเร็ว ต่างกับตำรวจหลายนายที่รับราชการมานานแต่ไม่ได้รับการแต่งตั้ง และยังปราศรัยเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับตำรวจที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม โดยมีมวลชนนั่งฟังการปราศรัยบนผิวถนนพร้อมกับตีหม้อชามกะละมังและส่งเสียงให้กำลังใจเป็นระยะ
ส่วนด้านหน้าประตูทางเข้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีกำลังตำรวจชุดควบคุมฝูงชนพร้อมโล่ ยืนรักษาความปลอดภัยและนำแผงเหล็กมากั้นระหว่างผู้ชุมนุม เพื่อรักษาความเรียบร้อยป้องกันไม่ให้มีการรุกล้ำหรือบุกเข้าไปด้านในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
ภาพจาก สำนักข่าว INN
ทางด้าน พ.ต.อ. พันษา อมราพิทักษ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลปทุมวัน ได้อ่านประกาศให้ยุติการชุมนุม หน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ซึ่งผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.ควบคุมโรค เนื่องจากอยู่ในช่วงระบาดของโควิด 19
เมื่อเวลาประมาณ 19.30 น. กลุ่มผู้ชุมนุมปักหลักปราศรัยหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ภายใต้จัดกิจกรรมม็อบล้มช้างอย่างต่อเนื่อง โดยนอกจากแกนนำจะสลับกันปราศรัยแล้ว ยังมีการจัดกิจกรรม Clubhouse Offline ซึ่งมีกติกาการเล่นเหมือนกับ Clubhouse ที่กำลังเป็นที่นิยมอยู่ในขณะนี้ ด้วยการเปิดโอกาสให้ผู้ร่วมชุมนุมยกมือเพื่อแสดงความเห็นคนละ 2-3 นาที ในหัวข้อ "สถาบันตำรวจ" ซึ่งมีผู้ชุมนุมให้ความสนใจร่วมแสดงความคิดเห็นอย่างคึกคัก
ภาพจาก สำนักข่าว INN
นอกจากนี้ยังมีการอ่านจดหมายถึงข้าราชการตำรวจชั้นผู้น้อยที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมทั้งการปฏิบัติหน้าที่และการแต่งตั้งโยกย้าย และเรียกร้องให้ออกมาร่วมต่อสู้กับประชาชน รวมถึงแจกตั๋วช้าง และแผ่นซีดีให้ผู้ชุมนุมนำไปติดและแขวนไว้บริเวณรั้วเหล็กด้านหน้าแนวตำรวจ เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ตำรวจล้มช้าง และยังมีการแจกบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป (ยำยำช้างน้อย) ให้กับกลุ่มผู้ชุมนุมด้วย รวมถึงเขียนโพสต์-อิทติดป้ายไว้นิล ส.ต.ช.
จากนั้นเวลา 20.30 น. นายธัชพงศ์ แกดำ หรือบอย ได้ปราศรัยเป็นคนสุดท้าย โดยยังคงเรียกร้องให้มีการปล่อยตัว 4 แกนนำและย้ำจุดยืน 3 ข้อเรียกร้อง พร้อมกับนำผู้ชุมนุมร่วมร้องเพลงช้าง ก่อนประกาศยุติการชุมนุม ขอให้มวลชนเดินทางกลับ
ภาพจาก สำนักข่าว INN
ภาพจาก สำนักข่าว INN
ภาพจาก สำนักข่าว INN
