ด.ญ. กตัญญูวัย 12 ประกาศขายไตหาเงินช่วยแม่ - แม่เล่านาทีคิดดับยกครัว ลูกพูดหนูพร้อมตาย

          เปิดชีวิตเด็กกตัญญูวัย 12 ประกาศขายไตหาเงินช่วยแม่ใช้หนี้นอกระบบ ดอกงอกเป็น 5 แสน ด้านแม่ร่ำไห้เล่านาทีชีวิต คิดฆ่าตัวตายยกครัว ได้ลูกดึงสติบอกหนูพร้อมตาย แต่น้องยังเล็กอยู่เลยนะแม่


          จากกรณีที่เด็กหญิง อายุ 12 ปี กตัญญูรักแม่ แม่ป่วย ขาเดินไม่สะดวกเพราะประสบอุบัติเหตุ มีน้องเล็กมากต้องกินนม กินข้าว  แต่บ้านไม่มีเงิน พ่อก็แยกทางกับคุณแม่ไป แม่ไปกู้หนี้นอกระบบเพื่อรักษาตัวเอง ซื้อข้าวซื้อนมให้ลูก สุดท้ายหนี้นอกระบบดอกงอกจาก 1 แสน เป็น 5 แสน แม่คิดทำร้ายตัวเอง แต่เด็กคนนี้ห้ามแม่ แม่เคยประกาศขายไต เด็กบอกว่าทำแบบนี้ไม่ได้ ขอขายไตแทน

          รายการ โหนกระแส วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2564 เผยสัมภาษณ์ น้องมาย (นามสมมติ) และแม่มด แม่น้องมาย พร้อมด้วย นางสาวแรมรุ้ง วรวัธ รองปลัดกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม. ) นายฐานวัฒน์ พรนิธิดลวัฒน์ ผู้ปกครองสถานวสงเคราะห์เด็กชายบ้านมหาเมฆ กรมกิจการเด็กและเยาวชน และนายปรเมศว์ มีสมภพ กู้ภัยที่ลงพื้นที่ไปเจอครอบครัวนี้


อยากเชิดชูน้องเพราะกตัญญูจริง ๆ แม่อายุเท่าไหร่ ?

          แม่ : 37 ค่ะ แม่มีลูก 2 คน น้องมายด์อายุ 12 คนเล็ก 3 ขวบครึ่งค่ะ เป็นเด็กหญิงทั้งคู่ค่ะ

เรื่องเกิดอะไรขึ้น  ?

          แม่ : เริ่มตั้งแต่แยกทางกับพ่อน้องมายด์ ตอนนั้นขวบแปดเดือน แม่ทำงานเลี้ยงลูกคนเดียวตลอด ตอนหลังก็ไม่พอ แม่เลยไปทำงานด้วยการร้องเพลง แล้วทิ้งน้องมายด์ไว้ในห้องเช่าคนเดียว ตอนนั้นน้องขวบแปดเดือน โดยแม่ชงนมไว้ 2 ขวด ตรงหัวนอนเขา ด้วยความเขาเป็นเด็กที่รู้ว่าต้องเอื้อมนมตรงนี้เอามาเข้าปากแล้วก็หลับต่อ ประมาณตีสอง ตีสามกลับมาถึงบ้าน ก็เห็นนมหมดขวดและเขายังหลับอยู่ ทำแบบนี้เกือบปี จนเขาสามารถไปอยู่เนอร์สเซอรี่ได้ ก็ส่งเขาไปอยู่เนอร์สเซอรี่

ล่าสุดเหตุการณ์เกิดอะไรขึ้น แม่มีน้องอีกคนด้วย ?

          แม่ : ก็ไปพบพ่อของน้องที่่ทำงานด้วยกัน ก็ชอบกัน ทางบ้านไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไหร่ เนื่องจากเขาเป็นพ่อม่ายมีลูกติดแล้ว แต่ลูกเขาอยู่กับภรรยาเก่า จนมาใช้ชีวิตด้วยกัน เคยหย่าร้างกันไปครั้งนึง จนครอบครัวเหมือนให้อภัยอีกครั้งเดียวนะ ถ้ากลับไปคืนดีกันอีก จะไม่ขอรับรู้อะไร


เรากับคุณพ่อน้องคนเล็กก็แยกทางกัน เราเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวลูกสองคน หลังจากนั้นคุณแม่ทราบว่าตัวเองป่วย ?

          แม่ : ตอนแรกคิดว่าเป็นอาการวูบธรรมดา พักผ่อนน้อย คิดว่าวูบเวียนหัว ก็ทานยาเอา จนไปโรงพยาบาล หมอบอกว่าเป็นโรคเลือดจาง ธาลัสซีเมีย เฮอร์โมโกลบินอี จะหนักถ้าเราขับรถหรือทำงานที่สูง หรืออะไรที่เสี่ยงกับอุบัติเหตุ จะมีอาการวูบได้

แม่ประสบอุบัติเหตุด้วย ?

          แม่ : ค่ะ เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ไม่วูบค่ะ รถไปเกี่ยวกับสายเคเบิ้ล อยู่หน้าบ้านก็ไปล้มแรงมากหน้าบ้าน ตอนนี้หมอบอกว่าต้องใช้เวลา 3-4 เดือน แต่ต้องดูแลตัวเอง ห้ามยกของหนัก ยังเดินหรือวิ่งไม่ได้เหมือนเดิม

เห็นว่าแม่กู้หนี้นอกระบบมา 1 แสน ?

          แม่ : เอามาแล้วทบขึ้น เราส่ง 2-3 เจ้าไม่พอ กู้ไปเป็นทุนขายของ ขายน้ำปั่น จ่ายค่าเช่าบ้าน ส่งเสียลูกซื้ออาหาร ใช้ชีวิตประจำวัน ค่าเทอม ค่าใช้จ่ายทุกอย่าง เริ่มต้นไม่ถึง 1 แสน แต่หลาย ๆ เจ้ารวมกันขึ้นมาก็เท่านี้

ดอกไม่ได้ถูก แพงมาก ตอนนี้งอกไปเท่าไหร่ ?

          แม่ : รวมต้นรวมดอกกับกู้เพิ่มเจ้าอื่น ๆ มา ก็ตกอยู่ที่ 4 แสนกว่า ถ้าเอาต้นไปจ่าย 1 แสนก็ไม่จบ เพราะดอกมันงอกเป็นต้นไปแล้ว ดอกร้อยละ 20 ค่ะ และมีดอก 100


แม่ต้องดูแลลูก เปิดร้านขายน้ำปั่น ขายเป็นไง ?

          แม่ : พอได้ค่ะ แต่ด้วยความที่บ้านอยู่หน้าโรงเรียน กลุ่มเป้าหมายหลักคือนักเรียน นักศึกษา พอโควิดมาโรงเรียนปิด มหาวิทยาลัยปิด รายได้จากกลุ่มหลักหายไป ก็ทำให้ไม่พอใช้จ่าย แม้แต่การไปจ่ายหนี้ ก็ต้องไปกู้มาเพิ่มอีก

น้องมายด์ช่วยอะไรแม่บ้าง ?

          มาย : มีช่วยแม่ขายของ และเก็บบ้าน เลี้ยงน้องค่ะ


ไปเรียนยังไง ?

          มาย : ทุกเช้าเดินไปโรงเรียนค่ะ กลับมาก็ทำการบ้าน ปกติหนูทำเสร็จในห้องเรียนเลยค่ะ มาช่วยแม่เลย ร้านปิดประมาณ 6 โมงถึง 1 ทุ่มค่ะ เปิดประมาณตี 5 หรือ 6 โมงค่ะ

ครั้งนึงแม่คิดทำร้ายตัวเอง เกิดจากอะไร ?

          แม่ : มันกดดันทุกทางหลายอย่าง เราอยากจบปัญหานี้่ด้วยตัวเอง ไม่อยากให้ใครมาเดือดร้อนกับเราหรือลูกที่ต้องตามมาใช้หนี้กับเรา ปัญหาเกิดจากการที่เราสร้าง ลูกไม่รับรู้อะไร เราอยากจบทุกอย่างแค่นี้ แล้วคิดถึงคุณแม่ที่เพิ่งเสียไป อยากไปหาแม่ (ร้องไห้) ก็เลยตัดสินใจจูงมือกันไปสามแม่ลูก ไปสะพานมันถึงจุดที่สุดแล้ว (ร้องไห้)

          แต่ด้วยความที่ลูกคนโตบอกว่าหนูตามใจแม่นะ หนูไม่ขัดแม่ แต่หนูสงสารน้อง น้องเพิ่ง 3 ขวบ ต้องมาตายแล้วเหรอ แต่ถ้าหนูห้ามแม่ไม่ได้ หนูพร้อมตายกับแม่ แต่ถ้าแม่กลับไปสู้ หนูก็พร้อมกลับไปสู้กับแม่ หนูจะสู้ด้วยกันนะแม่นะ หนูจะไม่ทิ้งแม่ (ร้องไห้) ขอให้หนูทำงานเซเว่นก็ได้ ที่เขาจ้างหนู หนูจะทำทุกอย่าง เขาเคยไปเดินขอตามร้านอาหารในซอยบ้าน ล้างจาน ทำงาน แต่ด้วยเศรษฐกิจไม่ดี เขาก็ไม่จ้าง เขาให้เป็นอาหาร ซึ่งคนในซอยบ้าน เขารู้จักประวัติครอบครัวหนู เขาก็จะเอ็นดูหนู น้องมาย เอาขนม เอาอาหาร เอาไข่มาให้

นั่นคือครั้งได้ฉุกคิด ตอนลูกคนโตอายุ 12 ปี ให้สติเรา ว่าแม่ทำแบบนี้ไม่ได้ เพราะน้องยังเด็กอยู่ ?

          แม่ : แม่กลับมาสู้และรอหนู เขาจะช่วยเราเอง เขาจะไม่ให้แม่เหนื่อย (หัวเราะ) พอได้สติก็เลิกคิดไป

แต่แม่มีเหตุการณ์ต้องหาเงินมาเยียวยาครอบครัว แม่ไปรู้จักเพื่อนบ้านที่เป็นโรคไต เกิดอะไรขึ้น ?

          แม่ : เขาเคยมาซื้อน้ำ หนูเคยเห็นตอนแม่ป่วยเป็นโรคไต เขาจะตัวเหลือง ก็ถามเขาว่าเป็นโรคไตใช่มั้ย เขาบอกว่าใช่ ก็ถามทางญาติว่าอยากขายไตให้พี่ได้มั้ย เพราะเขาค่อนข้างมีฐานะ อย่างน้อยหนูได้ช่วยชีวิตพี่คนนี้ ส่วนพี่เขาก็ได้ช่วยหนู 3 คนแม่ลูก ซึ่งคิดแล้วว่าจะไม่สามารถไปกู้หนี้ยืมสินหรือสร้างหนี้เพิ่ม แต่ถ้าเอาอวัยวะในร่างกายแลกเป็นเงินใช้หนี้ เลี้ยงดูลูกให้เขาไปถึงฝั่งที่สุด หนูก็จะยอม


ปรากฎว่าน้องมายมารู้เรื่องนี้อีกแล้ว ?

          มาย : หนูบอกแม่ว่าแม่ไม่ค่อยแข็งแรง เดี๋ยวหนูขายไตแทนแม่เอง หนูสงสารแม่ค่ะ แม่ก็ไม่ค่อยแข็งแรงด้วย

          แม่ : (ร้องไห้)

รู้มั้ยผิดกฎหมาย ?

          มาย : หนูไม่เคยรู้มาก่อนค่ะ

แม่เคยเขียนป้ายประกาศขายไตหนึ่งข้าง แล้วลูกสาววัย 12 ปี บอกแม่ไม่แข็งแรง แม่มีโรคอยู่ หนูขายเอง หนูก็เขียนขอความเมตตา ต้องการขายไตนำเงินไปใช้หนี้ พี่ปรเมศร์รู้เรื่องนี้ได้ไง ?

          ปรเมศว์ : มีกลุ่มแฟนคลับเขาทราบเรื่องคุณแม่ เขาส่งรูปบนสะพานมาให้ผม หลังเห็นข้อความก็รีบตรวจสอบ ลงพื้นที่ไปดู พอไปถึงบ้านเห็นสภาพเป็นห้องแถวเล็ก ๆ หลายปีก่อนห้องแถว ๆ นี้ถูกไฟไหม้มาแล้ว บ้านแม่ก็ถูกไฟไหม้มาด้วย จากที่ทราบหนี้สินที่เกิด เกิดจากตอนคุณแม่ยังมีชีวิตอยู่ มีการกู้หนี้ยืมสินไปรักษาตัว ปัจจุบันบางวันไม่มีข้าวกิน ต้องไปเอาข้าววัดมาทาน ตอนเย็นก็ข้าวไข่เจียว 3 คนแม่ลูก ระหว่างไปนั่งพูดคุยรายละเอียด ก็มีเจ้าหนี้ 3-4 เจ้าวนตามหาตลอด เราดูเรื่องราวน่าช่วยเหลือ แต่เราก็ให้ความช่วยเหลือส่วนตัวไปแล้ว เป็นเงินจำนวนนึง เราก็บอกคุณแม่รอสักระยะ ระหว่างรอก็ติดต่อพี่หนุ่ม และติดต่อ พม. ให้มาดู และให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น

พม. จะเข้าไปดูแลยังไงได้บ้าง ?

          แรมรุ้ง : พม. มีหน้าที่ในการช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาสังคมทุกประเภท โดยเฉพาะกรณีแม่เลี้ยงเดี่ยว หรือกรณีเด็กแรกเกิด เราก็ต้องปกป้องคุ้มครองให้เด็กเติบโตได้อย่างมีสวัสดิภาพ มีความปลอดภัย มีความอบอุ่น ได้เติบโตตามมาตรฐานอย่างที่เด็กควรจะเป็น ทีนี้กรณีแบบนี้ อยากให้คำแนะนำและบอกว่ากระทรวงจะทำอะไรได้บ้าง หนึ่งเรื่องนี้กระทรวง พม. รับทั้งครอบครัวเพื่อดูแลอย่างต่อเนื่อง กรณีคุณแม่ต้องไปนั่งดูว่าสภาพปัญหาที่แท้จริงคืออะไร เช่น เรื่องคุณแม่อาจมีประเด็นเรื่องอาชีพ มีรายได้ระดับหนึ่ง มีร้านค้าระดับหนึ่งแต่อาจไม่มีรายได้มากพอในการจุนเจือสมาชิกในครอบครัวหรือเรื่องการใช้หนี้

          "ทีนี้ประเด็นเรื่องหนี้นอกระบบ เราก็มีกลไก พม. ทำเองไม่ได้ ต้องทำงานร่วมกับทีมสหวิชาชีพ เราก็ไปเชื่อมโยงกระทรวงยุติธรรม ซึ่งมีศูนย์ประสานงานเรื่องหนี้นอกระบบ วันนี้่เราคุยกันต่อเนื่องเลย คุณแม่ไม่ต้องกังวล ตรงนี้คุณแม่ปลอดภัยแน่นอน"

แม่อาจกลัวเรื่องความไม่ปลอดภัย คุณแรมรุ้งมองยังไง ?

          แรมรุ้ง : ถ้าเข้าสู่กระทรวง พม. กับทีมสหวิชาชีพ เรื่องที่หนึ่งเลย มั่นใจเรื่องความปลอดภัย เพราะเราจะปกป้องคุ้มครองอันดับหนึ่งคือเด็ก สองคือพ่อแม่ที่ต้องดูแลเด็กในครอบครัว ดังนั้นไม่ต้องกังวลเรื่องนี้ ปัญหาเรื่องอาชีพ กระทรวง พม. จะเข้ามาคุยว่าแม่มีความถนัดเรื่องอะไร หรือขยายการประกอบอาชีพอะไรให้มีรายได้เพิ่มขึ้น มีเงินหมุนเวียนดูแลครอบครัวได้ เรื่องเด็ก ๆ อยากบอกว่าน้องต้องชื่นชม เป็นผู้ใหญ่เกินตัว ในการเข้ามารองรับความเจ็บช้ำหรือความคิดของแม่ที่คิดจะทำลายชีวิตตัวเอง แต่จริง ๆ แล้วเด็กก็อยากให้ได้มีการพัฒนาการสมวัย ถึงเวลาได้เรียน ถึงเวลาได้เล่นก็ได้เล่น แต่การแบกรับปัญหาของแม่ทั้งหมดหรือครึ่งนึง ให้ พม. เข้าไปช่วยดีกว่า

          เราจะเข้าไปดูการทำงานของโรงเรียน และหลายเรื่องที่จะเข้ามาสนับสนุน ไม่ว่าจะเงินรายเดือนที่จะให้ดูแลเด็ก และน้องที่อายุไม่ถึง 6 ขวบ พม. ก็มีเงินอุดหนุนเด็กแรกเกิด 600 บาท จนถึง 6 ขวบ คุณแม่สามารถเอาเงินตรงนี้มาสนับสนุนในการเลี้ยงดูได้ในระดับหนึ่ง การสร้างความเข้มแข็งส่วนคุณแม่ก็สำคัญ ถ้าแม่เข้มแข็ง ก็ดูแลครอบครัวได้ ทุกชีวิตมีปัญหา ทุกปัญหามีทางออก แต่บางครั้งเราแก้ไม่ได้ด้วยตัวเอง แต่กลไก พม. มีหลายเรื่องมาก การสงเคราะห์ครอบครัวผู้มีรายได้น้อย ซึ่งเราก็สนับสนุนได้ครั้งละ 3,000 หรือสนับสนุนเด็กในครอบครัวอุปถัมภ์ก็ทำได้หลายเรื่อง

ถ้าขึ้นเบอร์บัญชีให้น้องได้มั้ย เห็นมีคนส่งข้อความมาขอเบอร์บัญชีหน่อย ชื่อบัญชี นางสาวเสาวลักษณ์ นวลเป็นใย ธ.ไทยพาณิชย์ สาขาจรัญสนิทวงศ์ 48 เลขที่บัญชี 121-237700-3 มุมพี่ฐานวัฒน์ ดูแลเรื่องนี้ยังไง ?

          ฐานวัฒน์ : ตัวแม่อาจไม่ทราบสวัสดิการของรัฐ การเข้าถึงสวัสดิการของรัฐ ถ้าในฐานะพนักงานเจ้าหน้าที่ จะทำงานในรูปแบบสหวิชาชีพ กรณีแม่กับน้องต้องดูแลเรื่องสวัสดิการของเด็กก่อน และสวัสดิการของแม่ ทราบว่าผลการเรียนน้องดีมาก


เกรดเท่าไหร่ ?

          มาย : 4.00

          ฐานวัฒน์ : พอการเรียนดี ก็ต้องดูในเรื่องการสนับสนุนต่อ อย่างที่ท่านรองปลัดบอก คงต้องทำงานในรูปแบบสหวิชาชีพ น้องคนเล็กที่บ้านก็ดูเรื่องพัฒนาการด้วย ว่าเหมาะสมหรือไม่ ก็อาจให้ทีมแพทย์ช่วยเหลือ ประเมินภาวะความเครียด ระหว่างตัวน้องและคุณแม่ก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะที่ผ่านมา ทั้งสองคนในครอบครัว เท่าที่ฟังผ่านอะไรมาเยอะพอสมควร ด้วยวัยของน้อง ณ ตอนนี้เราดูว่าน้องเข้มแข็ง แต่อะไรต่าง ๆ อาจทำให้อ่อนแอไปได้

สบายใจขึ้นมั้ย ?

          แม่ : สบายใจค่ะ

มอบรถเข็นให้แม่ เป็นรถเข็นของสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง มอบรถเข็นหมูปิ้งและน้ำปั่นผลไม้ เป็นรถเข็นมีนวัตกรรมและถูกสุขลักษณะด้วย จะเอาไปส่งให้ถึงที่ อันนี้ 1 แสนบาทที่จะมอบให้ก่อน และมีทางมาดามฟินน์ สปอนเซอร์รายการมอบให้อีก 1 แสนบาท เป็นเงินสดที่จะมอบให้ไปใช้หนี้ เดี๋ยวทาง พม. จะลงพื้นที่ไปบ้านของน้อง ?

          แรมรุ้ง : จะดูแลต่อเนื่องค่ะ จนกว่าแม่จะเข้มแข็ง และน้องมีพัฒนาการได้ตามวัย ไม่มีความทุกข์โศกในครอบครัว อยากดูแลต่อเนื่องค่ะ

          ทั้งนี้สามารถติดตามชมรายการ โหนกระแส โดยมี หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย ในฐานะผู้ดำเนินรายการ ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33