เปิดแผนร้าย อดีตลูกจ้างบุกปล้นเถ้าแก่ จ่อขน 30 ล้านหนีเข้าไทย ช็อกถูกตลบหลัง-สังหาร 4 ศพ

จุดเริ่มต้นของแผนการ

        เจ้าหน้าที่สารวัตรทหารระดับสูงที่ทำงานร่วมกับตำรวจเทศบาลพนมเปญ เปิดเผยว่า จากการสอบสวนพบว่า โอม โสวรรณารัต ผู้บงการหลัก เคยทำงานเป็นคนขับรถให้กับเหยื่อเมื่อปี 2562 ก่อนจะถูกเลิกจ้างในปีต่อมา ซึ่งเถ้าแก่ได้เลือกคนขับรถคนใหม่มาทำงานแทนที่

        จนเมื่อต้นปี 2564 โอมได้วิงวอนขอกลับมาทำงานให้เถ้าแก่อีกรอบ แต่ถูกปฏิเสธ จึงเกิดความแค้นและเริ่มวางแผนปล้น โดยเขารวบรวมพรรคพวกมาได้ 3 คน และยังชักจูงคนขับรถคนใหม่ของเถ้าแก่ มาเข้าร่วมแผนการสุดอุกอาจนี้ด้วย

เปิดแผนปล้น - เตรียมหนีเข้าไทย

        ตามแผนที่วางไว้ กลุ่มคนร้ายจะนำอาวุธปืนบุกไปยังคฤหาสน์และใช้ปืนจี้เถ้าแก่ บีบบังคับให้เขียนเช็คเป็นเงิน 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 30 ล้านบาท จากนั้นจะจับลูกสาวคนหนึ่งของเถ้าแก่เป็นตัวประกัน นำตัวขึ้นรถไปยังธนาคารเพื่อนำเช็คไปขึ้นเงิน และเมื่อทางธนาคารโทร. กลับมายืนยันเรื่องการเบิกจ่ายเงินก้อนดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อย คนร้ายซึ่งได้เงินก้อนนั้นมาแล้วก็จะสังหารเถ้าแก่ ภรรยา ลูก 6 คน และแม่บ้าน 2 คน รวมเป็น 10 ศพ

        เมื่อฆ่าปิดปากหมดทั้งบ้านแล้ว พวกเขาจะปล้นเงินและอัญมณีทั้งหมดในคฤหาสน์ ก่อนจะนำศพใส่ถุงพลาสติกขึ้นรถไปทิ้งไว้ในที่รกร้าง และแยกย้ายกันหลบหนี โดยคนร้ายที่เข้าไปถอนเงินออกจากธนาคารจะหนีข้ามแดนมายังประเทศไทย ส่วนคนอื่น ๆ ไม่จำเป็นต้องออกนอกประเทศ

แผนรั่ว เหยื่อรู้ตัวล่วงหน้า

แผนปล้นที่พลิกผัน

        จนกระทั่งวันที่ 1 มีนาคม เวลา 11.00 น. เอที่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ ได้ขับรถพาคนร้ายทั้ง 4 เดินทางมายังคฤหาสน์ของเหยื่อเพื่อดำเนินการตามแผน แต่หลังจอดรถแล้ว แทนที่จะเข้าไปในคฤหาสน์เพื่อรวมกลุ่มกับโอมและพรรคพวก เอกลับทำทีไปปิดประตูทางเข้าคฤหาสน์และรออยู่ด้านนอก ก่อนจะรีบหนีไปจากจุดเกิดเหตุ

        ในตอนที่กลุ่มคนร้ายทั้ง 4 เข้ามาในคฤหาสน์ กองกำลังสารวัตรทหารก็รอพวกเขาอยู่แล้ว เจ้าหน้าที่ตะโกนสั่งให้กลุ่มคนร้ายยอมจำนน แต่พวกเขาปฏิเสธและเริ่มเปิดฉากยิงใส่เจ้าหน้าที่ ทำให้เจ้าหน้าที่ยิงสวนกลับสังหารทั้ง 4 ชีวิตในที่เกิดเหตุ