ทะเลสองห้อง อาถรรพ์เมืองบาดาลโบราณ VS ข้อมูลการแพทย์ ภาวะน้ำหนีบ คืออะไร ?

          ทำความรู้จัก ทะเลสองห้อง หลังครูดำน้ำเสียชีวิต พบเป็นแหล่งดำน้ำสุดท้าทาย ลึกสุดในเอเชีย แถมชาวบ้านเชื่อมีอาถรรพ์ตำนานเมืองบาดาล พร้อมเปิดข้อมูล ภาวะน้ำหนีบ คืออะไร


          กลายเป็นที่พูดถึงกันอีกครั้งสำหรับ ทะเลสองห้อง จ.นครศรีธรรมราช แหล่งน้ำจืดลึกสุดในเอเชีย หลังจากมีข่าวครูสอนดำน้ำชาวไทยวัย 47 ปี เสียชีวิตจากภาวะน้ำหนีบ เมื่อเวลา 16.30 น. ของวันที่ 3 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมา ขณะดำน้ำลึกลงไปเกือบ 80 เมตร ในระยะเวลาไม่ถึงชั่วโมง ทำให้ชาวบ้านเล่าถึงตำนานอาถรรพ์เมืองบาดาลลึกไม่รู้สิ้นไม่รู้สุด และความเชื่อเรื่องพญานาคราชมีอยู่จริง วันนี้เราเลยขอพาทุกคนมาทำความรู้จักกับเรื่องราวของ "ทะเลสองห้อง" กันให้มากขึ้น พร้อมข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ ว่าด้วยเรื่องของ "ภาวะน้ำหนีบ"


ทะเลสองห้อง อยู่ที่ไหน ต้นกำเนิดเกิดจากอะไร ?

          ทะเลสองห้อง คือ แหล่งน้ำจืดมีความลึกที่ยังไม่มีใครสามารถวัดได้และมีถ้ำใต้น้ำ กลายเป็นที่มาของคำว่า "ลึกไม่รู้สิ้นไม่รู้สุด" ตั้งอยู่ใน ต.กรุงหยัน อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช โดยนักวิชาการได้ระบุสัณฐานธรณีวิทยาว่า เกิดจากปล่องภูเขาไฟสมัยดึกดำบรรพ์ที่หมดสภาพไปแล้ว และกลายเป็นโพรงถ้ำลึกที่มีน้ำท่วมขัง คาดการณ์ว่าแหล่งน้ำนี้มีความลึกที่สุดในทวีปเอเชีย  

          โดยปากบ่อหรือปากถ้ำบนพื้นดินเต็มไปด้วยหินแข็งคล้ายลาวาจากภูเขาไฟ 2 ปล่อง ซึ่งสามารถดำน้ำชมความสวยงาม วิจิตรตระการตาภายในถ้ำใต้น้ำตลอดทั้งปี โดยเฉพาะช่วงหน้าแล้งน้ำจะลดจนมองเห็นเป็น 2 ส่วนหรือ 2 ห้องอย่างชัดเจน ถือเป็นถ้ำใต้น้ำที่ท้าทายบรรดานักดำน้ำทั้งชาวไทยและต่างชาติเป็นอย่างมาก แต่ไม่มีใครเคยดำน้ำลงไปสำรวจถึงก้นบ่อได้สำเร็จ


ตำนานเมืองบาดาลใต้ถ้ำทะเลสองห้อง และพญานาคราช

          ชาวบ้านในพื้นที่กล่าวว่า เรื่องอาถรรพ์เร้นลับทะเลสองห้องนั้นถูกเล่าต่อ ๆ กันมาตั้งแต่โบราณว่า เป็นเมืองบาดาลเก่าและเป็นที่อาศัยของพญานาคราช ที่ชาวบ้านเรียก "ทวดเลสองห้อง" เป็นที่เคารพนับถือกราบไหว้ แต่ปัจจุบันไม่ค่อยมีการกล่าวถึง ใครจะมาเล่นน้ำ ดำน้ำ ก็ลงเล่นตามอำเภอใจจนเกิดเรื่องราวไม่ดีมาแล้วหลายครั้ง ซึ่งเป็นไปตามคำกล่าวที่ว่า ผู้ใดที่คิดจะดำลงไปจนถึงพระราชวังของเจ้าเมืองพญานาค จะถูกจับตัวไปลงโทษหมดโอกาสที่กลับขึ้นมาสู่โลกมนุษย์


สังเวยชีวิตให้ทะเลสองห้อง

          เมื่อหลายปีก่อนมีครูดำน้ำต่างชาติเดินทางมาดำน้ำพิสูจน์ความลึกและเกิดสูญหายไร้ร่องรอยเป็นปริศนามาจนถึงทุกวันนี้ ต่อมาทะเลสองห้องกลายมาเป็นข่าวดังช่วงปลายปี 2562 กรณีครูสอนดำน้ำชาวอังกฤษเสียชีวิต โดยพบศพในสภาพนอนกอดถังออกซิเจน ไม่มีการพบบาดแผลใด ๆ หลังจากเกิดกรณีนี้ทำให้ทะเลสาบลึกแห่งนี้เงียบเหงาไร้ผู้คนเข้ามาท่องเที่ยวเพราะเกิดความกลัวหวั่นไม่ปลอดภัย จนกระทั่งล่าสุด (3 มีนาคม) เกิดเหตุสังเวยชีวิตอีกครั้งเมื่อนายต่อศักดิ์ ครูสอนดำน้ำชาวไทยลงไปดำน้ำในทะเลสองห้องได้ไม่ถึงชั่วโมงก็เสียชีวิต


ว่าด้วยเรื่องของ "ภาวะน้ำหนีบ" หรือ โรคน้ำหนีบ

          อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน เคยให้ข้อมูลเกี่ยวกับ ภาวะน้ำหนีบ ไว้ว่า โรคน้ำหนีบ หรือ โรคจากการลดความกดอากาศ   (Decompression Sickness; DCS หรือ Bends หรือ Caisson Disease) เป็นโรคที่เกิดจากเนื้อเยื่อต่าง ๆ ของร่างกาย ได้รับก๊าซไนโตรเจนภายใต้ความกดดันจนเกิดภาวะอิ่มตัว เมื่อมีการลดความกดดัน เนื้อเยื่อจึงคายก๊าซไนโตรเจนที่เกินออก เกิดเป็นฟองอากาศเข้าสู่ระบบต่าง ๆ ของร่างกาย รวมทั้งระบบไหลเวียนของเส้นเลือด เกิดการอุดตันในตำแหน่งต่าง ๆ จนเกิดพยาธิสภาพและอาการขึ้น สาเหตุจากการดำน้ำที่ลึก หรือนานเกินกำหนดแล้วขึ้นสู่ผิวน้ำโดยไม่หยุดลดความกดใต้น้ำตามที่ตารางลดความกดกำหนด


โดยโรคน้ำหนีบ แบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ

          1. DCS Type 1 จะมีอาการทางผิวหนัง มีผื่นคัน ปวดตามข้อและกล้ามเนื้อหรือมีอาการบวมเฉพาะที่

          2. DCS Type 2 หรือ Serious DCS จะมีอาการทางระบบประสาท ระบบหายใจ ระบบไหลเวียนเลือด เช่น  แน่นหน้าอก หายใจไม่ออก ไอมีเสมหะปนเลือด เวียนศีรษะ เดินเซ อัมพาต หมดสติถึงขั้นเสียชีวิตได้ ภายหลังข่าวการเสียชีวิตรายล่าสุด ทำให้ทะเลสองห้องถูกพูดถึงอีกครั้งทั้งเรื่องตำนานความเชื่อ และความอัตรายในการดำน้ำลึก การดำน้ำในถ้ำ และการคำนึงถึงความปลอดภัย แล้วคุณล่ะ... คิดว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับอะไร ?


ข่าวทะเลสองห้องที่เกี่ยวข้อง :