ไอ้โอ๋ รับผิดข่มขืนแม่ชีพิการวัย 79 ปี รับทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ ด้านแม่ชีเล่าหนังคนละม้วน บอกโดนขู่ฆ่าทั้งที่เปิดไฟ จึงทำให้จำหน้าได้ ส่วนตอนที่หนีจากโรงพัก ขี่มอเตอร์ไซค์มือเดียวมาหาเพื่อนเพื่อขอเงินไปนครปฐม แต่ไม่สำเร็จ
วันที่ 17 มีนาคม 2564 ข่าวช่องวัน รายงานว่า พ.ต.อ. ภพกร
กวินโยธิน ผู้กำกับการ สภ.หนองเรือ เปิดเผยกรณีที่นายอัจฉริยะ สีทา หรือโอ๋
วัย 24 ปี ผู้ต้องหาในคดียาเสพติด และข่มขืนแม่ชีพิการ วัย 79 ปี
แต่นายโอ๋ได้หนีออกจากโรงพัก
ทั้งนี้ ว่า หลังจากหนีคุก นายโอ๋ขี่รถจักรยานยนต์มุ่งหน้าไปยังบ้านหนองหอย ต.จระเข้ เป็นที่แรก เพื่อไปขอเงินจากเพื่อน 3 คน ที่เคยเสพยาด้วยกัน เพราะอยากกลับบ้านใน จ.นครปฐม แต่เพื่อนไม่มีเงิน จึงให้ช่วยแกะกุญแจมือออก
ขณะเดียวกัน ตำรวจก็สอบปากคำบุคคลทั้ง 3 คนนี้แล้ว พบว่า นายโอ๋ขี่รถจักรยานยนต์มาหาด้วยมือเดียว เพราะถูกใส่กุญแจมืออยู่ จากนั้นมีคนเห็นนายโอ๋แวะซื้อยาเส้น 8 บาทที่ร้านค้า และมีผู้ใหญ่บ้านรายหนึ่งให้ข้อมูลว่า มีชายต้องสงสัยลัดเลาะตามป่า บริเวณเทือกเขาภูเม็ง คาดว่านายโอ๋ น่าจะทิ้งรถจักรยานยนต์แล้ว
ส่วนทางตำรวจได้ขอศาลจังหวัดชุมแพ ออกหมายจับนายโอ๋แล้วในข้อหา เสพยาเสพติด ข่มขืนกระทำชำเรา ลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ กักขังหน่วงเหนี่ยว และหลบหนีที่คุมขังของเจ้าพนักงาน จนสุดท้ายสามารถจับกุมได้ที่กระท่อมหลังหนึ่งใน บ.หนองโน ต.บ้านเม็ง ซึ่งห่างจากจุดที่ก่อคดีข่มขืนเอาไว้เพียง 200 เมตร
ภาพจาก ข่าวช่องวัน
สำหรับคดีข่มขืนแม่ชี ตนก็ขอโทษในสิ่งที่ทำผิดไป หลังจากนี้ขอกลับตัวกลับใจ ยอมรับว่าดื่มเหล้าก่อนเกิดเหตุ และที่ทำไปก็เพราะอารมณ์ชั่ววูบ
ทั้งนี้ ตำรวจที่เบิกตัวผู้ต้องหา และสิบเวรยามที่บกพร่องจนทำให้นายโอ๋หนีไปจากห้องควบคุมตัว ก็มีการตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเรียบร้อย
ขณะเดียวกัน แม่ชีคนดังกล่าว เปิดเผยว่า นายโอ๋นั้นเป็นลูกจ้างของชาวสวนที่เชิงเขาภูเม็ง ใกล้กับสวนปฏิบัติธรรม ตอนมาก่อเหตุตนก็จำหน้าได้ เพราะก่อนหน้านี้อีกฝ่ายเคยมาหาลูกชายพระที่นี่ติดต่อกันประมาณ 10 วัน รวมถึงตอนนั้นก็เปิดไฟชัดเจน เพียงแต่ถูกข่มขู่ ห้ามส่งเสียง มิเช่นนั้นจะฆ่าให้ตาย
ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวช่องวัน
