พลทหาร วิเชียร ถูกร้อยโทสั่งซ้อม จนตายในค่ายทหาร ตั้งแต่ปี 2554 ผ่านไปเกือบ 10 ปี ศาลทหารนัดตัดสิน เมษายนนี้

ภาพจาก ThaiPBS
จากกรณี นายวิเชียร เผือกสม ที่เพิ่งจบการศึกษาปริญญาโท คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สมัครทหารเกณฑ์ ก่อนถูกซ้อมทรมานเสียชีวิตระหว่างฝึกซ้อมทหารใหม่ในค่ายทหาร ค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส เมื่อปี 2554 โดยนายทหารยศร้อยโท พร้อมพวก รวม 10 นาย เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2554 นั้น
ความคืบหน้าเรื่องนี้ วันที่ 21 มีนาคม 2564 น.ส.นริศราวัลถ์ แก้วนพรัตน์ หรือ เมย์ หลานของพลทหาร วิเชียร ได้เปิดเผยความคืบหน้าของคดีนี้หลังผ่านไปเกือบ 10 ปี ระบุว่า ทางญาติได้ร้องเรียนเรื่องนี้ผ่านไปยังหน่วยงานต่าง ๆ จนผ่านด่านทั้งพนักงานสอบสวนและกรรมการสอบสวนของ พล.ร.15 และกองทัพภาคที่ 4, อัยการ มทบ.42, คณะกรรมการ ป.ป.ช., คณะกรรมการ ป.ป.ท., เจ้ากรมพระธรรมนูญ อัยการทหาร มทบ.46
ความคืบหน้าเรื่องนี้ วันที่ 21 มีนาคม 2564 น.ส.นริศราวัลถ์ แก้วนพรัตน์ หรือ เมย์ หลานของพลทหาร วิเชียร ได้เปิดเผยความคืบหน้าของคดีนี้หลังผ่านไปเกือบ 10 ปี ระบุว่า ทางญาติได้ร้องเรียนเรื่องนี้ผ่านไปยังหน่วยงานต่าง ๆ จนผ่านด่านทั้งพนักงานสอบสวนและกรรมการสอบสวนของ พล.ร.15 และกองทัพภาคที่ 4, อัยการ มทบ.42, คณะกรรมการ ป.ป.ช., คณะกรรมการ ป.ป.ท., เจ้ากรมพระธรรมนูญ อัยการทหาร มทบ.46
สำหรับการเอาผิดผู้ที่ก่อเหตุในคดีนี้ น.ส.นริศราวัลถ์ เปิดเผยว่า ส่วนหนึ่งเพราะต้องการจะเอาผิดนายทหารยศร้อยโทเข้ามาในสำนวนให้ได้ หากไม่อดทนพอ ร้อยโทนายดังกล่าวจะหลุดจากสำนวนและไม่ถูกนำมาพิจารณาความผิด
ไทม์ไลน์การติดตาม พิจารณาคดี
- พนักงานสอบสวนทำสำนวนคดีฐานร่วมกันทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต ผู้ต้องหา 9 นาย (ร้อยตรีลงมา ไม่มีร้อยโท) ส่งให้อัยการทหาร มทบ.42 ซึ่งอัยการทหารได้ให้พนักงานสอบสวนสอบเพิ่มแล้วแต่ยังได้ 9 นาย เท่าเดิม ใช้เวลา 2-3 เดือน
- อัยการทหาร มทบ.42 ส่งสำนวนให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. เมื่อต้นเดือนธันวาคม 2554 แยกเป็น 2 สำนวน คือ สำนวนเเรกตามที่พนักงานสอบสวนทำมา ผู้ต้องหา 9 นาย (ร้อยตรีลงมา) / สำนวนที่ 2 ความผิด ม.157 กับ 10 นาย (รวมร้อยโท) ใช้เวลา 2-3 เดือน
- คณะกรรมการ ป.ป.ช. ส่งต่อสำนวนไปให้คณะกรรมการ ป.ป.ท. (เนื่องจากยศผู้ถูกกล่าวหาอยู่ในอำนาจการพิจารณาของ ป.ป.ท.) เมื่อเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน 2555 ใช้เวลา 5-6 เดือน
- คณะกรรมการ ป.ป.ท. สอบพยาน รวบรวมหลักฐาน จนสามารถรวมสำนวน 2 สำนวนเข้าด้วยกันเหลือสำนวนเดียว มีมติชี้มูลความผิดทั้ง 10 นาย (ร้อยโทกับพวกรวม 10 นาย) ในความผิด ม.290 ม.157 ม.83 และประมวลกฎหมายอาญาทหาร ม.30 (4) ส่งสำนวนต่อให้อัยการทหาร มทบ.46 สั่งฟ้อง ใช้เวลา 4 ปี
- คณะกรรมการ ป.ป.ท. ส่งมติยืนยันฟ้องให้เจ้ากรมพระธรรมนูญชี้ขาด เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2561 และสุดท้ายเจ้ากรมฯ มีความเห็นชี้ขาดตามมติ ป.ป.ท. ใช้เวลา 1 ปีกว่า
- สำนวนกลับมาอยู่ในมืออัยการทหาร มทบ.46 (คนใหม่) ต้นปี 2563 ซึ่งเป็นช่วงสถานการณ์โควิดระบาดพอดี แต่อัยการทหารก็ได้ทำสำนวนส่งฟ้องผู้ต้องหาไปเมื่อสิ้นปี 2563 และศาลมีดุลพินิจให้ประกันด้วยหลักทรัพย์ (เนื่องจากผู้ต้องหาไม่มีพฤติกรรมจะหลบหนี)
- 30 เมษายน 2564 ศาล มทบ.46 มีนัดฟังคำสั่ง / ประทับรับฟ้องคดี
ย้อนคดี พลทหาร วิเชียร ถูกซ้อมในค่ายจนตาย กองทัพบกต้องจ่ายค่าเสียหาย 6.5 ล้าน
ย้อนคดีของ พลทหาร วิเชียร สมัครเข้ารับราชการทหารกองประจำการผลัดที่ 1/2554 สังกัด ร.151 พัน.3 และเข้าฝึกที่หน่วยฝึกทหารใหม่ ในหน่วยฝึกของค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส ต่อมาถูกเจ้าหน้าที่ทหารหลายนายร่วมกันทำร้ายร่างกายพลทหาร วิเชียร โดยอ้างว่าหลบหนีการฝึก ทำให้พลทหาร วิเชียร ได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตลงในวันที่ 5 มิถุนายน 2554 มีสาเหตุการเสียชีวิตเนื่องจากไตวายเฉียบพลัน จากกล้ามเนื้อได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรง
ทั้งนี้ เมื่อปี 2559 น.ส.นริศราวัลถ์ โดนตำรวจจับกุม หลังจากออกมาเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการซ้อมทรมานพลทหาร วิเชียร ลงในโซเชียลมีเดีย และถูกส่งตัวไปยัง จ.นราธิวาส เพื่อให้สถานีตำรวจในท้องที่สอบปากคำและรับทราบข้อกล่าวหาในข้อหาหมิ่นประมาทเจ้าพนักงาน และกระทำผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จากการออกมาโพสต์เรียกร้องความเป็นธรรมให้กับน้าชาย ซึ่งต่อมาอัยการสั่งไม่ฟ้องทั้ง 2 ข้อหา
ในส่วนของคดีแพ่ง ศาลแพ่งมีคำพิพากษาให้กองทัพบกยอมจ่ายเงินค่าเสียหายจำนวน 6.5 ล้านบาท ตามคำฟ้องของนางประเทือง เผือกสม มารดาของพลทหาร วิเชียร เป็นโจทก์ โดยมีกระทรวงกลาโหม, กองทัพบก และสำนักงานนายกรัฐมนตรี (ต้นสังกัด กอ.รมน.) เป็นจำเลยอันดับ 1, 2 และ 3 ตามลำดับ ซึ่งทางกองทัพบกเป็นผู้จ่ายเงินครบตามจำนวนแล้ว


