สรุปดราม่า อ.ทัศนัย ไฝว้ คณบดี ต้นจนจบ ปกป้องลูกศิษย์ และผลงานที่ส่อผิดกฎหมาย

               สรุปประเด็นตั้งแต่ต้นจนจบ กับเรื่องราวความอลเวง คณะวิจิตรศิลป์ มช. จากการแสดงผลงานของนักศึกษาที่เกี่ยวโยงการเมือง จนโดนคณบดีพร้อมพวกมาโกยงานลงถุงดำ ทำเอา ผศ.ทัศนัย เดือดหนัก เข้ามาปกป้องลูกศิษย์ พร้อมสั่งสอนทีมคณบดีชุดใหญ่ จนกลายเป็นไวรัล ล่าสุดทางคณะชี้แจง เข้ามาเก็บงานศิลป์ เพราะหมิ่นเหม่ผิดกฎหมาย
               กลายเป็นเรื่องราวระอุแวดวงศิลปะ และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ลามออกมาสู่สังคมภายนอก เมื่อคณาจารย์อันประกอบด้วยคณบดี รองคณบดี และทีมงานจากหอศิลป์ เข้าไปหอบเอาผลงานของนักศึกษาคณะวิจิตรศิลป์ลงถุงดำ ทำเอานักศึกษาไม่ยอม พร้อมกับการปรากฏตัวของ ผศ.ทัศนัย ศิลปินชื่อดังและอาจารย์คณะเดียวกัน ที่ออกมาปกป้องเจตจำนงในการทำงานศิลปะของลูกศิษย์ และสั่งสอนคณาจารย์จัดหนัก จัดใหญ่ ชนิดที่กลายเป็นไวรัลในข้ามวัน

นักศึกษาจัดแสดงงาน คณาจารย์มาโกยลงถุงขยะ

               เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2564 เมื่อคณาจารย์อันประกอบด้วยคณบดี รองคณบดี และทีมงานจากหอศิลป์ ได้มาที่คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แล้วจัดการยึดผลงานของนักศึกษาที่จัดแสดงอยู่ตรงนั้น ใส่ถุงดำ แล้วเอาขึ้นรถกระบะ

               ด้านนักศึกษาเองไม่ยอม ได้พากันประท้วงและเจรจาของผลงานคืน บางคนขอเอกสารที่มีลายลักษณ์อักษรจากทางคณะถึงการยึดผลงานในครั้งนี้ และพยายามจะขอคำอธิบายจากทางคนที่มายึดผลงาน แต่ก็ไม่มีเอกสารหรือคำอธิบายที่ดีมากพอ นั่นทำให้นักศึกษาคนหนึ่งลงไปนอนขวางรถ ไม่ยอมให้อาจารย์ออกไปพร้อมผลงานนักศึกษาทำ

การปรากฏตัวของ อาจารย์ทัศนัย ปะฉะดะใส่เหล่าคณบดี งานนี้วงแตก

               ต่อมา อาจารย์ทัศนัย ได้ปรากฏตัวออกมา และพูดปกป้องลูกศิษย์เต็มขั้น อาจารย์ทัศนัยบอกว่า คนที่เป็นศิลปิน ต้องไม่เป็นเจ้านายใคร ไม่เป็นขี้ข้าใคร เป็นนักการภารโรงหรือเปล่าถึงจะมาเก็บกวาดผลงานนักศึกษา ใช่หน้าที่ของคนเป็นคณบดีหรือไม่ เราอยากจะคุยกันแบบไหน คุยกันแบบศิลปิน คุยกันแบบอาจารย์ หรือคุยกันแบบรุ่นพี่รุ่นน้อง

               "เป็นครูบาอาจารย์ต้องเคารพ 1. ความเป็นคน 2. เคารพศิลปิน 3. เคารพผลงานศิลปะ"

               อาจารย์ทัศนัย ยังพูดอีกว่า คนเราอยากมักใหญ่ใฝ่สูง มีอำนาจกันทุกคน แต่หากห้ามใจไม่ได้ มันก็ไม่ต่างจากหมา จนสุดท้ายทางกลุ่มคณบดีก็ได้ล่าถอยไป พร้อมกับทิ้งถุงดำผลงานศิลปะของนักศึกษาเอาไว้ และทางนักศึกษา ได้เข้าไปร้องทุกข์กล่าวโทษต่อเหล่าคณบดี

อาจารย์ทัศนัย ตามไปฟาดต่อในเฟซบุ๊ก งานนี้คนเข้าไปฮือฮาเกรียวกราว

               ต่อมา ทางอาจารย์ทัศนัย ได้เข้าไปฟาดต่อในเฟซบุ๊ก เรียกบางคนว่า "ลูกสาวศิลปินแห่งชาติ หมาสลิ่มเฝ้าหอศิลป์" "สร้างภาพศิลปะจรรโลงจิตใจ แต่ต่ำทรามจนหาชื่อเรียกไม่ได้" และภาพของอาจารย์ที่นั่งขัดสมาธิ ชูนิ้วกลาง และขอบคุณทุกคนที่เข้ามาแสดงความเป็นห่วงเป็นใยล้นหลาม

สามีคณบดีออกมาแถลงอีกด้าน งานนี้โดนตีกลับจนต้องลบ

               ต่อมา นายอุดม หวานจริง ศิลปินอิสระ และสามีของ รศ.อัศวณีย์ หวานจริง คณบดีคณะวิจิตรศิลป์ ม.เชียงใหม่ ได้เข้ามาชี้แจงว่า ทางคณบดีได้เข้ามาที่คณะ เพื่อมาดูความพร้อมของสถานที่ที่จะตัดแสดงงานศิลป์คนต่างสถาบัน แต่กลับพบว่าผลงานของนักศึกษานั้น กลับมีประเด็นทางการเมืองแฝงอยู่ และคนที่เข้ามาพูดคุยนั้น ไม่ใช่นักศึกษาคณะวิจิตรศิลป์ด้วย

               นอกจากนี้ ยังมีเรื่องขบวนเสด็จฯ ทางมหาวิทยาลัยจึงต้องจัดการสถานที่ให้เรียบร้อย ทางมหาวิทยาลัยไม่ได้ต้องการขัดขวางกิจกรรมทางการเมือง แต่ถ้าไม่ทำก็จะโดนตำหนิ และขอร้องว่า อย่าเอาอนาคตเด็กมาเป็นด่านหน้า งานศิลป์ควรเกิดจากใจจริงของผู้สร้าง ตกผลึกทางความคิด ไม่มีการชี้นำ ไม่ถูกกดดัน
               อย่างไรก็ตาม ทันทีที่โพสต์ออกไป กลับถูกกระแสตอบกลับทันที โดยส่วนหนึ่งมองว่า ในขณะที่เกิดเหตุการณ์ ทางคณะไม่เคยชี้แจงใด ๆ และให้เหตุผลได้ไม่ดีมากพอ ทางคณบดียังมีการตอบคำถามให้นักศึกษาที่เข้ามาเจรจา ไปดูว่ากำลังคุยกับใคร และเรื่องขบวนเสด็จฯ นั้นก็ไม่ใช่ประเด็นเลยสักนิด เพราะขบวนเสด็จฯ ไม่ได้ผ่านมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แต่อย่างใด

               เมื่อเจอกระแสกดดันมาก ๆ ทางสามีของคณบดี จึงต้องลบโพสต์

คณะวิจิตรศิลป์ ออกแถลงการณ์อีกด้าน ผลงานนักศึกษา หมิ่นเหม่ผิดกฎหมาย

              ต่อมา ทางคณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้ออกแถลงการณ์กับเรื่องที่เกิดขึ้น โดยบอกว่า จากการไปสอบถามนักศึกษาที่อยู่ตรงนั้น นักศึกษาไม่ได้บอกว่า ผลงานที่จัดแสดงนั้นเป็นของใคร อีกทั้งทางคณะยังพบว่า งานศิลปะบางอย่าง หมิ่นเหม่จะผิดกฎหมาย เช่น ภาพธงชาติที่ถูกดัดแปลง ทางคณะจึงมีความจำเป็นที่จะต้องเก็บผลงานบางส่วนเอาไว้ เพื่อรอให้มีคนมารับคืนต่อไป