กระทรวงวัฒนธรรม เตรียมเสนอเมนู "ต้มยำกุ้ง" ต่อยูเนสโก ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ เพราะเป็นอาหารประจำชาติโด่งดังไปทั่วโลก
![ต้มยำกุ้ง ต้มยำกุ้ง]()
วันที่ 17 มีนาคม 2564 เดลินิวส์ รายงานว่า นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒธรรรม (วธ.) เผยว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบให้เสนอ "ต้มยำกุ้ง" เป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ ต่อองค์การเพื่อการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก
รายงานข่าวระบุว่า ประเทศไทยได้ขึ้นทะเบียนดังกล่าวกับยูเนสโกแล้ว 2 รายการคือโขนไทย เมื่อปี พ.ศ. 2561 และนวดไทย เมื่อปี พ.ศ. 2562 นอกจากนี้ยังมีรายการ โนรา และสงกรานต์ไทย ที่เสนอไปแล้วและอยู่ระหว่างการพิจารณา
นายอิทธิพล ระบุว่า
เมนูต้มยำกุ้งนั้นเป็นอาหารประจำชาติที่ขึ้นชื่อและเป็นที่รู้จักทั่วโลก
เป็นอาหารที่สะท้อนถึงวิถีชีวิตที่เรียบง่ายของชุมชนเกษตรกรรมริมแม่น้ำลำคลองในภาคกลางของไทย
มีการสืบทอดการทำต้มยำกุ้งในครัวเรือนอย่างต่อเนื่อง
มีผู้ประกอบวิชาชีพด้านอาหารทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับประเทศ บุคคล
หน่วยงานต่าง ๆ ที่เป็นเจ้าขององค์ความรู้
ซึ่งภูมิปัญญาการทำต้มยำกุ้งนอกจากจะมีการสืบทอดอย่างต่อเนื่องแล้ว
ยังแพร่กระจายไปยังภูมิภาคอื่น ๆ
ก่อให้เกิดการสร้างสรรค์สูตรต้มยำกุ้งที่แปลกใหม่มากมายที่ตอบสนองต่อสภาพทางภูมิศาสตร์
วิถีชีวิต และรสนิยมทางอาหารที่แตกต่างกันไปของคนกลุ่มต่าง ๆ
การเสนอต้มยำกุ้งขึ้นทะเบียนกับยูเนสโกนั้น นอกจากจะสร้างความภาคภูมิใจแล้ว ยังกระตุ้นให้ตระหนักถึงความสำคัญและคุณค่าของมรดกภูมิปัญญาวัฒนธรรม ทั้งยังสร้างโอกาสทางการตลาดให้ธุรกิจอาหารไทย เกิดการสร้างงานสร้างรายได้ต่อไป
นายอิทธิพล กล่าวด้วยว่า หากต้มยำกุ้งได้ขึ้นทะเบียนนั้น ต้องจัดทำรายงานสถานะปัจจุบันที่แสดงถึงผลสำเร็จ ปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินการสงวนรักษา และดำเนินการตามมาตรการการสงวนรักษาต้มยำกุ้งอย่างเคร่งครัด เพื่อส่งเสริมความยั่งยืนและมั่นคงทางด้านอาหาร และส่งเสริมการศึกษาวิจัยการพัฒนานวัตกรรมอันเกี่ยวกับภูมิปัญญาด้านอาหาร ทั้งการศึกษาในระบบและนอกระบบ
ขอบคุณข้อมูลจาก เดลินิวส์

รายงานข่าวระบุว่า ประเทศไทยได้ขึ้นทะเบียนดังกล่าวกับยูเนสโกแล้ว 2 รายการคือโขนไทย เมื่อปี พ.ศ. 2561 และนวดไทย เมื่อปี พ.ศ. 2562 นอกจากนี้ยังมีรายการ โนรา และสงกรานต์ไทย ที่เสนอไปแล้วและอยู่ระหว่างการพิจารณา
การเสนอต้มยำกุ้งขึ้นทะเบียนกับยูเนสโกนั้น นอกจากจะสร้างความภาคภูมิใจแล้ว ยังกระตุ้นให้ตระหนักถึงความสำคัญและคุณค่าของมรดกภูมิปัญญาวัฒนธรรม ทั้งยังสร้างโอกาสทางการตลาดให้ธุรกิจอาหารไทย เกิดการสร้างงานสร้างรายได้ต่อไป
นายอิทธิพล กล่าวด้วยว่า หากต้มยำกุ้งได้ขึ้นทะเบียนนั้น ต้องจัดทำรายงานสถานะปัจจุบันที่แสดงถึงผลสำเร็จ ปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินการสงวนรักษา และดำเนินการตามมาตรการการสงวนรักษาต้มยำกุ้งอย่างเคร่งครัด เพื่อส่งเสริมความยั่งยืนและมั่นคงทางด้านอาหาร และส่งเสริมการศึกษาวิจัยการพัฒนานวัตกรรมอันเกี่ยวกับภูมิปัญญาด้านอาหาร ทั้งการศึกษาในระบบและนอกระบบ
ขอบคุณข้อมูลจาก เดลินิวส์






