ยธ. เยียวยาสาวสุรินทร์ 4.7 แสนบาท หลังต้องติดคุกฟรี 21 เดือน ปมซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์แฟนตอนถูกจับคดียาบ้า ทนายเผยนับเป็นคดีแรกที่ได้รับเงินชดเชยคดียาเสพติด
จากกรณีเมื่อปี 2561 น.ส.สุพรรณษา บำเพ็ญเพียร อายุ 23 ปี ถูกจับกุมคดียาเสพติด หลังซ้อนรถจักรยานยนต์แฟนหนุ่มที่คบหากันไม่กี่เดือน แม้เจ้าตัวจะพยายามบอกว่าตนไม่เกี่ยวข้องแต่ตำรวจไม่เชื่อส่งดำเนินคดี ซึ่งทางครอบครัวไม่มีเงินประกันทำให้ถูกจำคุกเรือนจำกลางสุรินทร์นานกว่า 8 เดือน ต่อมาทนายความอาสาเข้าช่วยเหลือจนศาลชั้นต้นตัดสินไม่มีความผิด แต่อัยการยังยืนอุทธรณ์ต่อ และศาลอุทธรณ์ตัดสินมีความผิดสั่งจำคุก 5 ปี 12 เดือน ปรับเงิน 5.6 แสนบาท ทางทนายจึงยื่นคำร้องศาลฎีกา
กระทั่งสุดท้ายเมื่อวันที่ 28 มกราคม 2564 ศาลฎีกาตัดสินยกฟ้องทำให้ น.ส.สุพรรณษา ต้องติดคุกรวมทั้งหมดเวลา 21 เดือน ทำให้ทนายความและครอบครัว น.ส.สุพรรณษา เข้ายื่นคำร้องขอเงินเยียวยาตาม พ.ร.บ.ช่วยเหลือผู้ต้องหา ของกระทรวงยุติธรรมนำคำร้องส่งให้คณะอนุกรรมการพิจารณาให้ความช่วยเหลือ ตามที่ได้เสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น
อ่านข่าว : วอนเยียวยา สาวติดคุกฟรี 8 เดือน หลังแฟนพาซ้อน จยย. ส่งยาบ้า ออกจากคุกซึมเศร้าหนัก
ล่าสุดวันที่ 29 มีนาคม 2564 เดลินิวส์ รายงานว่า นายคำสิงห์ ชอบมี ทนายอาสานำหนังสือคำวินิจฉัยของคณะกรรมการพิจารณาค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนและใช้จ่ายแก่จำเลย ในคดีอาญา ลงวันที่ 25 มีนาคม 2564 มาแจ้งกับ น.ส.สุพรรณษา และครอบครัว หลังคณะกรรมการพิจารณา จ่ายค่าตอบแทน และค่าใช้จ่ายให้แก่ น.ส.สุพรรณษา แยกเป็นค่าทดแทนการถูกคุม 283,500 บาท และค่าขาดประโยชน์ทำมาหาได้ 188,745 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 472,245 บาท
นางพัชรพร แม่ของ น.ส.สุพรรณษา กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ทางกระทรวงยุติธรรมจ่ายค่าทดแทนให้กับลูกสาว พร้อมขอบคุณทุกคนที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะทนายคำสิงห์ เพราะถ้าไม่ได้ทุกท่านเข้ามาให้การช่วยเหลือคงไม่มีวันนี้ ส่วนสภาพจิตใจของลูกสาว ตอนนี้ดีขึ้นบ้างแล้วแม้จะยังไม่ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ก็ดีขึ้นกว่าเดิม ขณะที่ น.ส.สุพรรณษา กล่าวขอบคุณสื่อต่าง ๆ และทุกคนที่เกี่ยวข้อง ที่ให้การช่วยเหลือครั้งนี้ และพอใจกับค่าทดแทนที่ทางกระทรวงยุติธรรมจ่ายชดเชยให้
ด้านนายคำสิงห์ ทนายความ เปิดเผยว่า คดีนี้ถือเป็นคดีแรกที่ได้รับเงินเยียวยาจากคดียาเสพติด ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาล เป็นไปตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมได้กล่าวไว้ ซึ่งต้องพิจารณาอย่างรอบคอบถี่ถ้วน ก็ดีใจที่ทางสื่อมวลชนทุกแขนงที่ช่วยกันนำเสนอจนไปถึงท่าน จนคณะกรรมการพิจารณาวินิจฉัยทดแทนเงินเยียวยาให้จำเลย เคสนี้ถือว่าเป็นเคสแรกของประเทศก็ว่าได้ โดยเงินทดแทนจะเข้าบัญชีภายในต้นเดือนเมษายนที่จะถึงนี้เป็นต้นไป
ขอบคุณข้อมูลจาก เดลินิวส์
จากกรณีเมื่อปี 2561 น.ส.สุพรรณษา บำเพ็ญเพียร อายุ 23 ปี ถูกจับกุมคดียาเสพติด หลังซ้อนรถจักรยานยนต์แฟนหนุ่มที่คบหากันไม่กี่เดือน แม้เจ้าตัวจะพยายามบอกว่าตนไม่เกี่ยวข้องแต่ตำรวจไม่เชื่อส่งดำเนินคดี ซึ่งทางครอบครัวไม่มีเงินประกันทำให้ถูกจำคุกเรือนจำกลางสุรินทร์นานกว่า 8 เดือน ต่อมาทนายความอาสาเข้าช่วยเหลือจนศาลชั้นต้นตัดสินไม่มีความผิด แต่อัยการยังยืนอุทธรณ์ต่อ และศาลอุทธรณ์ตัดสินมีความผิดสั่งจำคุก 5 ปี 12 เดือน ปรับเงิน 5.6 แสนบาท ทางทนายจึงยื่นคำร้องศาลฎีกา
กระทั่งสุดท้ายเมื่อวันที่ 28 มกราคม 2564 ศาลฎีกาตัดสินยกฟ้องทำให้ น.ส.สุพรรณษา ต้องติดคุกรวมทั้งหมดเวลา 21 เดือน ทำให้ทนายความและครอบครัว น.ส.สุพรรณษา เข้ายื่นคำร้องขอเงินเยียวยาตาม พ.ร.บ.ช่วยเหลือผู้ต้องหา ของกระทรวงยุติธรรมนำคำร้องส่งให้คณะอนุกรรมการพิจารณาให้ความช่วยเหลือ ตามที่ได้เสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น
อ่านข่าว : วอนเยียวยา สาวติดคุกฟรี 8 เดือน หลังแฟนพาซ้อน จยย. ส่งยาบ้า ออกจากคุกซึมเศร้าหนัก
ล่าสุดวันที่ 29 มีนาคม 2564 เดลินิวส์ รายงานว่า นายคำสิงห์ ชอบมี ทนายอาสานำหนังสือคำวินิจฉัยของคณะกรรมการพิจารณาค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนและใช้จ่ายแก่จำเลย ในคดีอาญา ลงวันที่ 25 มีนาคม 2564 มาแจ้งกับ น.ส.สุพรรณษา และครอบครัว หลังคณะกรรมการพิจารณา จ่ายค่าตอบแทน และค่าใช้จ่ายให้แก่ น.ส.สุพรรณษา แยกเป็นค่าทดแทนการถูกคุม 283,500 บาท และค่าขาดประโยชน์ทำมาหาได้ 188,745 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 472,245 บาท
นางพัชรพร แม่ของ น.ส.สุพรรณษา กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ทางกระทรวงยุติธรรมจ่ายค่าทดแทนให้กับลูกสาว พร้อมขอบคุณทุกคนที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะทนายคำสิงห์ เพราะถ้าไม่ได้ทุกท่านเข้ามาให้การช่วยเหลือคงไม่มีวันนี้ ส่วนสภาพจิตใจของลูกสาว ตอนนี้ดีขึ้นบ้างแล้วแม้จะยังไม่ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ก็ดีขึ้นกว่าเดิม ขณะที่ น.ส.สุพรรณษา กล่าวขอบคุณสื่อต่าง ๆ และทุกคนที่เกี่ยวข้อง ที่ให้การช่วยเหลือครั้งนี้ และพอใจกับค่าทดแทนที่ทางกระทรวงยุติธรรมจ่ายชดเชยให้
ด้านนายคำสิงห์ ทนายความ เปิดเผยว่า คดีนี้ถือเป็นคดีแรกที่ได้รับเงินเยียวยาจากคดียาเสพติด ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาล เป็นไปตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมได้กล่าวไว้ ซึ่งต้องพิจารณาอย่างรอบคอบถี่ถ้วน ก็ดีใจที่ทางสื่อมวลชนทุกแขนงที่ช่วยกันนำเสนอจนไปถึงท่าน จนคณะกรรมการพิจารณาวินิจฉัยทดแทนเงินเยียวยาให้จำเลย เคสนี้ถือว่าเป็นเคสแรกของประเทศก็ว่าได้ โดยเงินทดแทนจะเข้าบัญชีภายในต้นเดือนเมษายนที่จะถึงนี้เป็นต้นไป
ขอบคุณข้อมูลจาก เดลินิวส์
