ดราม่า ก็อตซิลล่า โซเชียลวอนคืนลิงให้เจ้าของ - อุทยานฯ แจงอีกด้าน แบบนี้..


          ดราม่า ลิงก็อตซิลล่า โซเซียลผุดแฮชแท็กช่วยปกป้อง วอนคืนลิงให้เจ้าของ ชี้เมื่อก่อนไม่มีใครสนใจ พอเลี้ยงจนผูกพันกลับโดนยึดไปลดความอ้วน แห่สงสารเจ้าของจับใจ หวั่นตรอมใจทั้งลิงทั้งคน ด้านอุทยานฯ แจงความคืบหน้าแล้ว ดูแลเป็นอย่างดี


            จากกรณีสื่อนอกตีข่าว ก็อตซิลล่า ลิงแสมอ้วนอายุ 3 ปี 8 เดือน ขวัญใจชาวตลาดย่านมีนบุรี โดยระบุว่าความใจดีของคน จะทำให้ลิงเสี่ยงอันตราย เนื่องจากมีน้ำหนักเกินเกณฑ์มาตรฐานไปมาก เกรงว่าจะมีสุขภาพไม่ดีนั้น

อ่านข่าว : ก็อตซิลล่า ลิงอ้วนแห่งมีนบุรี คนใจดีให้อาหารจนอ้วนตุ๊ต๊ะ หวั่นอาจเป็นการฆ่ากันทางอ้อม

ยึดก็อตซิลล่าเอาไว้เพื่อลดน้ำหนัก ก่อนปล่อยตัวสู่ธรรมชาติ - ชาวเน็ตค้าน ปล่อยไปมีแต่ตาย

            ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดเหยี่ยวดง กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้เข้ายึดตัว เจ้าก็อตซิลล่า ไปไว้ที่ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 2 จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อลดน้ำหนักและปล่อยสู่ธรรมชาติในป่าต่อไป เนื่องจากลิงแสม เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง หากมีไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจะมีความผิด

            เรื่องนี้ทำให้ดราม่าจึงเกิดขึ้นทันที เนื่องจากชาวเน็ตต่างสงสารและเห็นใจคุณ-คุณป้า และลูกชายที่เป็นเจ้าของอย่างมาก จนเกิดเป็นแฮชแท็ก #saveก๊อซซิล่า ที่ช่วยกันดันเรื่องนี้เนื่องจากเจ้าของเสียใจอย่างหนักที่ต้องแยกจากเจ้าก็อตซิลล่า ส่วนเจ้าก็อตซิล่าก็มีอาการซึมเศร้า เพราะมีความผูกพันกันมาก เลี้ยงมา 3 ปีกว่า รักและดูแลเหมือนลูก อาบน้ำประแป้ง ป้อนอาหาร ออกไปตลาดก็พาไปด้วย พาเข้านอน ห่มผ้าให้ ทำทุกอย่างเหมือนเป็นลูก แต่วันหนึ่งมาถูกพรากจากอก

            โดยมีรายงานว่า ทางครอบครัวแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปตั้งแต่ 3 ปีกว่าที่แล้ว ช่วงที่เจอเจ้าก็อตซิลล่าเร่ร่อน แต่ไม่มีใครสนใจ จึงตัดสินใจรับเลี้ยงไว้เอง พอเลี้ยงจนรักและผูกพัน ก็เป็นกระแสเพราะความอ้วนของมัน ทำให้เจ้าหน้าที่เข้ามายึดตัวไปดังกล่าว ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ประเมินแล้วว่าเจ้าก็อตซิลล่าไม่สามารถปล่อยเข้าไปอยู่ในป่าได้ เนื่องจากลิงต้องอยู่เป็นฝูง จึงจะเลี้ยงไว้ในความดูแลจนหมดอายุขัย
เลขาธิการสมาคมพิทักษ์สัตว์ไทย ชี้ รัฐช่วยได้ ไม่ต้องพรากลิงจากเจ้าของ

            นอกจากนี้ ข่าวช่องวัน รายงานว่า นายโรเจอร์ โลหะนันท์ เลขาธิการสมาคมพิทักษ์สัตว์ไทย เปิดเผยว่า ความจริงแล้ว กรมอุทยานฯ ควรทำเพียงแค่ไปเตือน หรือแนะนำการเลี้ยงดูเจ้าก็อตซิลล่า เพื่อให้กลับมามีสุขภาพดี โดยไม่จำเป็นต้องยึดไป

            โดย กรมอุทยานฯ สามารถผ่อนผันให้เจ้าของสามารถเลี้ยงต่อได้ ตามกฎหมายอุทยานฉบับใหม่ เรื่องของการกระทำเพื่อช่วยชีวิตสัตว์ เพราะหากกรมอุทยานฯ เห็นว่า คนเลี้ยงมีความผิดจริง ก็คงจะจับคนเลี้ยงไปแล้ว


            ขณะที่ชาวเน็ตก็วิจารณ์เรื่องนี้อย่างหนัก หลายคนต้องการให้คืนก็อตซิลล่าให้กับเจ้าของ เพราะหากต้องการให้ลดน้ำหนัก ควรมีวิธีที่ดีกว่านี้ การทำแบบนี้อาจจะส่งผลกระทบต่อจิตใจของทั้งคนและสัตว์ บ้างก็บอกว่าถ้าข้อติดขัดอยู่ที่ใบอนุญาต ก็น่าจะออกใบอนุญาตให้เจ้าของได้เลี้ยงดูอย่างถูกกฎหมาย ตอนไม่ดังไม่เห็นมีใครสนใจ แต่พอดังแล้วกลับมาทำแบบนี้ หลายคนกลัวว่าทั้งเจ้าของและลิงจะตรอมใจ พร้อมเรียกร้องให้คืนเจ้าก็อตซิลล่าสู่อ้อมอกเจ้าของ

            ขณะที่ ชุดปฏิบัติการพิเศษเหยี่ยวดง รายงานสรุปข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้ หลังเข้ายึดลิงที่แผงขายลูกชิ้น ตลาดมีนบุรี กทม. ของนายมานพ เอ็มสรรค์ อายุ 59 ปี ดังนี้…

            - นายมานพ ให้ถ้อยคำว่า เลี้ยงดูลิงตัวดังกล่าวมาประมาน 3 ปี เนื่องจากพ่อแม่ของลิงถูกรถชนตาย จึงนำลูกลิงมารักษาและเลี้ยงดู

            - สัตวแพทย์มีความเห็นว่า ลิงแสมเพศผู้ตัวดังกล่าว น้ำหนักเกินจากปกติมาก และสถานที่ไม่เหมาะสมกับการเลี้ยงดู

            - คณะเจ้าหน้าที่พิจารณาแล้ว จึงแจ้งให้นายมานพ ทราบดังนี้     


            1. ลิงแสม เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครอง พ.ศ. 2562 ไม่สามารถครอบครองหรือทำการเลี้ยงดูแลได้ ถ้าไม่เคยแจ้งการครอบครองตามกฎหมายไว้  

            2. นายนานพ ยินดีส่งมอบลิงแสมคืนกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เพื่อนำลิงตัวดังกล่าวไปดูแลและรักษา    
      
            3. กรมอุทยานฯ ส่งลิงแสมต่อไปที่ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 2 (กระบกคู่) ต.คลองตระเกรา อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อฟื้นฟูและดูแลสุขภาพ คือ ตรวจเลือดเพื่อดูสุขภาพโดยรวมและตรวจหาโรค หากพบว่าไม่มีโรคติดต่อใดจะทำการลดอาหารที่ไม่เหมาะสมและให้กินอาหารเพื่อสุขภาพ พร้อมฟื้นฟูพฤติกรรมให้ลิงกลับมามีพฤติกรรมตามธรรมชาติ

            ปัจจุบันศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 2 (กระบกคู่) ได้ดำเนินการทำกรงขนาด 2×2×2 เมตร ซึ่งแล้วเสร็จไปประมาณ 70% และต่อไปจะทำเป็นโรงเรือนกั้นกรงและเสริมตาข่ายกั้นภายนอกอีกชั้นหนึ่ง

ลิงก็อตซิลล่า

            4. สัตวแพทย์ประจำศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 2 (กระบกคู่) ได้แจ้งว่า ปัจจุบันก็อตซิลล่าเริ่มปรับตัวได้ ไม่มีอาการซึมเศร้าหรือตรอมใจ สามารถกินอาหารธรรมชาติได้ตามปกติ

            5. กรมอุทยานฯ ได้แจ้งความคืบหน้าในการดูแลลิงให้เจ้าของทราบเป็นระยะ และแจ้งให้เจ้าของมาเข้าร่วมโครงการพ่อแม่อุปถัมภ์สัตว์แล้ว ซึ่งสามารถจะมาเยี่ยมดูแล นำสิ่งของเครื่องใช้ของลิงมาให้ได้ หรือจะบริจาคเงินค่าอาหารช่วยเหลือก็ได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ดูแลลิงแสมตัวนี้เป็นกรณีพิเศษ โดยให้อยู่ในกรงขนาดใหญ่ตัวเดียว สถานที่เลี้ยงก็เหมาะสมกว่าในตลาด อยู่ในความดูแลของสัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างใกล้ชิด มีความสามารถและอุปกรณ์พร้อม เพราะเคยรักษากรณีลิงอ้วนมาหลายตัวแล้ว เช่น ลิงอ้วนที่บางขุนเทียน ซึ่งเจ้าของก็รับทราบและเข้าใจในระเบียบและข้อกฎหมาย ตลอดจนการดูแลของเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี

ขอบคุณข้อมูลจาก ทวิตเตอร์ #saveก๊อซซิล่า, ชุดปฏิบัติการพิเศษเหยี่ยวดง
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ดราม่า ก็อตซิลล่า โซเชียลวอนคืนลิงให้เจ้าของ - อุทยานฯ แจงอีกด้าน แบบนี้.. อัปเดตล่าสุด 30 มีนาคม 2564 เวลา 15:21:24 18,473 อ่าน
TOP
x close