x close

บทเรียนล้ำค่า ! ยูทูบเบอร์ดัง bearhug เปิดประสบการณ์ทำธุรกิจขาดทุนยับ 17 ล้าน !!

 

             บทเรียนล้ำค่า ! ยูทูบเบอร์ดัง bearhug เปิดประสบการณ์ทำธุรกิจขาดทุนยับ 17 ล้าน เผยทุกเหตุผล เป็นเพราะอะไร ทำไมขาดทุนเยอะขนาดนี้ ใครคิดจะทำธุรกิจ ควรดู

Bearhug ยูทูบเบอร์ดัง
ภาพจาก Bearhug 

Bearhug ยูทูบเบอร์ดัง
ภาพจาก Bearhug 

            เรื่องการทำธุรกิจนั้นนับว่าเป็นเรื่องที่จะว่าง่าย ก็ไม่ง่าย จะว่ายาก ก็ไม่ยาก ทุกวันนี้ใคร ๆ ก็สามารถเป็นเจ้าของธุรกิจได้แล้ว แต่จะทำอย่างไรให้ธุรกิจของเราอยู่ได้ตลอดรอดฝั่ง แน่นอนว่าตัวอย่างเรื่องความสำเร็จมีให้เห็นแล้วมากมาย แต่อีกมุมหนึ่งของการทำธุรกิจก็มีเรื่องราวของความไม่สมหวังอยู่เช่นเดียวกัน หลายคนต้องประสบพบเจอกับการขาดทุน

            เหมือนกับเรื่องราวนี้ที่ล่าสุด (27 มีนาคม 2564) ที่ซารต์ และกานต์ ยูทูบเบอร์ชื่อดังเจ้าของช่อง Bearhug ที่ออกมาแชร์ประสบการณ์บทเรียนอันล้ำค่าที่ทำธุรกิจแต่ขาดทุนไปถึง 17 ล้านบาท

Bearhug ยูทูบเบอร์ดัง
ภาพจาก Bearhug

- จุดเริ่มต้นของการทำธุรกิจ

            ซารต์ และกานต์ เป็นยูทูบเบอร์ชื่อดังที่มีผู้ติดตามกว่า 3 ล้านคน ทำคลิปเกี่ยวกับไลฟ์สไตล์และให้ความรู้ต่าง ๆ เช่น พาไปดูการทำไร่องุ่น รีวิวอาหาร พาไปดูโรงงานผลิตน้ำดื่ม โรงงานผลิตอาหาร และทำคลิปท่องเที่ยว ด้วยสไตล์ที่เป็นธรรมชาติสดใสในแบบฉบับของ ซารต์และกานต์ ต่อมาทั้งคู่ก็ตัดสินใจเปิดร้านชานมไข่มุกชื่อว่าร้าน Bear House จนเป็นกระแสที่ทำเอาหลายคนไปต่อคิวเพื่อรอลิ้มรสชาติ และต่อมา ซารต์และกานต์ ก็ได้ออกสินค้าใหม่คือชานม Sunsu ที่วางขายในเซเว่น โดยชานม Sunsu นี่เอง คือจุดเริ่มต้นของการแชร์ประสบการณ์ขาดทุน

- สิ่งที่ทำให้ ซารต์ และกานต์ ทำชานมกระป๋องเข้าเซเว่นแล้วขาดทุน

Bearhug ยูทูบเบอร์ดัง
ภาพจาก Bearhug

            กานต์ บอกว่าวันนี้เขาจะแชร์ประสบการณ์ให้ทุกคนได้รู้จะได้ไม่ผิดพลาดแบบเราและซารต์ โดยปัจจัยที่ทำให้ชานม 1 กระป๋อง ราคา 35 บาท ขาดทุนไม่ใช่ว่าขายไม่ได้ แต่มีเหตุผลมีดังนี้

            1. ไม่มีความรู้ ไม่เคยทำสินค้าเข้าเซเว่น ไม่เคยรู้เลยว่าอนาคตต้องเจอกับการหมุนเงิน ภาษี ค่าจ้าง ต้นทุนแฝง ฯลฯ รู้ตัวอีกทีคือขาดทุนไปแล้ว

            2. ซีเรียสเรื่องรสชาติเกินไป โดย ซารต์ใส่ใจในรายละเอียดเรื่องรสชาติมากจึงเลือกสูตรชานมที่มีต้นทุนอยู่ที่ 40% ซึ่งถ้าอยากอยู่รอดต้องปรับสูตรด้วยการลดต้นทุน แต่ถ้าปรับสูตรแล้วเราไม่แฮปปี้ ไม่ภูมิใจในสินค้าก็ไม่ทำดีกว่า

            3. การบริหาร Timing เช่น สั่งผลิตของมา 1,000 กระป๋อง ก็เลยทำการตลาด แต่พอทำการตลาดไปปุ๊บ คนมีความต้องการอยู่ที่ 2,000 กระป๋อง แต่เราบริหารเรื่องความต้องการของคนและช่วงเวลาการผลิตไม่ดี ไม่สอดคล้องกัน ช่วงที่คนต้องการเยอะก็ไม่พอ แต่ตอนกระแสเริ่มดรอปก็กลับผลิตเยอะทำให้จำนวนสต็อกสินค้าไม่พอดี

            4. เซเว่นมี 12,000 สาขา เพราะฉะนั้น อายุของสินค้า (Shelf-Life) เป็นเรื่องสำคัญ สมมุติสินค้ามีอายุ 1 ปี คุณต้องส่ง Shelf-Life ต้องมีอายุมากกว่า 10 เดือนเป็นต้นไป เพราะทางเซเว่นต้องนำสินค้าไปกระจายต่อ ซึ่งถ้าเราส่งของที่อีก 6 เดือนจะหมดอายุ ก็จะทำให้ของไปเน่าหน้าร้านได้

            5. ด้วยความเล่นใหญ่ใจโต ทำกระป๋องแบบสกรีนภาพ ข้อความลงในเนื้อกระป๋องเลย ก็ขาดทุนค่ากระป๋องอีก 3 ล้านบาท ซึ่งเป็นกระป๋องที่ไม่ได้ใช้แล้วเพราะยกเลิกการผลิต ก่อนจะนำกระป๋องพวกนี้ไปบริจาคให้มูลนิธิทำขาเทียมต่อไป ทั้งนี้ ถ้าหากชานมทำเป็นกระป๋องเปล่า ๆ ไม่สกรีนลงกระป๋องเลย แต่ทำเป็นพลาสติกคาดกลางกระป๋อง ก็ยังจะสามารถนำกระป๋องไปขายให้แบรนด์อื่นได้ แต่พอเป็นแบบนี้ก็ขายไม่ได้แล้ว

Bearhug ยูทูบเบอร์ดัง
ภาพจาก Bearhug







ขอบคุณข้อมูลจาก Bearhug

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
บทเรียนล้ำค่า ! ยูทูบเบอร์ดัง bearhug เปิดประสบการณ์ทำธุรกิจขาดทุนยับ 17 ล้าน !! อัปเดตล่าสุด 30 มีนาคม 2564 เวลา 23:03:54 46,667 อ่าน
TOP