หนุ่มกุมขมับฉ้อโกงคนอื่นหนีคดีมาได้นานกว่า 10 ปี สุดท้ายถูกตำรวจตามจับคาบ้านพัก ได้ก่อนหมดอายุความ 13 ชม. เจ้าตัวอ้างนานแล้วจำไม่ได้โกงใครมา
เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2564 แนวหน้า รายงานว่า เวลา 11.30 น. ชุดสืบสวน ภ.จว.อุทัยธานี เข้าจับกุมนายสมเกียรติ ปัญญา อายุ 53 ปี ที่บ้านแห่งหนึ่งในพื้นที่หมู่ 13 ต.ตองปิด อ.น้ำเกลี้ยง จ.ศรีสะเกษ ผู้ต้องหาตามหมายของศาลอาญา ในข้อหาความผิดร่วมกันฉ้อโกงประชาชน
การจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งสายว่า นายสมเกียรติ ได้หนีคดีฉ้อโกงประชาชน มาอาศัยบ้านหลังดังกล่าวอยู่ จึงเข้าไปตรวจสอบและแสดงหมายจับกุมในข้อหาความผิดร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ที่ก่อเหตุไว้เมื่อ 30 มีนาคม 2554 ในพื้นที่ สภ.ห้วยขวาง หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวมายัง กองบังคับการสืบสวน ภ.จว.อุทัยธานี เพื่อบันทึกการจับกุม หลังจากนั้นนำตัวส่งไปยัง สภ.ห้วยขวาง เจ้าของคดีพื้นที่
การจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งสายว่า นายสมเกียรติ ได้หนีคดีฉ้อโกงประชาชน มาอาศัยบ้านหลังดังกล่าวอยู่ จึงเข้าไปตรวจสอบและแสดงหมายจับกุมในข้อหาความผิดร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ที่ก่อเหตุไว้เมื่อ 30 มีนาคม 2554 ในพื้นที่ สภ.ห้วยขวาง หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวมายัง กองบังคับการสืบสวน ภ.จว.อุทัยธานี เพื่อบันทึกการจับกุม หลังจากนั้นนำตัวส่งไปยัง สภ.ห้วยขวาง เจ้าของคดีพื้นที่
นายสมเกียรติ ผู้ต้องหาให้การว่า ตนเองนั้นข้อปฏิเสธข้อกล่าวหา เนื่องตนไม่ทราบว่าไปก่อคดีไว้ตั้งแต่เมื่อไรและยังนึกไม่ออก เนื่องจากคดีนี้ใช้เวลามานานเกือบสิบปี และวันนี้เป็นวันสุดท้ายของหมายจับ ซึ่งเหลือเวลาอีกไม่กี่ชั่วโมงก็หมดเวลาตามจับแล้ว แต่กลับถูกเจ้าหน้าที่จับกุมเสียก่อน
โดยเมื่อประมาณ 10 ปี ที่แล้วตนได้ไปขับรถวินมอเตอร์ไซค์ย่านลาดพร้าว หลังจากนั้น ปี 2557 ตนก็กลับมาอยู่กับภรรยาที่บ้านหาดทนง และทำมาหากินตลอด จนมาถูกจับกุมตัว เนื่องจากมีเจ้าทุกข์เข้าแจ้งความในคดีฉ้อโกงประชาชนดังกล่าวไว้กับ สภ.ห้วยขวาง จำนวน 7 ราย
โดยเมื่อประมาณ 10 ปี ที่แล้วตนได้ไปขับรถวินมอเตอร์ไซค์ย่านลาดพร้าว หลังจากนั้น ปี 2557 ตนก็กลับมาอยู่กับภรรยาที่บ้านหาดทนง และทำมาหากินตลอด จนมาถูกจับกุมตัว เนื่องจากมีเจ้าทุกข์เข้าแจ้งความในคดีฉ้อโกงประชาชนดังกล่าวไว้กับ สภ.ห้วยขวาง จำนวน 7 ราย