ก็อตซิลล่า กัดมือนักข่าวสาว บก.ข่าว PPTV แจงดราม่า ไม่มีเจตนาแยกลิง

บก. หัวหน้านักข่าว PPTV แจงประเด็นถูกเจ้าของ ลิงก็อตซิลล่า โบ้ยนักข่าวสาว ต้องการจับลิงเองจนโดนกัดมือ วอนแยกแยะประเด็นลิงถูกอุทยานยึดไปดูแล

ภาพจาก เฟซบุ๊ก หนึ่ง นครนายก

จากข่าวของ เจ้าก็อตซิลล่า ลิงแสมตัวอ้วน ซึ่งถูกเลี้ยงโดยพ่อค้าแผงลูกชิ้น ตลาดมีนบุรี ซึ่งก่อนที่ลิงจะถูกชุดปฏิบัติการพิเศษเหยี่ยวดง พาตัวไปดูแลแทนเจ้าของเดิม มีเหตุการณ์ที่นักข่าวจากสถานีโทรทัศน์ PPTV ไปทำข่าว แต่ถูกเจ้าก็อตซิลล่ากัดมือ แผลติดเชื้อ คาดว่าน่าจะใช้เวลารักษาตัวอีกไม่ต่ำกว่า 2 สัปดาห์ ซึ่งบางส่วนวิจารณ์ไปที่ต้นสังกัดหลายประเด็น ทั้งกับเหตุการณ์นี้ รวมถึงการนำเสนอข่าวนั้น

ล่าสุด (3 เมษายน 2564) คุณพุทธิฉัตร จินดาวงศ์ บรรณาธิการข่าว PPTV ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก Puttichat Jindawong ชี้แจงถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ระบุว่า "ช่วง 3-4 วันที่ผ่านมา มีความเข้าใจคลาดเคลื่อนเรื่อง น้องก็อตซิลล่ากัด น้องเพลง หรือ คุณณัฐชา หน่องพงษ์ อยู่หลายประเด็น ในฐานะหัวหน้าของน้องเพลง ขอเรียนชี้แจงใน 3 ประเด็นหลัก ๆ ตามนี้

เรื่องแรก.. อาการของน้องเพลง หลังถูกลิงกัด ผมและทีมงานคิดว่าเป็นเรื่องเร่งด่วนและสำคัญที่สุด หลังถูกลิงกัดเมื่อวันที่ 24 มีนาคม และเข้าเป็นเคสฉุกเฉินที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ก่อนย้ายมาทำ MRI และผ่าตัดเพราะพบว่าเอ็นและเส้นประสาทได้รับความเสียหายบางส่วน ก็ได้กลับไปพักฟื้นที่บ้านก่อนจะพบว่าแผลมีสีคล้ำไม่ดีขึ้น จึงกลับมาตรวจและเข้าสู่กระบวนการรักษาอีกครั้ง จนพบว่าน้องเพลงติดเชื้อบางชนิด แนวทางการรักษาจำเป็นต้องหาเชื้อชนิดนี้ให้ไวที่สุด เนื่องจากเชื้อส่งผลให้เม็ดเลือดขาวต่ำ วิธีที่ได้ผลตรงที่สุดคือต้องตรวจเลือดน้องก็อตซิลล่า

แต่เนื่องจากเจ้าของลิงและกระแสในโซเชียลไม่ยินยอมให้ใช้ยาสลบ เจ้าหน้าที่จึงเลือกใช้วิธีเก็บตัวอย่างน้ำลายและอุจจาระของลิงแทน กระทั่งเมื่อวาน (2 เมษายน) ผมได้รับมอบหมายให้ประสานงานกับเจ้าของลิง และได้โทร. หาคุณรำพึง ภรรยาคุณมานพ เพื่อแจ้งอาการน้องเพลง และความจำเป็นในการเจาะเลือดลิง ถ้าถึงเวลาต้องทำ ซึ่งคุณรำพึงยินยอมให้เจาะ แต่มีเงื่อนไขว่าไม่ต้องการให้ใช้ยาสลบเหมือนเดิม พร้อมกับอาสาตัวไปจับลิงให้แทน หากเจ้าหน้าที่ต้องการเจาะเลือดเพื่อใช้เป็นข้อมูลในการรักษาน้องเพลง ล่าสุดยังอยู่ระหว่างรอผลเชื้อจากการตรวจหลายวิธีที่ยังไม่ได้ใช้วิธีเจาะเลือด

ภาพจาก เฟซบุ๊ก หนึ่ง นครนายก

ประเด็นที่ 2 .. เรื่องเจตนาจับลิงของน้องเพลง ในวันที่ไปทำข่าว (24 มีนาคม) ... เรื่องนี้เกี่ยวโยงกับประเด็นข่าวที่ทีมงานตั้งใจไปผลิต คือ เรื่องสุขภาพลิง โดยพยายามจะพิสูจน์ข้อสงสัยว่ารูปร่างของน้องก็อตซิลล่าจะมีผลต่อสุขภาพของน้องหรือไม่ หากมีจะมีวิธีแก้ปัญหาอย่างไร ไม่มีเจตนาแยกลิงกับเจ้าของออกจากกัน ในภาพที่ปรากฏเป็นข่าวจะเห็นว่าน้องเพลงยืนกอดอก ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากรู้สึกว่าน้องก็อตซิลล่าเครียดและมีท่าทีไม่เป็นมิตร จึงพยายามถามเจ้าของว่า น้องนิสัยเป็นอย่างไร ดุหรือไม่

ทั้งนี้ ผมจะอธิบายเฉพาะในส่วนที่มีข้อเท็จจริงในภาพฟุตเทจของทีมงานเท่านั้น จังหวะนั้นไม่ได้บันทึกภาพเหตุการณ์และคำพูดทั้งหมดได้ เพราะช่างภาพเก็บภาพเป็น Sequence ไม่ใช่การ Record ต่อเนื่อง จากนั้นได้ปรากฏภาพและเสียงที่เจ้าของลิงบอกให้น้องก็อตซิลล่ายื่นมือให้พี่เขาจับหน่อย และภาพก็ไปบันทึกได้ในจังหวะที่ลิงกัดน้องเพลงตามที่ปรากฏในข่าว ในเหตุการณ์ทั้งหมดนี้มีประเด็นใหญ่อยู่ 3 ประเด็น คือ

            1. เจ้าของลิง ไม่ได้ห้ามน้องเพลงจับลิงและเตือนว่าดุ อย่างที่ให้สัมภาษณ์ในรายการและข่าวของช่องต่าง ๆ แต่ในวิดีโอฟุตเทจก็ไม่มีข้อเท็จจริงถึงขั้นเจ้าของลิงเชิญชวนให้น้องเพลงจับลิง

            2. น้องเพลง ไม่ได้มีความกระตือรือร้นที่จะพุ่งเข้าไปจับลิงเหมือนอย่างที่ลูกชายเจ้าของให้สัมภาษณ์ เพราะตัวเองก็กลัวและยืนกอดอกตลอด เมื่อประเมินท่าทีน้องก็อตซิลล่าแล้ว

           3. ตั้งแต่เกิดเหตุ ทีมข่าวพีพีทีวีไม่ได้นำเสนอข่าวนี้อีกเลย แม้กระทั่งข่าวนักข่าวในสังกัดโดนลิงกัด จนถึงวันที่ (31 มีนาคม) ที่เจ้าของลิงไปให้สัมภาษณ์ในรายการและข่าวช่องต่าง ๆ ว่า นักข่าวต้องการจับลิงเอง ห้ามแล้วไม่ฟัง ทีมงานจึงตัดสินใจทำข่าวนี้ และนำภาพคลิปจังหวะกัดมานำเสนอ พร้อมกับเปิดโอกาสน้องเพลงได้ชี้แจงข้อมูลอีกมุม เนื่องจากเวลานั้นนอกจากอาการน้องเพลงจะไม่ดีขึ้น สภาพจิตใจที่ต้องเผชิญกับข้อกล่าวหาที่ตามมาก็เป็นปัญหาใหญ่ และน้องเพลงต้องการใช้สิทธิในการอธิบายเช่นกัน

           กอง บก. จึงตัดสินใจสัมภาษณ์น้องเพลง โดยมีโจทย์ว่า ต้องสัมภาษณ์เจ้าของลิงด้วย เพื่อนำเสนอข้อมูลของทั้ง 2 ฝ่าย (ย้อนกลับไปดูข่าวนี้ย้อนหลังเต็ม ๆ วันที่ 31 มีนาคม ได้ครับ) และคลิปที่นำมาเสนอคือฟุตเทจฉบับเต็มที่ได้มา และไม่มีคลิปยาวกว่านี้แล้ว เนื่องจากช่างภาพบันทึกได้แค่นี้ตามวิธีการที่ชี้แจงไปเบื้องต้น นี่เป็นเหตุผลที่ทำให้กอง บก. ตัดสินใจไม่ส่งต่อภาพนี้ให้เพื่อนสื่อนำเสนอ เพราะมันมีบริบทของเหตุการณ์ที่ไม่ปรากฏในภาพอีกจำนวนมาก และกลัวว่าหากไม่ได้ฟังข้อมูลจากทั้ง 2 ฝ่าย จะไม่เข้าใจและเกิดผลไม่ดีต่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง

           ประเด็นที่ 3 .. นักข่าวถูกกัดไม่ใช่ประเด็นหลักของข่าวนี้ เพราะเป็นเรื่องข้อพิพาทและความเห็นต่างระหว่างฝ่ายเจ้าของลิง กับ อุทยานฯ ที่ต้องไปต่อสู้กัน และตั้งแต่น้องเพลงถูกลิงกัด ทางบริษัทก็ประสานเรื่องสวัสดิการการรักษา และให้ความสำคัญกับแนวทางการรักษาน้องเพลง ณัฐชา พนักงานของตัวเอง ไม่มีเจตนาร้องขอความรับผิดชอบใด ๆ และใช้พื้นที่ข่าวของตัวเองเป็นเครื่องมือ เหมือนอย่างที่คุณนารากร ผู้ประกาศข่าวและเป็นรุ่นพี่ในวงการที่เคารพนับถือคนหนึ่ง ตีความเจตนาการนำเสนอข่าวและโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวเมื่อคืนนี้

           การนำเสนอข่าวเกิดขึ้นหลังจากน้องเพลงถูกลิงกัด (24 มีนาคม) กว่า 1 สัปดาห์ (31 มีนาคม) สืบเนื่องจากเจ้าของลิง กล่าวหาน้องเพลง ณัฐชา ว่า มีความต้องการอยากจับ โดยเจ้าของห้ามปราม ซึ่งมีข้อมูลไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริงในภาพข่าว

           สุดท้ายอยากให้ทุกคนแยกประเด็นระหว่างนักข่าวถูกลิงกัด กับ เรื่องการต่อสู้ระหว่างอุทยานฯ กับเจ้าของลิงและกองเชียร์ออกจากกันครับ เพราะมันเป็นคนละเรื่อง ... และหากมีความผิดพลาดเกิดขึ้นในฐานะหัวหน้างาน ผมและพี่ ๆ หัวหน้างานของน้องเพลง ขอน้อมรับความผิดชอบ และขอโทษต่อเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด ขอบคุณทุกคนมากครับ"

ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก Puttichat Jindawong

บก. ข่าว PPTV แจงดราม่า ก็อตซิลล่า กัดมือนักข่าวสาว ไม่มีเจตนาแยกลิงกับเจ้าของ