สาวอยากลาออกแต่เล่นใหญ่ สุดท้ายทำเดือดร้อนกันทั้งร้าน นายจ้างยัวะจัด เอาเรื่องร้ายแรงมาล้อเล่น แถมยังไม่สำนึก ตัดสินใจแจ้งจับให้หลาบจำ

วันที่ 7 เมษายน 2564 เว็บไซต์โอเรียนทัลเดลี่ รายงานว่า เจ้าของร้านคอฟฟี่ช็อปแห่งหนึ่งในรัฐยะโฮร์ ของมาเลเซีย ถึงคราวต้องโกรธจัดหลังได้เจอฤทธิ์วีรกรรมลูกจ้างสุดแสบ ที่มาทำงานเพียงวันเดียวก็ก่อเรื่อง กุเรื่องหลอกว่าตัวเองติดโรคโควิด 19 เพื่อจะลาออกจากงาน โดยไม่แคร์ว่าทางร้านจะเดือดร้อนหนัก ต้องทำการปิดร้านเพื่อฆ่าเชื้อในทันทีพร้อมส่งพนักงานทุก ๆ คนไปตรวจหาเชื้อ แถมหลังความแตกก็ยังไม่แสดงท่าทีรู้สึกผิดใด ๆ
โดยเจ้าของร้านดังกล่าว เผยผ่านเฟซบุ๊กของเขาเมื่อวันที่ 6 เมษายน เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. เขาเพิ่งได้รับแจ้งจากพนักงานหญิงที่เพิ่งมาทำงานที่ร้านได้เพียง 1 วัน ว่ามีผลตรวจยืนยันว่าติดไวรัส ดังนั้น เขาจึงเร่งดำเนินการตามมาตรการ คือปิดร้านเพื่อฆ่าเชื้อ ให้พนักงานทุกคนในร้านไปตรวจโรค รวมถึงแจ้งลูกค้าที่เข้าข่ายเสี่ยงให้รับทราบ
โดยเจ้าของร้านดังกล่าว เผยผ่านเฟซบุ๊กของเขาเมื่อวันที่ 6 เมษายน เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. เขาเพิ่งได้รับแจ้งจากพนักงานหญิงที่เพิ่งมาทำงานที่ร้านได้เพียง 1 วัน ว่ามีผลตรวจยืนยันว่าติดไวรัส ดังนั้น เขาจึงเร่งดำเนินการตามมาตรการ คือปิดร้านเพื่อฆ่าเชื้อ ให้พนักงานทุกคนในร้านไปตรวจโรค รวมถึงแจ้งลูกค้าที่เข้าข่ายเสี่ยงให้รับทราบ
ส่วนสาเหตุนั้นก็เพราะเจ้าตัวไม่อยากทำงานที่นี่แล้ว เธออยากลาออก และเลือกที่จะโกหกเพราะกลัวว่าทางร้านจะไม่ยอมให้ออก

เมื่อเขาถามย้ำว่า เธอรู้ตัวหรือไม่ว่าสิ่งที่ลงไปนั้นร้ายแรงแค่ไหน เจ้าตัวก็บอกง่าย ๆ ว่า รู้ แต่ก็ยังดูไม่มีท่าทีสำนึกผิดใด ๆ แถมยังโทษว่าพบเห็นคนในร้านไม่สวมหน้ากากอนามัยก็เลยทำให้ตัวเองอยากลาออกด้วย
เจ้าของร้านชี้ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นส่งผลกระทบต่อร้านอย่างหนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ร้านของเขาและทุก ๆ คนในอุตสาหกรรมนี้ยังไม่ฟื้นตัวจากสถานการณ์การระบาดของโรค แต่ผู้หญิงคนนี้กลับเอาเรื่องแบบนี้มาล้อเล่น

เดิมทีเขายังคิดที่จะให้โอกาสเธออีกครั้ง และขอคุยกับผู้ปกครองของเด็กสาวเพื่อแจ้งเรื่องพฤติกรรมของเธอให้ทางพ่อแม่ทราบ แต่กลับกลายเป็นว่าพ่อของเธอไม่คิดว่าลูกสาวตัวเองทำอะไรผิด
ทั้งนี้ ในที่สุดเขาตัดสินใจแจ้งตำรวจเพื่อเอาผิด เพราะร้านของเขาได้รับผลกระทบที่เกิดขึ้นจากคำโกหกของสาวคนนี้อย่างเลวร้ายจริง ๆ
ขอบคุณข้อมูลจาก โอเรียนทัลเดลี่