คอนโดเสียงดัง ขนาดอยู่ชั้นสูง ที่อุดหูก็เอาไม่อยู่ หลังจากใช้สิ่งนี้แก้ปัญหา ก็หลับสนิทตลอดคืน ไม่ต้องย้ายห้องหนี
ถือเป็นปัญหาอันดับต้น ๆ ของลูกบ้านเกือบทุกคนเลยก็ว่าได้ สำหรับเสียงรบกวนรอบด้านที่เปลี่ยนจากพื้นที่สงบสุข ให้กลายเป็นพื้นที่น่าปวดหัวในชั่วพริบตา ดังเช่นเรื่องราวของคุณ ปรากฎว่าไม่ สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ที่มีปัญหาเสียงรบกวนเช่นกัน แต่ในที่สุดก็สามารถค้นหาวิธีแก้ไขได้โดยไม่ต้องย้ายห้องหนี
คุณ ปรากฎว่าไม่ เล่าว่า เริ่มแรกซื้อคอนโดอยู่ชั้นสูง เข้าใจว่าน่าจะเงียบ ซึ่งมันก็เงียบจริง ๆ เสียงรถธรรมดาแทบจะไม่ได้ยินเลย แต่ปัญหาเกิดตรงที่หากมีเสียงรถมอเตอร์ไซค์ดัง ๆ หรือรถไฟฟ้าก็จะทะลุเข้ามาเลย ตอนกลางวันจะไม่ดังมาก เพราะมีเสียงรอบข้าง แต่ถ้าดึก ๆ ก็ดังพอที่จะทำให้ตื่นได้ เนื่องด้วยเป็นคนนอนหลับยาก บางทีเคลิ้ม ๆ ถ้ามีเสียงอะไรดังมาจะสะดุ้ง และตอนตื่นจะตื่นเร็ว เพราะเหมือนถูกปลุกให้ตื่นโดยไม่ตั้งใจ
ตอนแรกก็หาวิธีโดยไปเอาที่อุดหูมาใส่ แต่มันไม่เป็นธรรมชาติและชอบหลุด ลองมาหลายแบบ สุดท้ายไม่เวิร์กจริง ๆ เพราะนอนหลับได้ แต่ไม่ได้ดีเท่าที่ควร จึงลองหาวิธีแก้โดยตอนแรกอยากไปเปลี่ยนกระจกและหน้าต่าง แต่สุดท้ายก็รู้สึกว่ามันแพงมาก แถมมีคนบอกว่าไม่ได้ผลก็เยอะ สุดท้ายจึงตัดใจไม่ทำอะไร
แต่พอดีช่วงนั้นเป็นช่วงที่มี PM2.5 จึงไปซื้อเครื่องฟอกอากาศมาใช้ ตอนแรกไม่ได้คิดอะไร พอใช้ไปสักพักก็เริ่มคิดว่ามันมีโหมดกลางคืนให้เปิดตอนนอน ซึ่งพอเปิดแล้วพัดลมมันจะเบามาก จึงปรับเป็นแบบแรงขึ้นมาระดับหนึ่งซึ่งมันจะดังพอสมควร (ดังกว่าพัดลมพอสมควร และเสียงดังสม่ำเสมอตลอดเวลากว่าแอร์)
คราวนี้เลยเริ่มสังเกตว่าเสียงมันไปกลบเสียงอื่น ๆ ที่มาจากนอกห้อง จึงลองเปิดดู ผลปรากฏว่าหลับง่ายและหลับยาวขึ้น แทบจะไม่มีปัญหาเรื่องเสียงอีกเลย กลายเป็นว่าตอนนี้เอาเครื่องฟอกอากาศมากลบเสียงตอนนอน ซึ่งหากใครมีปัญหาเรื่องเสียงรบกวนก็ลองเอาไปใช้กันดูได้ พร้อมแนะนำเครื่องฟอกอากาศที่เคยใช้ คือ SHARP FP-J30TA-B และ Xiaomi Air purifier 2
ความเห็นส่วนตัวถ้าเทียบกับอย่างอื่น
1. พัดลมขนาดทั่วไป - เสียงถือว่าค่อนข้างเบากว่า ถ้าเปิดแอร์แล้วเปิดพัดลมจะต้องหันไปทางอื่นเพราะไม่งั้นจะค่อนข้างหนาว และกินไฟมากกว่าเครื่องฟอกอากาศ ถ้าจะเอาเสียงดังพอ ๆ กัน แล้วก็ความสวยงามของเครื่อง สู้เครื่องฟอกอากาศไม่ได้
2. แอร์ - รุ่นที่ใช้อยู่เสียงไม่สม่ำเสมอ มีจังหวะเงียบและดังตามการทำงานของคอมเพรสเซอร์ และถ้าเปิดแรงเสียงจะค่อนข้างสั่นไม่นิ่ม และที่สำคัญคือกินไฟถ้าเปิดแรง สุดท้ายเสียงจะแตกต่างกันไปตามยี่ห้อและรุ่น
3. มือถือเปิดเสียง - เลือกเสียงได้หลายแบบ อยากได้เสียงอะไรก็โหลดมาเลย แต่ไม่เวิร์ก เพราะค่อนข้างกินแบตเตอรี่ถ้าเปิดไว้ทั้งคืน แล้วตอนกลางวันเอามาใช้ต่ออีก แบตเตอรี่เสื่อมเร็วแน่นอน ไม่อย่างนั้นอาจต้องเอาเครื่องเก่า ๆ ที่ไม่ใช้แล้วมาเปิดก็พอได้ แต่สุดท้ายขี้เกียจชาร์จหลาย ๆ เครื่อง รู้สึกลำบากไปนิดหนึ่ง
ขอบคุณข้อมูลจาก คุณ ปรากฎว่าไม่ สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
ภาพจาก TonyRuji / Shutterstock.com
ถือเป็นปัญหาอันดับต้น ๆ ของลูกบ้านเกือบทุกคนเลยก็ว่าได้ สำหรับเสียงรบกวนรอบด้านที่เปลี่ยนจากพื้นที่สงบสุข ให้กลายเป็นพื้นที่น่าปวดหัวในชั่วพริบตา ดังเช่นเรื่องราวของคุณ ปรากฎว่าไม่ สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ที่มีปัญหาเสียงรบกวนเช่นกัน แต่ในที่สุดก็สามารถค้นหาวิธีแก้ไขได้โดยไม่ต้องย้ายห้องหนี
คุณ ปรากฎว่าไม่ เล่าว่า เริ่มแรกซื้อคอนโดอยู่ชั้นสูง เข้าใจว่าน่าจะเงียบ ซึ่งมันก็เงียบจริง ๆ เสียงรถธรรมดาแทบจะไม่ได้ยินเลย แต่ปัญหาเกิดตรงที่หากมีเสียงรถมอเตอร์ไซค์ดัง ๆ หรือรถไฟฟ้าก็จะทะลุเข้ามาเลย ตอนกลางวันจะไม่ดังมาก เพราะมีเสียงรอบข้าง แต่ถ้าดึก ๆ ก็ดังพอที่จะทำให้ตื่นได้ เนื่องด้วยเป็นคนนอนหลับยาก บางทีเคลิ้ม ๆ ถ้ามีเสียงอะไรดังมาจะสะดุ้ง และตอนตื่นจะตื่นเร็ว เพราะเหมือนถูกปลุกให้ตื่นโดยไม่ตั้งใจ
ตอนแรกก็หาวิธีโดยไปเอาที่อุดหูมาใส่ แต่มันไม่เป็นธรรมชาติและชอบหลุด ลองมาหลายแบบ สุดท้ายไม่เวิร์กจริง ๆ เพราะนอนหลับได้ แต่ไม่ได้ดีเท่าที่ควร จึงลองหาวิธีแก้โดยตอนแรกอยากไปเปลี่ยนกระจกและหน้าต่าง แต่สุดท้ายก็รู้สึกว่ามันแพงมาก แถมมีคนบอกว่าไม่ได้ผลก็เยอะ สุดท้ายจึงตัดใจไม่ทำอะไร
แต่พอดีช่วงนั้นเป็นช่วงที่มี PM2.5 จึงไปซื้อเครื่องฟอกอากาศมาใช้ ตอนแรกไม่ได้คิดอะไร พอใช้ไปสักพักก็เริ่มคิดว่ามันมีโหมดกลางคืนให้เปิดตอนนอน ซึ่งพอเปิดแล้วพัดลมมันจะเบามาก จึงปรับเป็นแบบแรงขึ้นมาระดับหนึ่งซึ่งมันจะดังพอสมควร (ดังกว่าพัดลมพอสมควร และเสียงดังสม่ำเสมอตลอดเวลากว่าแอร์)
คราวนี้เลยเริ่มสังเกตว่าเสียงมันไปกลบเสียงอื่น ๆ ที่มาจากนอกห้อง จึงลองเปิดดู ผลปรากฏว่าหลับง่ายและหลับยาวขึ้น แทบจะไม่มีปัญหาเรื่องเสียงอีกเลย กลายเป็นว่าตอนนี้เอาเครื่องฟอกอากาศมากลบเสียงตอนนอน ซึ่งหากใครมีปัญหาเรื่องเสียงรบกวนก็ลองเอาไปใช้กันดูได้ พร้อมแนะนำเครื่องฟอกอากาศที่เคยใช้ คือ SHARP FP-J30TA-B และ Xiaomi Air purifier 2
ความเห็นส่วนตัวถ้าเทียบกับอย่างอื่น
1. พัดลมขนาดทั่วไป - เสียงถือว่าค่อนข้างเบากว่า ถ้าเปิดแอร์แล้วเปิดพัดลมจะต้องหันไปทางอื่นเพราะไม่งั้นจะค่อนข้างหนาว และกินไฟมากกว่าเครื่องฟอกอากาศ ถ้าจะเอาเสียงดังพอ ๆ กัน แล้วก็ความสวยงามของเครื่อง สู้เครื่องฟอกอากาศไม่ได้
2. แอร์ - รุ่นที่ใช้อยู่เสียงไม่สม่ำเสมอ มีจังหวะเงียบและดังตามการทำงานของคอมเพรสเซอร์ และถ้าเปิดแรงเสียงจะค่อนข้างสั่นไม่นิ่ม และที่สำคัญคือกินไฟถ้าเปิดแรง สุดท้ายเสียงจะแตกต่างกันไปตามยี่ห้อและรุ่น
3. มือถือเปิดเสียง - เลือกเสียงได้หลายแบบ อยากได้เสียงอะไรก็โหลดมาเลย แต่ไม่เวิร์ก เพราะค่อนข้างกินแบตเตอรี่ถ้าเปิดไว้ทั้งคืน แล้วตอนกลางวันเอามาใช้ต่ออีก แบตเตอรี่เสื่อมเร็วแน่นอน ไม่อย่างนั้นอาจต้องเอาเครื่องเก่า ๆ ที่ไม่ใช้แล้วมาเปิดก็พอได้ แต่สุดท้ายขี้เกียจชาร์จหลาย ๆ เครื่อง รู้สึกลำบากไปนิดหนึ่ง