ย้อนเรื่องราวของสาวพนักงานขายสินค้าชาวจีน พบรักกับเจ้าชาย จนได้กลายเป็นเจ้าหญิงแห่งเบลเยียม ราวนิทานรักเทพนิยาย แต่เกิดขึ้นในชีวิตจริง
สาวสามัญชนบังเอิญพบกับเจ้าชาย และได้แต่งงานลงเอยกันอย่างมีความสุขในที่สุด เป็นเรื่องราวที่พบได้บ่อยครั้งในนิยายรักหวาน ตรงกันข้ามกับในชีวิตจริง แต่สำหรับหญิงสาวชาวจีนรายหนึ่ง ซึ่งแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะสามารถแต่งงานเข้าราชวงศ์ยุโรป แต่มันได้เกิดขึ้นจริงในชีวิตเธอ
- หลี่ หราน เกิดเมื่อปี 1984 ที่เมืองเหมยโจว ในมณฑลกวางตุ้ง ทางตะวันออกของจีน เธอเรียนด้านการเงินที่มหาวิทยาลัยภาษาและวัฒนธรรมปักกิ่ง ก่อนจะสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาเศรษฐศาสตร์
- หลังจากเรียนจบ หลี่ หราน เลือกที่จะเรียนต่อต่างประเทศ เธอไปเรียนภาษาและอารยธรรมฝรั่งเศสเป็นครั้งแรก ที่มหาวิทยาลัยซอร์บอนน์ ในกรุงปารีส
- จากนั้นเธอก็เข้าเรียนที่ Paris Advanced Management School เพื่อศึกษาการตลาดและการจัดการชั้นสูง จนได้รับปริญญาบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต หรือ MBA
- ช่วงที่เรียน หลี่ หราน เป็นนักศึกษาฝึกงาน ทำงานเป็นพนักงานขายในร้าน Givenchy เป็นที่แรก ก่อนจะไปทำที่ร้าน Fendi ตอนนั้นเธอไม่เคยคาดฝันว่าชะตาจะลิขิตให้เธอได้พบกับเจ้าชาย
- เจ้าชายชาร์ลส์ หรือชื่อเต็ม ชาร์ลส์ เลอมอร์โร โจเซฟ มัลคอล์ม (Charles Lemorro Joseph Malcolm) เกิดปี 1980 ในกรุงปารีส ฝรั่งเศส เป็นสมาชิกราชวงศ์เบลเยียม จากตระกูลลีญ (House of Ligne) ซึ่งเป็นราชวงศ์ที่เก่าแก่และมีชื่อเสียง
- ทายาทของตระกูลลีญ เป็นชนชั้นสูงทางธุรกิจมาโดยตลอด ชาร์ลส์ และเอดเวิร์ด พี่ชายของเขาเริ่มทำบริษัทโครงการก่อสร้างทางรถไฟความเร็วสูงและโครงการพัฒนาเมือง อีกทั้งยังลงทุนที่ดินในสหรัฐอเมริกา
- แต่ชาร์ลส์สนใจด้านวรรณกรรมและศิลปะ มากกว่าด้านในธุรกิจ จึงให้พี่ชายจึงดูแลในส่วนนั้น ส่วนตัวเขาทุ่มเทให้กับการเรียนการออกแบบภายในและกลายเป็นสถาปนิกที่มีชื่อเสียงในปารีส
- เนื่องจากต้องคอยตรวจสอบรูปแบบการออกแบบของร้านค้าต่าง ๆ อยู่ตลอดเวลา วันหนึ่งชาร์ลส์ได้เข้าไปในร้าน Fendi ซึ่งมีหลี่ หราน ทำงานอยู่ที่นั่น และได้ต้อนรับเขา
- ด้วยอาชีพการงาน ชาร์ลส์มีความชื่นชอบลึกซึ้งเกี่ยวกับสถาปัตยกรรมตะวันออก รวมถึงความงามแบบผู้หญิงตะวันออก เมื่อได้ทักทายหลี่ หราน ครั้งนั้น ก็ทำให้เขาประทับใจและตื่นเต้นมากเช่นเดียวกัน
- ตอนนั้น หลี่ หราน แอบสงสัยอยู่ในใจว่า ทำไมสุภาพบุรุษชาวยุโรปผู้อ่อนโยนคนนี้ จึงจ้องมองมาที่ตัวเธออย่างครุ่นคิด ก่อนที่ชาร์ลส์จะตระหนักว่า เขาเขินจนเสียสติและหน้าแดง
- เพื่อที่จะได้ใช้เวลาอยู่ใกล้ ๆ นานขึ้น ชาร์ลส์ขอให้หลี่ หราน พาเดินชมร้าน เธอเต็มใจด้วยความยินดี พาเขาไปเดินทัวร์รอบ ๆ ร้าน พร้อมกับแนะนำสินค้าบนชั้นวางของอย่างเชี่ยวชาญ
- ความรักโรแมนติกก่อตัวขึ้นในระยะเวลานานกว่า 1 ปี ชาร์ลส์มักจะไปที่ร้านเพื่อให้ได้พบกับหลี่ หราน มีการพูดคุยเกี่ยวกับสินค้า ชีวิตและการออกแบบต่าง ๆ
- ชาร์ลส์ พยายามหาเรื่องที่สามารถพูดคุยกับหลี่ หราน ได้ ถึงขนาดไปที่ห้องสมุดหลายครั้ง เพื่อยืมหนังสือเกี่ยวกับการตลาดและการจัดการชั้นสูง
- จากความพยายามรุกจีบของชาร์ลส์ จนในที่สุดหลี่ หราน ก็ยอมเปิดใจ รับช่อดอกกุหลาบและตอบรับคำเชิญไปออกเดต หลังจากทั้งสองก็ตกหลุมรักกัน ก็ตกลงคบหากันอย่างจริงจัง
- พ่อแม่ของหราน กังวลใจเรื่องความรักของลูกสาว ทั้งต้องทำงานหนักในปารีส และเจอกับผู้ชายที่นั่น รวมทั้งมีความคิดที่จะลงหลักปักฐานที่นั่น ทำให้พวกเขาเสียใจ
- ชาร์ลส์ เห็นถึงความเป็นห่วงลูกสาวของพ่อแม่เธอ เขาจึงรับปากว่า ถ้าได้แต่งงานกับหลี่ หราน ในฐานะภรรยา เขาตั้งใจจะให้เธออยู่ทั้งบ้านที่ปราสาท Beloir ในเบลเยียม และที่จีนด้วย
- หากหลี่ หราน มีทายาทในอนาคต ก็สามารถกลับไปเจอครอบครัวได้บ่อย ๆ ด้วยคำสัญญาที่อบอุ่นใจ ทำให้พ่อแม่ของเธอยอมเข้าใจและเห็นด้วยกับความรักของทั้งคู่
- หลังจากดูใจกัน 1 ปีครึ่ง ชาร์ลส์และหลี่ หราน ตัดสินใจแต่งงานกัน ในวันพิธี ทางราชวงศ์ได้ยกเว้นให้หลี่ หราน สวมชุดแต่งงานสีแดงขนาดใหญ่ได้ เพื่อเคารพประเพณีดั้งเดิมของเจ้าสาวจีน
- ในงานแต่งงานเจ้าชายมิทเชลแห่งลีญ มีความสุขที่ลูกชายของเขาได้แต่งงานกับภรรยาที่ดี เขาแนะนำลูกสะใภ้ในชุดแต่งงานสีแดงแก่แขกด้วยความภาคภูมิใจ
- การแต่งงานครั้งนี้หลี่ หราน และชาร์ลส์ ได้รับพรอันอบอุ่นจากชาวเบลเยียม และนับจากนั้นมา หลี่ หราน ได้กลายเป็นเจ้าหญิงแห่งเบลเยียม และเป็นสาวชาวจีนคนแรกที่แต่งงานกับราชวงศ์ยุโรป
- ทั้งสองรักในสิ่งต่างฝ่ายรัก ชาร์ลส์ชอบวาดภาพสีน้ำมัน หลังจากแต่งงานกัน หลี่ หราน ได้จัดสตูดิโอให้สามีของเธอเป็นพิเศษ ในเวลาว่างเธอมักจะไปนั่งดื่มชาชื่นชมสามีวาดภาพ
- หลี่ หราน เห็นว่าสามีของเธอหลงใหลในศิลปะตะวันออก เมื่อได้กลับไปเยี่ยมครอบครัวที่บ้านเกิด เธอจึงหาโอกาสพาเขาไปเยี่ยมเยียนจิตรกรชื่อดังของจีน ทำให้ชาร์ลส์มีความสุขมาก
- สองปีหลังจากแต่งงาน พยานแห่งความรักของพวกเขาได้กำเนิดขึ้น ชาร์ลส์และหลี่ หราน มีทายาทด้วยกัน ได้เป็นเจ้าชายตัวน้อยของตระกูลลีญ ชื่อว่า อะมาดีโอ (Amadeo)
- เมื่อมีบุตรชาย หลี่ หราน กลายเป็นภรรยาเต็มเวลา ชาร์ลส์ จัดหาบ้านที่อบอุ่นอีกหลังในเซี่ยงไฮ้ให้ภรรยา เพื่อตอบสนองความปรารถนาของเธอที่จะได้ไปหาแม่บ้าง
- หลังจากลูกชายไปโรงเรียน ชาร์ลส์กังวลว่าภรรยาของเขาจะเบื่อที่ต้องอยู่แต่บ้าน เขาสนับสนุนความชอบของเธอ ให้หลี่ หราน กลับไปทำงานในแวดวงที่เธอรัก
- หลี่ หราน ทำงานเป็นหัวหน้างานในบริษัทสินค้าหรูหราของยุโรป ในขณะชาร์ลส์เป็นคนรักความสงบ ไม่ค่อยปรากฏตัวในงานสังคม แม้ว่าทั้งสองจะมีความชอบและไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกัน แต่ก็คอยซัrพอร์ตอยู่เคียงข้างกันเสมอ
ขอบคุณข้อมูลจาก bestchinanews, sina, ecbasis