#SaveRalph คืออะไร ตามไปดูที่มาแฮชแท็กร้อน แอนิเมชั่นบีบหัวใจ กระต่ายน้อยกับชะตากรรมที่โหดร้ายในโรงงาน กับกระแสแบนเครื่องสำอางที่ใช้สัตว์ทดลอง
กำลังเป็นประเด็นร้อนที่ถูกพูดถึงกันทั่วโลก สำหรับแฮชแท็ก #SaveRalph ที่ผู้คนต่างออกมาร่วมกันรณรงค์แบนผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและสินค้าต่าง ๆ ที่มีการใช้สัตว์ทดลองในการทดสอบผลิตภัณฑ์เพื่อความปลอดภัยของมนุษย์ หวังจะนำไปสู่การยุติชะตากรรมอันโหดร้ายของสัตว์ทดลอง ที่ต้องพบเจอกับความทรมานเพื่อความสวยงามของมนุษย์
จุดเริ่มต้นของแฮชแท็ก #SaveRalph เกิดขึ้นจากแอนิเมชั่นแนวสต็อปโมชัน เรื่อง "Save Ralph" ผลงานการเขียนบทและกำกับโดย สเปนเซอร์ ซัสเซอร์ (Spencer Susser) ผู้กำกับดังจากฮอลลีวูด ในความร่วมมือกับ Humane Society International องค์กรพิทักษ์สัตว์ระดับโลก เพื่อรณรงค์ให้ทั่วโลกร่วมกันแบนเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ที่มีการทดลองในสัตว์
เนื้อหาของ Save Ralph บอกเล่าเรื่องราวของกระต่ายชื่อ ราล์ฟ (Ralph) ซึ่งทำงานเป็นสัตว์ทดลองอยู่ในโรงงานเครื่องสำอางแห่งหนึ่ง ในขณะที่เนื้อหาพาผู้ชมไปติดตามชีวิตประจำวันของกระต่ายทดลองตัวนี้ ก็จะได้พบกับภาพสะท้อนชีวิตอันโหดร้ายของสัตว์ทดลอง ที่ต้องเผชิญกับความเจ็บปวดทรมานจากการถูกฉีดสารเคมีเข้าที่ตา ถูกโกนขน ถูกสารเคมีเผาที่หลัง เพื่อทดสอบอาการระคายเคืองต่าง ๆ โดยไม่มีการรักษา ทำให้พวกมันต้องอยู่ในสภาพสุดเลวร้าย ดังเช่น ราล์ฟ ที่มีบาดแผลบนตัว หูหนวก และตาบอดไป 1 ข้างจากการถูกนำมาใช้ทดลอง
ในทางกลับกัน หากไม่มีการอนุญาตให้ใช้สัตว์ทดลอง ชีวิตของกระต่ายเหล่านี้ก็คงได้วิ่งเล่นอยู่ตามทุ่งหญ้า เฉกเช่นกระต่ายทั่ว ๆ ไป
แอนิเมชั่นเรื่องนี้ยังทิ้งท้ายว่า "ไม่มีสัตว์ตัวไหนควรทรมานและตายไป ในนามของความสวยงาม"
Ralph ตัวแทนสัตว์ทดลอง
ในขณะที่ Save Ralph บอกเล่าเรื่องราวของกระต่ายทดลองเพียงกลุ่มเดียว แต่ชีวิตของ ราล์ฟ คือภาพสะท้อนความจริงที่โหดร้ายซึ่งเกิดขึ้นกับกระต่ายและสัตว์ทดลองอื่น ๆ อีกหลายพันตัวที่ถูกนำมาใช้ในแต่ละปี เพื่อทดสอบความเป็นพิษของสารเคมี ในอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง
จำเป็นหรือไม่ที่ต้องใช้สัตว์ทดลอง ในการผลิตเครื่องสำอาง
แม้ในอุตสาหกรรมเครื่องสำอางจะมีการนำสัตว์ทดลองมาใช้ทดสอบผลิตภัณฑ์ตั้งแต่อดีต แต่ข้อมูลจาก Humane Society International เผยว่า ปัจจุบันนี้มีเครื่องสำอางแบรนด์ใหญ่ ๆ มากมายที่ไม่ได้ใช้สัตว์ในการทดลองแล้วในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และพบว่ายังมีการห้ามใช้สัตว์ทดลองใน 40 ประเทศ แต่น่าเศร้าที่หลายประเทศกลับมีนโยบายที่ต่างออกไป ซ้ำร้ายยังมีกฎหมายเกี่ยวกับสารเคมีในบางประเทศ ที่กำหนดให้ต้องมีการทดสอบในสัตว์เพิ่มขึ้น
ผู้บริโภค กับทางเลือกเพื่อมนุษยธรรม
ในขณะที่ผลิตภัณฑ์เสริมความงาม เครื่องสำอาง สกินแคร์ ตลอดจนผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย แชมพู ต่าง ๆ มากมายหลายแบรนด์ยังคงมีการใช้สัตว์ทดลอบในการทดสอบผลิตภัณฑ์ แต่ผู้บริโภคยังคงมีตัวเลือกในการใช้เครื่องสำอาง Cruelty-free ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่ทดลองกับสัตว์ โดยสามารถสังเกตได้จากสัญลักษณ์รูปกระต่ายบนผลิตภัณฑ์นั้น ๆ รวมถึงมีบางองค์กรที่รวบรวมรายชื่อแบรนด์ที่เป็นสินค้า Cruelty-free ออกมาด้วย เช่น crueltyfree.peta.org
ข้อมูลจาก entrepreneur.com, hsi.org, crueltyfree.peta.org