สาวมีใจให้พ่อผัว ความรักที่ต้องเก็บซ่อน อายุห่าง 29 ปีไม่ใช่ปัญหา จนสุดท้ายได้ลงเอย

           สาวเปิดชีวิต พบรักกับพ่อสามี แอบมีใจให้กันแต่ต้องเก็บไว้ ในที่สุดก็ถึงวันที่เคลียร์กันทั้ง 2 ฝ่าย ตัดสินใจสานรัก สร้างครอบครัว อายุห่าง 29 ปีไม่ใช่ปัญหา

           วันที่ 20 เมษายน 2564 เว็บไซต์เดลี่เมล นำเสนอเรื่องราวของ เอริกา และ เจฟฟ์ กวิกเกิล คู่สามีภรรยาจากรัฐเคนทักกี สหรัฐฯ ซึ่งกลายมาเป็นที่ฮือฮาของคนในชุมชน ด้วยความสัมพันธ์รักที่ค่อนข้างซับซ้อนของทั้งคู่ เมื่อเจฟฟ์นั้นเคยเป็นอดีตพ่อสามีของเอริกา แถมคนทั้งคู่ยังมีอายุห่างกันราวพ่อกับลูก เรียกว่าช่องว่างระหว่างวัยมีมากถึง 29 ปี แต่ถึงอย่างนั้นทั้งคู่ก็ยืนกรานว่ารักครั้งนี้เป็นไปได้อย่างราบรื่นและลงตัวสุด ๆ

           อย่างไรก็ตาม เนื่องจากความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนนี้ทำให้เกิดเสียงครหาขึ้น เพราะก่อนหน้านี้ทั้ง 2 ฝ่ายต่างก็แต่งงานมีคนรักเป็นตัวเป็นตน แถมยังเป็นครอบครัวใกล้ชิดกัน การที่อยู่ ๆ ทั้งคู่จะหย่าร้างแล้วมาแต่งงานกันเองนั้นจึงทำให้หลายคนเกิดความคาใจ อดไม่ได้ที่จะมองว่าเอริกาเลือกที่จะหย่าขาดจากสามีเดิม เพื่อมาสานรักกับพ่อสามีของตัวเอง ด้วยเหตุนี้เอริกาจึงเลือกที่จะออกมาเปิดอกคุยถึงเรื่องความรักและชีวิตสมรสที่สิ้นสุดไปก่อนหน้านี้

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Jeff Quiggle

           โดย เอริกา วัย 31 ปี ยอมรับว่าเธอแอบมีใจให้กับ เจฟฟ์ วัย 60 ปี ตั้งแต่ตอนที่เธอยังมีสถานะเป็นสะใภ้ของเขา เพราะเขาเป็นคนเข้ามาช่วยปลอบโยนจิตใจ เป็นที่พึ่งพาให้เมื่อครั้งที่ชีวิตสมรสของเธอมีปัญหา แต่เพราะไม่อยากให้ทำให้ใครเจ็บปวด เธอจึงเลือกที่จะเก็บซ่อนความรักนี้ไว้ จนกระทั่งวันหนึ่งถึงรู้ความจริง ว่าเจฟฟ์ก็มีความรู้สึกลึกซึ้งกับเธอเช่นกัน

           จริง ๆ แล้วเอริการู้จักกับเจฟฟ์มาตั้งแต่ตอนที่เธออายุเพียง 16 ปี เพราะเธอเป็นคนชื่นชอบงานกิจกรรม และเคยร่วมงานกิจกรรมโชว์รถและประกวดแฟชั่นแนววินเทจที่จัดขึ้นในชุมชน ขณะที่เจฟฟ์เป็นหนึ่งในผู้จัดงาน ทำให้เธอกับเขามีความคุ้นเคยกันดี

           แต่ความสัมพันธ์ดังกล่าวยังไม่มีอะไรเกินเลย และเมื่อเวลาผ่านไป เอริกาในวัย 19 ปี ก็ได้พบรักและแต่งงานกับ จัสติน โทเวลล์ เมื่อปี 2553 โดยจัสตินเป็นเพื่อนกับพี่ชายของเธอ และคนในครอบครัวของทั้ง 2 ฝ่ายต่างก็มองว่าเธอกับเขาเหมาะสมกันมาก จำเป็นต้องแต่งงานกันเพื่อเริ่มต้นชีวิตคู่

           อย่างไรก็ตาม เอริกายอมรับว่าเมื่อได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน ความแตกต่างของทั้ง 2 คนก็ยิ่งแสดงให้เห็นเด่นชัด ในขณะที่เธอเป็นมีความฝัน มีความทะเยอทะยาน ชอบเดินทางและรักการผจญภัย แต่จัสตินซึ่งเป็นคนงานในโรงงานแห่งหนึ่ง กลับชอบที่จะนั่งอยู่กับบ้านในแต่ละวัน แม้เขาจะไม่ได้ต่อต้านในสิ่งที่เธอชื่นชอบ แต่ก็ไม่เข้าใจในความต้องการของเธอ

           ชีวิตแต่งงานของทั้งคู่ขาดความมีชีวิตชีวา แม้แต่ลูกชายที่ลืมตาดูโลกในปี 2555 ก็ยังไม่อาจลดช่องว่างความแตกต่างระหว่างทั้ง 2 คนได้ กระทั่งเวลาผ่านไป 3 ปี เธอก็มาอยู่ในจุดที่ทนไม่ไหวกับปัญหาในชีวิตสมรสที่สั่งสมมานาน ตอนนั้นเองที่เจฟฟ์ ซึ่งเป็นพ่อเลี้ยงของจัสติน กลายมาเป็นที่พึ่งทางใจแก่เธอ เป็นคนที่เธอมักจะมาปรับทุกข์ให้ฟัง ทำให้เธอเริ่มเกิดความรู้สึกบางอย่างที่พิเศษต่อเขา

           เอริกายอมรับว่า เธอจำต้องทนอยู่กับชีวิตแบบนั้นและคงสถานะภรรยาของจัสตินไว้ ก็เพื่อลูกชายของพวกเธอ แต่สุดท้ายความรักนั้นก็มาถึงทางตัน เธอกับจัสตินตัดสินใจแยกทางกันในเดือนกันยายน 2559

           ขณะเดียวกัน ชีวิตแต่งงานของเจฟฟ์กับแม่ของจัสตินก็มาถึงจุดสิ้นสุดลงเช่นกัน โดยเจฟฟ์ได้มาสารภาพกับเอริกาในภายหลังว่า เขาเองก็มีความรู้สึกลึกซึ้งแก่เธอเช่นกัน แม้ทั้งคู่จะรู้ว่ามันอาจเป็นเรื่องอื้อฉาว แต่ก็ไม่อาจยอมแพ้ในความรู้สึกที่มีให้กันได้

           ทั้งนี้ หลังมั่นใจว่าไม่อาจหยุดรักครั้งนี้ได้ เอริกาก็ตัดสินใจเล่าสิ่งที่เกิดขึ้นให้จัสตินฟังอย่างตรงไปตรงมา และก็ต้องแปลกใจกับท่าทีของเขา ที่ไม่ได้เห็นค้าน ในทางกลับกันเขายังพร้อมสนับสนุนเธอให้ได้อยู่กับคนที่เธอรักอย่างแท้จริง ในขณะที่ทั้งคู่จะยังคงความสัมพันธ์ที่ดีกันต่อไป ทำหน้าที่เป็นพ่อและแม่ให้กับลูกชายตามเดิม  

           เมื่อจัดการเรื่องหย่าร้างเสร็จสิ้นแล้วทั้งเอริกาและเจฟฟ์ ก็เริ่มคบหากันอย่างเปิดเผยและย้ายไปอยู่ด้วยกัน โดยเจฟฟ์ยอมรับว่าเมื่อยิ่งได้รู้จักเอริกามากขึ้นเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งรักเธอมากขึ้นเท่านั้น ขณะที่เอริกาก็ชื่นชมในความเฉลียวฉลาดรอบรู้ของเจฟฟ์ ซึ่งมีอาชีพหลักเป็นวิศวกร

           ในที่สุดทั้งคู่ก็แต่งงานกันในปี 2561 และมีลูกสาวด้วยกันอีกคนหนึ่ง สร้างครอบครัวที่สมบูรณ์ด้วยกัน โดยเอริกาเผยว่า "แม้จะฟังดูเป็นเรื่องค่อนข้างอื้อฉาว แต่เรามีความรักที่ไม่อาจปฏิเสธได้ แม้จะมีเรื่องทุกอย่างเหล่านี้เกิดขึ้น แต่ตอนนี้ความสัมพันธ์ของเราสมบูรณ์แบบ"

           เธอเผยว่า ในขณะที่เจฟฟ์มีจิตใจเหมือนคนหนุ่ม เธอเองก็มีความนึกอ่านที่โตเกินวัย ช่องว่างระหว่างวัยที่มีอยู่จึงไม่ได้เป็นปัญหาอะไรในชีวิตคู่ และโชคดีที่อดีตสามีของเธอก็เป็นคนดีที่เข้าอกเข้าใจ ตอนนี้เขาก็แต่งงานใหม่แล้ว แต่ยังคงอาศัยอยู่ในชุมชนใกล้เคียง แม่ของเขาที่เป็นอดีตภรรยาของเจฟฟ์ก็เช่นกัน ทั้งคู่ต่างหวังให้ชีวิตคู่ของเธอกับเจฟฟ์ดำเนินไปด้วยดี

           ทั้งนี้ จัสตินยอมรับว่า ตอนนี้ทุก ๆ อย่างระหว่างเขากับอดีตภรรยาเป็นไปได้ด้วยดีแล้ว ไม่มีความเกลียดชังอะไรต่อกันอีก พวกเขายังคุยกันเรื่องลูกชาย และต่างก็มูฟออนไปมีชีวิตของตนเอง และเขากับเธอก็พร้อมสนับสนุนกันและกัน

           ทางด้านเจฟฟ์ ยืนยันว่าความสัมพันธ์ของเขากับจัสตินก็ไม่ได้ต่างไปจากเดิม แม้ตอนเริ่มมันจะยากเล็กน้อย แต่ตอนนี้ทุกอย่างก็ดีแล้ว เพราะเจฟฟ์เป็นคนที่ดีมาก ๆ

ขอบคุณข้อมูลจาก เดลี่เมล