x close

เจอแล้ว ! กิโยตีน หลังลูกศิษย์ขนไปซ่อน - ทุบรูปปั้นเทพถวายหัวแล้ว หวั่นคนเข้าใจคำสอนผิด ๆ

             ตำรวจตรวจยึดชิ้นส่วนกิโยตีน หลังลูกศิษย์ขนไปซ่อน เตรียมหาผู้เชี่ยวชาญมาประกอบเพื่อดูว่าทำได้จริงหรือไม่ - ล่าสุดทุบรูปปั้นเทพถวายหัวแล้ว ชี้ ทุบเพื่อป้องกันความเชื่อที่ผิดต่อพฤติกรรมการตัดหัวถวายพระพุทธเจ้าที่ไม่ตรงตามหลักคำสอนคือไม่มีอยู่จริง
             จากกรณีข่าว พระธรรมกร หรือ นายธรรมกร อดีตเจ้าอาวาสสำนักสงฆ์ภูหินกอง จ.หนองบัวลำภู ใช้มีดตัดคอตัวเองเสียชีวิต เพื่อถวายพระพุทธเจ้าตามความเชื่อส่วนบุคคล โดยร่างถูกนำมาใส่ในโลงแกะสลัก ด้านบนมีโลงเล็ก ๆ อีกใบวางอยู่ คาดว่าน่าจะเป็นศีรษะ ตั้งไว้หลังเจดีย์ เมื่อสอบถามญาติโยมต่างเงียบ ไม่ยอมให้ข่าวใด ๆ พูดแค่หลวงพ่อทำตามที่กล่าวไว้ ท่านบรรลุแล้ว และตรงจุดที่ฆ่าตัวตายมีรูปปั้นคล้ายพระอินทร์ไม่มีศีรษะ มือทั้ง 2 ข้างถือศีรษะไว้ หลังจากนั้นตำรวจได้ตรวจยึดชิ้นส่วนกิโยตีนได้แล้ว หลังลูกศิษย์นำไปซ่อนที่สำนักสงฆ์แห่งหนึ่งใน จ.อุดรธานี

 อ่านข่าว : เตรียมพิสูจน์ชิ้นส่วนกิโยตีน หลังลูกศิษย์ขนไปซ่อน - พบหนังสือ "พระพุทธเจ้าองค์ใหม่"

             ล่าสุด (22 เมษายน 2564) เรื่องเล่าเช้านี้ ได้นำเสนอภาพของกิโยตีน ที่อยู่ในลักษณะประกอบเสร็จ แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงกิโยตีนดังกล่าวก็หายไปแล้ว จนสามารถตรวจยึดชิ้นส่วนต่าง ๆ ได้ที่สำนักสงฆ์ จ.อุดรธานี ตามที่รายงานข้างต้น

             โดย พล.ต.ต. นิพนธ์ พานิชเจริญ ผบก.ภ.จว.หนองบัวลำภู กล่าวว่า หลังจากนี้จะหาผู้เชี่ยวชาญมาลองประกอบกิโยตีนเพื่อพิสูจน์ว่าใบมีดที่พบ เมื่อถูกถังปูน 2 ใบน้ำหนักรวม 34 กิโลกรัม ถ่วงไว้จะมีน้ำหนักพอที่จะตัดคอให้ขาดหรือไม่ หรือมีใครช่วยตัด อย่างไรก็ตามชิ้นส่วนทั้งหมดเกือบครบแล้วเหลือส่วนที่ใช้ชักดึงเท่านั้น

             พล.ต.ต. นิพนธ์ ระบุว่า หลังจากนี้จะแจ้งให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานมาตรวจคราบเลือด ดีเอ็นเอ ประกอบหลักฐานต่อไป และจะตรวจสอบลายมือในจดหมายลาตายว่าเป็นของพระธรรมกรจริงหรือไม่

             สำหรับการดำเนินคดีต้องแยกเป็น 3 ส่วน ดังนี้

             1. เรื่องของศพ ทั้งก่อนที่จะเป็นศพและหลังเป็นศพ ว่าในช่วงเกิดเหตุนั้นมีใครบ้าง
             2. ที่เกิดเหตุ จะต้องรู้ในเรื่องว่าใครอยู่ในที่เกิดเหตุ
             3. ใครเป็นคนร่วมจัดหาอุปกรณ์ และรวมไปถึงการเคลื่อนย้ายอุปกรณ์


             สำหรับผู้ใดกระทำการใดแก่ศพและสภาพแวดล้อมก่อนชันสูตร ทำการเคลื่อนย้ายและเปลี่ยนแปลงสภาพที่เกิดเหตุ ทำให้ผลทางคดีเปลี่ยนแปลง ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 2 ปี ปรับตั้งแต่ 1 หมื่น ถึง 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และในวรรคที่สองที่กฎหมายวางหลักไว้นั้น หากเกิดขึ้นตามวรรคแรก ถ้าเป็นการกระทำโดยทุจริต เพื่ออำพรางคดีต้องระวางโทษขึ้น 2 เท่า


             นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ได้นำผ้าขาวมาคลุมรูปปั้นเทพถวายหัว และรื้ออิฐบล็อกที่วางล้อมเป็นวงกลมไว้บริเวณที่เชื่อว่าเป็นที่ตัดคอของพระธรรมกร หลังจากนี้ก็จะมีการเข้าทุบทำลายต่อไป

             ต่อมา เฟซบุ๊ก เรื่องเล่าเช้านี้ รายงานว่า เจ้าหน้าที่เลื่อนการทุบรูปปั้นไปก่อน จากเดิมกำหนดไว้ในเวลา 10.00 น. เนื่องจากจะต้องทำพิธีสวดถอนตามความเชื่อก่อน โดยทราบว่าสำนักพุทธหนองบัวลำภู นายอำเภอเมือง และ กอ.รมน. ได้นัดหารือกัน คาดว่าจะทำพิธีสวดถอนที่นั่นเลย จากนั้นจะเดินทางมาทุบรูปปั้นเทพถวายหัวต่อไป

             ขณะที่บรรยากาศภายในสำนักสงฆ์ภูหินกองไม่พบลูกศิษย์และแม่ชี แต่มีชาวบ้านทยอยเดินทางมารอดูเจ้าหน้าที่ทุบรูปปั้น เนื่องจากเมื่อวานนี้ช่วงที่เจ้าหน้าที่เอาผ้าขาวมาคลุมรูปปั้น เกิดเหตุการณ์แปลก ๆ จากท้องฟ้าที่มีแดดเปรี้ยง ๆ อยู่ก็กลับมืดครึ้มขึ้นมา สร้างความประหลาดใจเป็นอย่างมาก เชื่อว่าพระธรรมกรอาจจะยังอยู่แถวนี้ไม่เห็นด้วยที่จะทุบรูปปั้น ชาวบ้านอีกรายบอกว่า ทุบรูปปั้นได้ แต่ไม่อยากให้รื้อสิ่งก่อสร้างในวัด ควรทำเป็นแหล่งท่องเที่ยว


          ต่อมา เดลินิวส์ออนไลน์ รายงานว่า เวลา 14.00 น. ที่บริเวณที่พักสงฆ์ภูหินกอง บ้านนาแค ต.หนองบัว อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู พ.อ. พุทธิวัฒน์ สิริพงศ์พล รอง ผอ.รมน.จ.หนองบัวลำภู, นายเผด็จ โยธะพล พราหณ์หลวง หรือจอมขมังเวท ที่เดินทางมาจากจังหวัดอุดรธานี และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันประกอบพิธีทุบทำลายรูปปั้นเทพถวายหัว หลังประชุมกันแล้วได้ข้อสรุปว่าต้องทุบเพื่อป้องกันปัญหาพฤติกรรมเลียนแบบและป้องกันความเชื่อที่ผิดต่อพฤติกรรมการตัดหัวถวายพระพุทธเจ้าที่ไม่ตรงตามหลักคำสอนคือไม่มีอยู่จริง

          นายเผด็จ กล่าวว่า ตนติดตามข่าวนี้มาอย่างต่อเนื่อง ตกใจที่มีพระที่กล้าทำอะไรที่ไม่มีในหลักคำสอน จากการตรวจสอบรูปปั้นทั้งหมดถือเป็นเดรัจฉานวิชา มีความเกลียดชัง ชิงชังเป็นอย่างมาก การทุบทำลายจำเป็นต้องเก็บกวาดให้เกลี้ยง จึงได้ให้ทุบไปพร้อมกับผ้าที่คลุม โดยวันนี้ได้เชิญ พระนารายณ์ พระอินทร์ ที่คาถาลงท้ายว่า มะ อะ อุ ที่จะทำการสะกดสิ่งชั่วร้ายให้ตกตายไปตามกัน โดยจะต้องทำเศษรูปปั้นทั้งหมดไปทิ้งไว้บนกองขยะ เพราะเป็นสิ่งโสโครกที่ไม่ต้องได้กลับมาสร้างปัญหาหรือมาทำร้ายประชาชนที่จะหลงผิดไปอีก

พระตัดหัวตัวเอง
ภาพจาก ข่าวช่องวัน

          ด้าน พล.ต.ต. นิพนธ์ พานิชเจริญ ผบก.ภ.จว.หนองบัวลำภู กล่าวว่า ในทางคดีขณะนี้ตำรวจชุดคลี่คลายคดีสามารถติดตามเอาภาพถ่ายที่เป็นประโยชน์ในรูปคดีได้แล้วบางส่วน ซึ่งการตายของนายธรรมกร วังปรีชา อายุ 68 ปี หรืออดีตพระธรรมกร นั้น มีบุคคลที่เกี่ยวพันหลายคนแต่ยังให้การปฏิเสธว่าไม่รู้เรื่องและอ้างว่าเป็นเรื่องส่วนตัวของผู้ตาย

          ด้าน นางศิวพร ฉั่วสวัสดิ์ ผวจ.หนองบัวลำภู กล่าวว่า หลังจากได้ทุบทำลายตามพิธีกรรมไปแล้ว พื้นที่แห่งนี้ก็จะต้องรอการพิจารณาและตัดสินใจร่วมกันระหว่างกองทัพและ มทบ.28 ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อ เนื่องจากยังมีสิ่งปลูกสร้างก็อาจจะมีการพิจารณาต่อไปว่าจะทำอย่างไร ในด้านผลคดีก็ได้มอบให้กับตำรวจภูธรจังหวัดติดตาม ส่วนในเรื่องของความเชื่อคำสั่งสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่มีเลยที่จะบอกได้ว่าการฆ่าตัวตายเป็นการทำเพื่อถวายพระพุทธเจ้า จะมีก็แต่การทำความดีละเว้นความชั่ว ไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ให้ถือศีล 5 และนับจากนี้ก็จะทำการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนอย่าเชื่อและหลงทางเช่นนี้เพราะถือเป็นเรื่องที่สะเทือนขวัญคนทั้งประเทศ


ขอบคุณข้อมูลจาก เรื่องเล่าเช้านี้, เฟซบุ๊ก เรื่องเล่าเช้านี้, เดลินิวส์


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เจอแล้ว ! กิโยตีน หลังลูกศิษย์ขนไปซ่อน - ทุบรูปปั้นเทพถวายหัวแล้ว หวั่นคนเข้าใจคำสอนผิด ๆ อัปเดตล่าสุด 22 เมษายน 2564 เวลา 17:19:57 14,145 อ่าน
TOP