สาวร้องถูกอดีตสามีชาวอียิปต์ลักพาตัวลูกสาว 3 ขวบ หวั่นพาลูกออกนอกประเทศ โต้ข่าวป่วยทางจิต แฉกลับยับ อดีตสามีชอบบังคับ ให้ลูกกินแต่ผัก ประหยัดมากไปไหนต้องเดินอย่างเดียว แถมใช้เป็นเครื่องมืออยู่ไทย
![คดีพลิก ?! สาวแฉกลับ อดีตสามีอียิปส์ลักพาตัวลูก สุดทนให้กินแต่ผัก ใช้เป็นเครื่องมืออยู่ไทย]( "คดีพลิก ?! สาวแฉกลับ อดีตสามีอียิปส์ลักพาตัวลูก สุดทนให้กินแต่ผัก ใช้เป็นเครื่องมืออยู่ไทย")
เป็นกรณีที่สังคมให้ความสนใจไม่น้อย เมื่อช่วงปลายเดือนมกราคม 2564 คุณพ่อชาวอียิปต์คนหนึ่ง โพสต์ลงเฟซบุ๊กประกาศตามหาลูกสาว ระบุว่า ถูกภรรยาซึ่งเป็นแม่ของเด็กอุ้มลูกสาวหนีหายไป ซึ่งภรรยามีอาการทางจิต ชอบเอามีดมาควงเพื่อทำร้ายเขากับลูก ทำให้ชาวเน็ตต่างรู้สึกสงสารนั้น
ล่าสุด (22 เมษายน 2564) นางสาวแอ้ (นามสมมติ) ภรรยาของคุณพ่อชาวอียิปต์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ตนและครอบครัวทุกข์ใจอย่างหนัก เนื่องจากวันที่ 19 เมษายน ที่ผ่านมา อดีตสามีชาวอียิปต์ พร้อมหญิงสาวที่อ้างเป็นทนาย บุกชิงตัวลูกสาววัย 3 ขวบไปจากบ้านเช่าใน ต.ป่าเด็ง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี โดยทำทีเข้ามาเป็นลูกค้าร้านซักรีดของเพื่อนบ้านและพยายามเข้ามาอุ้มลูกสาว แต่ยายของเด็กมาเห็นจึงอุ้มเด็กกลับมา จากนั้นเมื่อเด็กไปเล่นกับลูกสาวของเพื่อนบ้านจึงฉวยโอกาสอุ้มเด็กขึ้นรถไป
เมื่อไปแจ้งตำรวจจึงทราบว่า ก่อนหน้านี้อดีตสามีได้เข้ามาขอลงบันทึกประวันเพื่อที่จะเอาตัวลูกสาวไปเพราะเป็นพ่อเด็กตามกฎหมาย แต่ทางตำรวจบอกว่าทำไม่ได้ เพราะอยู่ระหว่างฟ้องร้องในชั้นศาล
ตลอดเวลา 3 ปีที่ผ่านมา สามีโพสต์หมิ่นประมาทตนเรื่อยมาว่าตนมีอาการป่วยทางจิต ไม่สนใจดูแลลูก ไม่ให้อาหาร ไม่อาบน้ำ ไม่เปลี่ยนเสื้อผ้าให้ และมีอาการก้าวร้าวฉุนเฉียวใส่เขากับลูก บางครั้งขว้างปาข้าวของในบ้าน ควงมีดและกรรไกรต่อหน้า จึงขอโต้แย้งและเปิดเผยความจริงในมุมของตนบ้าง
สำหรับที่ผ่านมา ถ้าลูกหรือตนไม่ทำอะไรตามความต้องการ สามีจะมีอารมณ์ฉุนเฉียว แผดเสียงใส่ อีกทั้งสามีเป็นคนประหยัด จะไปทำธุระส่วนมากต้องเดิน บางครั้งต้องเดินกลางแดดร้อน ๆ 3-4 กิโลเมตร ส่วนอาหารที่เขาให้ลูกกิน แม้จะเป็นอาหารออร์แกนิก แต่ก็ให้กินอาหารซ้ำทุกมื้อ คือ ฟักทอง มันฝรั่ง แครอตบด และไข่ ไม่มีเนื้อสัตว์ ลูกสาวกินอาหารแบบนี้ตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 2 ขวบ ทำให้เบื่ออาหาร แถมไม่มีการเสริมวิตามิน ไม่ให้กินนม อ้างว่าไม่จำเป็น
กระทั่งตนทนกับสภาพกดดันไม่ไหว จึงแอบหนีมาหาพ่อแม่ที่หัวหิน เพื่อหาทางเอาลูกออกมาและเลิกกับสามี ไม่อยากให้ลูกเห็นสภาพพ่อแม่ทะเลาะกัน ส่วนที่เขาบอกว่าตนสติไม่ดี หนีออกจากบ้านมาทั้งที่ไม่เอามือถือและบัตรประชาชนออกมา เป็นเพราะเขายึดไว้หมด
ตอนนี้ตนตรวจสอบกับคนขับรถตู้ที่มารับเด็กไป ทราบว่าขับไปส่งที่หน้าหมู่บ้านหนึ่งใน จ.เชียงใหม่ ซึ่งเกรงว่าสามีจะเอาลูกออกนอกประเทศด้วย นอกจากนี้ ตนมองว่าที่ผ่านมาสามีไม่ได้รัก แต่ใช้ตนเป็นเครื่องมือทำให้เขาอยู่ในเมืองไทย เพราะเขาไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ไม่ได้เรียนจบมหาวิทยาลัย ไม่มีวุฒิทางศิลปะ มีแต่ประสบการณ์ และไม่มีใบอนุญาตทำงานเพราะเป็นวีซ่า
ทั้งนี้ เมื่อเข้าไปดูที่เฟซบุ๊กของผู้เป็นพ่อ ก็พบว่าเมื่อวันที่ 19 เมษายน ที่ผ่านมา เจ้าตัวโพสต์ภาพอุ้มลูกอยู่บนรถตู้ ตรงกับวันที่นางสาวแอ้บอกว่าลูกถูกอุ้มไปอีกด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก สำนักข่าวไทย
